วันนี้ (7 ก.ค.2566) นายชัยธวัช ตุลาธน เลขาธิการพรรคก้าวไกล กล่าวถึงกรณี ส.ว.จะไม่โหวตสนับสนุนให้ นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล เป็นนายกฯ จากประเด็น ม.112 ว่า เป็นเพียงความเห็นของ ส.ว.บางคน แต่ ส.ว.ส่วนใหญ่ยังไม่แสดงออกเกี่ยวกับมาตรา 112 คิดว่าจะแสดงออกกันในวันโหวตเลือกนายกฯ ขออย่าเพิ่งประเมินสถานการณ์จากสิ่งที่เห็นเพราะสิ่งที่เป็นอาจจะไม่ใช่สิ่งที่เห็นอีกครั้งก็ได้
นายชัยธวัช มั่นใจว่า การที่ไปเจรจากับ ส.ว.จะทำให้ผ่านไปได้ด้วยดี และมั่นใจในวิจารณญาณของ ส.ว.ส่วนใหญ่ว่า อยากเห็นประเทศชาติเดินหน้าอย่างไร และการเลือกตั้งครั้งนี้เป็นโอกาสสำคัญที่ประชาชนได้แสดงออกว่า ต้องการคืนความปกติให้กับระบอบประชาธิปไตยของไทย ซึ่งตนยังเชื่อมั่นใน ส.ว.จำนวนมากที่จะให้โอกาสนี้กับประเทศไทย
เมื่อถามว่ามั่นใจว่า จะได้เสียง ส.ว.อีก 60 เสียงทั้งหมด หรือ ได้เสียง ส.ส.มาด้วยหรือไม่ นายชัยธวัช กล่าวว่า ก็เป็นสิทธิของท่านแต่ละคน เพราะเราไม่ได้ชวนมาจัดตั้งรัฐบาล แต่จะมี ส.ส.หลายคนใช้จุดยืนของตัวเองใช้สถานะผู้แทนของตัวเองปกป้องระบบไว้ให้ได้ ในสถานการณ์เปลี่ยนผ่านที่สำคัญ
อ่านข่าว “วันนอร์” หวัง 13 ก.ค. โหวตนายกฯ ฉลุย เชื่อ ส.ว.ใช้ดุลยพินิจเพื่อประเทศ
ส่วนจะมีการถอยบางเรื่องหรือไม่ เพื่อให้นายพิธาได้เป็นนายกฯ นายชัยธวัช กล่าวว่า จะเน้นเรื่องการพูดคุยและทำความเข้าใจ เพราะส่วนใหญ่ ส.ว.จะรับรู้ข้อมูลจากสื่อมวลชนแบบสั้น ๆ ซึ่งอาจไม่ตรงกับข้อเท็จจริง
เมื่อถามย้ำว่า สรุปจะไม่ลดเพดานเรื่องที่ ส.ว.ต้องการใช่หรือไม่ นายชัยธวัช กล่าวว่า ไม่แน่ใจว่าเพดานที่ ส.ว.ต้องการหมายถึงอะไร แต่ที่ผ่านมาพยายามอธิบายตลอดเวลาว่า เจตนารมณ์ของพรรคก้าวไกลเป็นอย่างไร มองเห็นปัญหาอย่างไร ซึ่งการทำของเราแบบนี้ดีต่อแนวทางประชาธิปไตยและดีต่อสถาบันพระมหากษัตริย์มากกว่า
ผู้สื่อข่าวยังถามย้ำว่า ยังยืนยันที่จะแก้ไข ม.112 ใช่หรือไม่ แม้จะมีการทักท้วงจาก ส.ว.นายชัยธวัช ยังมั่นใจว่า ถ้าได้อธิบายเหตุผลเชื่อว่า ส.ว.จะมีความเข้าใจมากขึ้น ซึ่งต้องทำให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้ในเวลาที่เหลือ ซึ่งในสัปดาห์หน้า นายพิธาและแกนนำพรรคก้าวไกล จะไปพูดคุยกับสังคมและประชาชนซึ่งจะได้สะท้อนผ่านไปยัง ส.ว.ด้วย
