วันนี้ (7 ก.ค.2566) นายประเสริฐ จันทรรวงทอง ส.ส.บัญชีรายชื่อ และเลขาธิการพรรคเพื่อไทย ให้สัมภาษณ์กรณีการโหวตนายกรัฐมนตรี วันที่ 13 ก.ค.นี้ มีความกังวลท่าทีของ ส.ว.หรือไม่ ว่า เท่าที่ฟังมีแค่ ส.ว.บางส่วนที่แสดงความคิดเห็น แต่เข้าใจว่า ส.ว.ส่วนมาก ยังสงวนท่าที คิดว่าการตัดสินใจของ ส.ว.จะตรงกับความต้องการของประชาชน
เมื่อถามว่าจะพูดคุยกับทางพรรคก้าวไกล ในเงื่อนไขมาตรา 112 ของ ส.ว.เพื่อปิดข้ออ้าง และผลักดันให้นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล และแคนดิเดตนายกรัฐมนตรี เป็นนายกฯ ตามเจตนารมณ์หรือไม่ นายประเสริฐ กล่าวว่า เป็นเรื่องที่ทางพรรคก้าวไกล ซึ่งเป็นพรรคหลักต้องพิจารณาเรื่องนี้ ส่วนในนามพรรคร่วม 8 พรรค เคยมีการพูดคุยเรื่องนี้กันมาก่อนหน้านี้แล้ว ดังนั้น เรื่องนี้จึงมีความชัดเจนระหว่าง 8 พรรคร่วม ส่วนกรณีนายกฯ เป็นเรื่องที่พรรคก้าวไกลต้องไปปรับกลยุทธ์เพื่อประโยชน์ในการเลือกนายกฯ
เมื่อถามว่า ท่าทีของ ส.ว. ชัดเจนเรื่องมาตรา 112 ทำให้มีการคาดการณ์ว่านายพิธาจะไม่ได้รับเรื่องในรอบแรก นายประเสริฐ กล่าวว่า หากฟังจากแกนนำพรรคก้าวไกลจะเห็นชัดเจนว่า เขามั่นใจว่าจะผ่าน พรรคก้าวไกลให้ความมั่นใจมาโดยตลอด ว่า ส.ว.จะสนับสนุน ก็ขอให้ดูการโหวตก่อน
ชี้หน้าที่หลัก “ก้าวไกล” เดินสายคุย ส.ว.
นายประเสริฐ กล่าวว่า พรรคเพื่อไทยช่วยเดินสายขอความร่วมมือกับ ส.ว.เป็นบางส่วน ซึ่งแกนนำทั้ง 8 พรรค หากใครรู้จัก ส.ว.คนใด ก็พยายามทำความเข้าใจอยู่ แต่ส่วนใหญ่คือพรรคก้าวไกลต้องเดินสายเป็นหลัก เมื่อถามย้ำว่าพรรคเพื่อไทยขยับช่วยในเรื่องนี้เยอะหรือไม่ นายประเสริฐ กล่าวว่า ก็เยอะอยู่ ในช่วง 2-3 วันนี้ ต้องทำการบ้านอย่างหนัก เพราะเหลือเวลาไม่ถึงสัปดาห์ ก็จะเลือกนายกฯ แล้ว
แนะนำให้ทุกฝ่ายสร้างบรรยากาศในการเลือกนายกฯ ไม่ว่าจะฝั่ง ส.ส.หรือ ส.ว. หรือแม้แต่ประชาชน ขอให้คำนึงถึงผลประโยชน์ชาติและประชาชน
ยืนยัน “เพื่อไทย” ไม่มีงูเห่า
เมื่อถามว่า 8 พรรคร่วมมีแผนสำรองหรือไม่ หากการโหวตรอบแรกแล้วนายพิธาไม่ได้รับเลือก หรือกรณีที่มีการเสนอชื่อแข่งแล้วทาง ส.ว.ไปสนับสนุน นายประเสริฐ กล่าวว่า ไม่มีแผนสำรอง หากในรอบแรกไม่ผ่านคงต้องกลับมาคุยกันอีกครั้ง ส่วนกรณีที่มีข้อกังวลว่าอาจจะมีพรรคที่เคยเป็นขั้วเก่าของรัฐบาลเสนอคนแข่งนั้น นายประเสริฐ กล่าวว่า หากฟังจากการให้สัมภาษณ์ของพรรครวมไทยสร้างชาติ และพรรคภูมิใจไทย จะเห็นชัดเจนว่าไม่สนับสนุนรัฐบาลเสียงข้างน้อย ซึ่งเรื่องนี้ก็เบาใจได้ระดับหนึ่ง แต่การเมืองก็เกิดอะไรขึ้นได้ จึงเป็นเรื่องที่แกนนำทั้ง 8 พรรคร่วมต้องประเมินสถานการณ์ให้ดี ส่วนกระแสงูเห่า ตนยังไม่ทราบ แต่ขอยืนยันว่าในส่วนของพรรคเพื่อไทยไม่มี
เมื่อถามว่าหากโหวตเลือกนายกฯ 2-3 ครั้งแล้ว นายพิธายังไม่ผ่าน จะมีอะไรเปลี่ยนแปลงหรือไม่ หรือจะสนับสนุนนายพิธาไปเรื่อย ๆ นายประเสริฐ กล่าวว่า เป็นเรื่องที่ 8 พรรคต้องกลับมาคุยกันเพื่อกำหนดยุทธศาสตร์ใหม่ ตนเองคิดว่าเป็นเรื่องจำเป็น ไหน ๆ ก็เดินทางมาด้วยกันแล้ว ไม่ว่าจะโหวตกี่ครั้งก็ต้องกลับมาคุยกันก่อน
พรรคก้าวไกลทราบอยู่แล้วว่าเพื่อไทยมีแคนดิเดตนายกฯ 3 คน ส่วนทางก้าวไกลมีคนเดียว แต่เรายังไม่ได้คุยกันในประเด็นนี้ และไม่ได้เตรียมแผนสำรองแต่อย่างใด ให้รอดูหน้างานตามขั้นตอนว่า 8 พรรคร่วมจะมีความคิดเห็นร่วมกันอย่างไรในการเดินหน้า
ประเสริฐ มั่นใจไม่เกิดรัฐบาลแห่งชาติ
เมื่อถามว่าหากเลือกใครเป็นนายกฯ ไม่ได้ อาจนำไปสู่การตั้งรัฐบาลแห่งชาติ นายประเสริฐ กล่าวว่า คงไม่เดินทางไปถึงจุดนั้น เชื่อว่าสุดท้ายแล้วประเทศมีทางออก การเป็นรัฐบาลแห่งชาติหากไม่มีฝ่ายค้านก็ไม่มีอำนาจถ่วงดุล ซึ่งไม่เป็นไปตามระบอบประชาธิปไตย จึงเชื่อว่าสมาชิกรัฐสภาจะใช้ดุลพินิจในการตัดสินเรื่องนี้ได้ และคงไม่เกิดรัฐบาลแห่งชาติขึ้น
ติดตาม ถ่ายทอดสด และ รายการพิเศษ “เลือกนายกฯ เลือกอนาคตประเทศไทย” ในวันที่ 13 ก.ค. ทางไทยพีบีเอส ตั้งแต่เวลา 08.00-12.00 น.
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง :
วัดใจขั้วรัฐบาลเดิม ชิงดำ “นายกฯ” หรือถอย?
“ชัยธวัช” หวังได้ “นายกฯ ” ตั้งแต่โหวตครั้งแรก เร่งทำความเข้าใจ ส.ว.