โอเล็กซีย์ ดานิลอฟ หัวหน้าสภาความมั่นคงและการป้องกันแห่งชาติยูเครน เปิดเผยว่า การยกทัพตอบโต้ของยูเครนต่อกองกำลังรัสเซียนั้น “ประสบผลสำเร็จเป็นพิเศษ” ในช่วงไม่กี่วันมานี้
ความคิดเห็นของดานิลอฟ เป็นการประเมินเชิงบวกล่าสุดของทางการยูเครน เกี่ยวกับการยกทัพตอบโต้ที่เกิดขึ้นเป็นเวลากว่า 1 เดือนที่ผ่านมา แม้ว่าทางการรัสเซียจะปฏิเสธความก้าวหน้าทางการทหารของยูเครนใดๆ ในสงครามระลอกล่าสุดนี้
ฮันนา มาลิอาร์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงกลาโหมยูเครน ออกมาแถลงว่า ยูเครนสามารถรุกคืบและได้ดินแดนรอบเมืองบักห์มุตทางตะวันออกของยูเครนที่ถูกทำลาย ท่ามกลางการต่อต้านของรัสเซียอย่างดุเดือด ทั้งนี้ กองกำลังรัสเซียยึดเมืองบักห์มุตได้ในเดือน พ.ค. หลังจากสู้รบกันนานกว่า 10 เดือน
“ในขั้นตอนของการสู้รบที่กำลังดำเนินอยู่นี้ กองกำลังป้องกันของยูเครนกำลังบรรลุภารกิจอันดับหนึ่ง อันเป็นทำลายล้างกำลังคน อุปกรณ์ คลังเชื้อเพลิง ยานพาหนะทางทหาร ฐานบัญชาการ ปืนใหญ่และกองกำลังป้องกันภัยทางอากาศของกองทัพรัสเซียให้ได้มากที่สุด” ดานิลอฟระบุบนทวิตเตอร์ “ช่วง 2-3 วันที่ผ่านมา (ยูเครน) ประสบความสำเร็จเป็นพิเศษ” ดานิลอฟกล่าว โดยไม่ได้ให้รายละเอียดใดๆ จากสนามรบเพิ่มเติม
ยูเครนกำลังอยู่ในช่วงเริ่มต้นของเดินหน้าปฏิบัติการ เพื่อการยึดคืนดินแดนที่ถูกยึดครองไปโดยรัสเซียตืนมา นับตั้งแต่กองทัพรัสเซียเริ่มการรุกรานอย่างเต็มรูปแบบในเดือน ก.พ. 2565 และรัสเซียเองต้องเผชิญกับทุ่นระเบิด หลุมต่อต้านรถถัง และสิ่งกีดขวางอื่นๆ ตลอดจนแนวป้องกันเป็นชั้นๆ ที่มีรายงานว่าลึกถึง 20 กิโลเมตรในพื้นที่บางแห่งของยูเครนที่ถูกรุกราน
ในการประเมินครั้งล่าสุด สถาบันเพื่อการศึกษาสงคราม (ISW) ในกรุงวอชิงตัน ดี.ซี. กล่าวว่า ความเห็นของดานิลอฟดูเหมือนจะเป็นการเน้นย้ำถึง “การเดินศึกอย่างต่อเนื่องเพื่อจัดการกับกำลังคนและทรัพย์สินของรัสเซีย มากกว่าการพยายามใช้ยานยนต์ขนาดใหญ่กวาดล้าง เพื่อยึดดินแดนขนาดใหญ่กลับคืนมาอย่างรวดเร็ว”