แต่วันนี้จะมีการหารือกับนายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานสภาฯ เรื่องการแสดงวิสัยทัศน์ของแคนดิเดตนายกฯ ที่ถูกเสนอชื่อว่า ก่อนโหวตควรจะมีเวลาและกระบวนการแสดงวิสัยทัศน์อย่างไร และเป็นไปได้หรือไม่ที่จะเปิดโอกาสให้สมาชิกรัฐสภาได้อภิปรายหรือซักถามอย่างเต็มที่ เพื่อให้โอกาสแคนดิเดตนายกฯ ทุกคนที่ถูกเสนอรายชื่อขึ้นมา ได้ตอบคำถาม เพื่อให้เกิดความชัดเจนก่อนลงมติ
ส่วนที่มีการวิเคราะห์กันว่า การโหวตเลือกนายกฯ ครั้งแรก นายพิธาอาจจะไม่ผ่านนั้น นายชัยธวัช ย้ำว่า สิ่งที่เป็นอาจไม่ใช่สิ่งที่เห็น ซึ่งหากวันที่ 13 ก.ค. ยังไม่ผ่านการคัดเลือกก็อาจต้องเสนอชื่อซ้ำในวันที่ 19 ก.ค.โดยจะไม่มีการเสนอครั้งเดียวแน่นอนแต่ก็ยังเชื่อว่าน่าจะจบในครั้งเดียว
อีกทั้งไม่กังวล หากจะมีการเสนอรายชื่อแคนดิเดตนายกฯ จากพรรคการเมืองอื่นขึ้นมาแข่ง เพราะถือเป็นเรื่องปกติในระบบรัฐสภา ที่ฝั่งเสียงข้างน้อยจะเสนอขึ้นมา ไม่ใช่เรื่องผิดปกติ
อ่านข่าว จับกระแสการเมือง : วันที่ 6 ก.ค.2566 เช็กเสียง ส.ว. โหวต “พิธา” นายกคนที่ 30
ขณะเดียวกันก็ไม่เชื่อว่า ส.ว.จะสนับสนุนรัฐบาลเสียงข้างน้อย พร้อมขออย่าเพิ่งสรุปว่า ต้องโหวตกี่ครั้งจึงจะได้นายกฯ โดยขอให้ดูจากสถานการณ์ที่เป็นจริงเพราะมีหลายปัจจัย และอย่าเพิ่งตัดว่าจะจบในครั้งเดียว
เมื่อถามว่า ก่อนการโหวตเลือกนายกฯ จะเปิดให้สมาชิกรัฐสภาได้มีการสอบถามข้อสงสัยต่าง ๆ เกี่ยวกับนายพิธาหรือไม่ นายชัยธวัช กล่าวว่า สิ่งนี้ยังไม่ใช่ข้อสรุป แต่เป็นสิ่งที่ตนเตรียมหารือกับประธานสภาฯ ว่าเป็นไปได้หรือไม่ เพราะจะดีกับทุกฝ่าย
เมื่อถามว่า พรรคก้าวไกลจะยอมให้แคนดิเดตนายกฯ จากพรรคเพื่อไทย เป็นนายกฯ หรือไม่ นายชัยธวัช ยืนยันว่า แคนดิเดตนายกฯ ยังมีคนเดียว อย่าพูดไปถึงตอนนั้น
ขณะเดียวกัน ขณะนี้ยังไม่สามารถบอกได้ว่าจะได้เสียง ส.ว.มาโหวตอีกหรือไม่ เพราะ ส.ว.ส่วนใหญ่ยังไม่ได้ออกมาพูดความเห็นของตัวเอง มีเพียงส่วนน้อยที่ออกมาให้ความเห็น แต่ก็เชื่อมั่นว่าเสียง ส.ว.ที่ยังเงียบอยู่ จะเป็นเสียงที่เปิดโอกาสคืนความปกติให้กับระบบการเมืองไทยให้เดินหน้าไปด้วยกัน
เมื่อถามว่า ส.ว.สายทหาร จะไม่มีการโหวตให้นายพิธานั้น นายชัยธวัช กล่าวว่า อย่าเพิ่งดูถูกอาชีพทหาร เพราะทหารจำนวนมากมีความหวังดีต่อประเทศชาติ
ตนได้มีโอกาสไปพูดคุยและอธิบายเหตุผลให้ได้รับฟัง ซึ่งทำทุกวัน ทั้งทหาร พลเรือน ตำรวจ และข้าราชการ ทำเต็มที่ที่สุดจนถึงวันสุดท้าย โดยยืนยันว่า ยังมีแสงสว่างในเรื่องนี้ ชีวิตต้องมีความหวัง
ส่วนที่กลุ่มผู้ชุมนุมจะออกมากดดันในการโหวตเลือกนายกฯ เป็นห่วงหรือไม่ นายชัยธวัช กล่าวว่า อย่าเพิ่งบอกว่า มาสนับสนุนพรรคก้าวไกล จากที่ตนเห็นแคมเปญ Respect My Vote คงเป็นการแสดงเจตจำนงของประชาชนที่ลงคะแนนเสียงว่า ให้เคารพผลเลือกตั้งและคะแนนเสียงของประชาชนเป็นสำคัญ
ต้องการให้ทุกฝ่ายปกป้องระบบที่ควรจะเป็น ไม่ใช่ปกป้องตัวบุคคลใดหรือพรรคการเมืองใด และไม่ทราบว่าจะมีกลุ่มใดออกมาทำอะไรบ้าง แต่การออกมาแสดงความเห็นทางการเมืองก็ไม่อยากให้มีความรุนแรง ซึ่งนายวันมูหะมัดนอร์ ได้กำชับเจ้าหน้าที่ในการรักษาความปลอดภัย ซึ่งน่าจะเป็นไปในทิศทางที่ดี เพราะประธานสภาได้ให้นโยบายไว้พอสมควร
อ่านข่าว “พิเชษฐ์” แย้มโหวตนายกฯ 3 รอบ หาก 13 ก.ค. ไม่ผ่าน ลุยต่อ 19-20 ก.ค.
เมื่อถามว่า หากนายพิธาไม่ได้รับเลือกให้เป็นนายกฯ ถึง 2 ครั้ง อาจมีการแสดงความเห็นในโลกโซเชียล ซึ่งน่ากลัวกว่าการลงถนนหรือไม่ นายชัยธวัช กล่าวว่า ตนตอบแทนประชาชนทั้งหมดไม่ได้ และอย่าเพิ่งไปคิด แต่อยากให้มองว่า อาจได้เฉลิมฉลองกันในช่วงเย็นวันที่ 13 ก.ค. 66
พร้อมยอมรับว่า หากมีการโหวตเลือกนายกฯ เนิ่นนานเกินไป อาจส่งผลต่อการจัดตั้งรัฐบาลและคณะรัฐมนตรีที่ล่าช้า เพราะจะมีการแต่งตั้งโยกย้ายข้าราชการ ในช่วงเดือน ก.ย. – ต.ค. และการพิจารณางบประมาณปี 67 รวมถึงนโยบายเร่งด่วน เช่น ภัยแล้ง เศรษฐกิจที่นักลงทุนชะลอการลงทุน เพราะรอดูว่าจะเกิดอะไรขึ้นกับการเมืองไทย ซึ่งจะกระทบไปหมด ดังนั้นถ้าเรื่องจบเร็วเท่าไรก็ยิ่งดี และเป็นการจบแบบเคารพผลการเลือกตั้ง ซึ่งจะทำให้การเมืองไทยมีเสถียรภาพ
ติดตาม ถ่ายทอดสด และ รายการพิเศษ “เลือกนายกฯ เลือกอนาคตประเทศไทย” ในวันที่ 13 ก.ค. ทางไทยพีบีเอส ตั้งแต่เวลา 08.00-12.00 น.
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง
ตร.ขีดรัศมี 50 เมตรรอบ “รัฐสภา” รับม็อบโหวตนายกฯ 13 ก.ค.
“วันนอร์” ย้ำ ยังคาดผลเลือกนายกฯไม่ได้