ก่อนหน้านี้ มาลิอาร์กล่าวเมื่อวันที่ 3 ก.ค.ว่า ยูเครนได้ปลดปล่อยดินแดนประมาณ 37.4 ตารางกิโลเมตร ทางตะวันออกและทางใต้ของยูเครนเมื่อสัปดาห์ก่อน จากการครอบครองโดยกองทัพรัสเซียก่อนหน้านี้ ในขณะที่ ISW ระบุว่า “การดำเนินการในปัจจุบันของยูเครนไม่ได้บ่งชี้ถึงทางตัน หรือหลักฐานว่ายูเครนไม่สามารถยึดคืนพื้นที่ขนาดใหญ่ได้”
มีรายงานการรุกคืนพื้นที่ที่เพิ่มขึ้นทางตอนใต้ของยูเครน ซึ่ง วาเลรี เชอร์เชน โฆษกของทาฟเรีย หรือกองบัญชาการทางทหารตอนใต้ กล่าวว่า กองทหารยูเครนได้รุกคืบขึ้นไปถึง 2 กิโลเมตร ในทิศทางของเมืองเบอร์ดยานสก์ เพื่อโจมตีใส่การต่อต้านที่รุนแรงของรัสเซีย
ทั้งนี้ มาลิอาร์กล่าวว่า ในพื้นที่นอกบักห์มุต กองทหารยูเครนได้รุกคืบเข้ามาทางใต้ แต่ไม่มีความคืบหน้าทางตอนเหนือในเมืองที่มีการสู้รบรุนแรงกับทางรัสเซีย “…กองกำลังของเรากำลังเผชิญกับการต่อต้านอย่างรุนแรง” มาลิอาร์ระบุกับโทรทัศน์แห่งชาติยูเครน “ศัตรูกำลังหลั่งไหลเข้ามาเพื่อหยุดยั้งเราทางใต้และทางตะวันออก” นอกจากนี้ มาลิอาร์ยังกล่าวว่ากองกำลังรัสเซียกำลังรุกคืบขึ้นไปทางเหนือ ใกล้กับเมืองไลมานและเมืองสวาโตฟ ซึ่งเมื่อเร็วๆ นี้มีกองทัพรัสเซียเข้าประจำการเป็นพิเศษ
ในเมืองมาคีฟกาในเขตที่ถูกยึดครองโดยรัสเซียของภูมิภาคโดเนตสก์ทางตะวันออกนั้น กองทัพของยูเครนได้ทำลายการระดมกองกำลังรัสเซีย โดยเจ้าหน้าที่ที่ได่รับการแต่งตั้งจากรัสเซียกล่าวว่า มีพลเรือน 1 คนเสียชีวิต และอีก 36 คนได้รับบาดเจ็บจากการโจมตีของยูเครน
TASS สำนักข่าวของรัฐบาลรัสเซียรายงานว่า ในขณะเดียวกัน อิกอร์ โคนาเชนคอฟ โฆษกกระทรวงกลาโหมรัสเซียกล่าวว่า กองทหารรัสเซียขับไล่การโจมตีของยูเครน 10 ครั้ง ในทิศทางของโดเนตสก์ในช่วง 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา โคนาเชนคอฟยังอ้างอีกว่าทหารยูเครนหลายสิบนายได้รับบาดเจ็บหรือเสียชีวิต และมีอุปกรณ์สำคัญรวมถึงระบบ HIMARS ได้ถูกทำลายลง
รัสเซียยังอ้างว่ากองทัพของพวกเขาได้ขับไล่การโจมตีของยูเครน ใกล้กับเมืองไลมาน และขัดขวางปฏิบัติการของยูเครนในภูมิภาคซาปอริซเซีย ซึ่งยูเครนกล่าวว่ากองกำลังของพวกเขาได้เช้ายึดหมู่บ้านกลุ่มหนึ่งเอาไว้ได้แล้ว อย่างไรก็ดี ทั้งรัสเซียและยูเครนต่างฝ่ายต่างกล่าวว่า อีกฝ่ายกำลังประสบกับความสูญเสียอย่างหนัก และไม่สามารถตรวจสอบกำลังพลในแนวหน้ารบได้
ที่มา:
