ทางการจีนแสดงท่าทีโกรธเคือง ต่อแถลงการณ์ขององค์การสนธิสัญญาแอตแลนติกเหนือ (NATO) ที่ระบุว่าจีนเป็นความท้าทายสำคัญต่อผลประโยชน์และความมั่นคงกลุ่มพันธมิตรทางการทหาร โดยในแถลงการณ์ ซึ่งเผยแพร่ในช่วงกลางการประชุมสุดยอด NATO เป็นเวลา 2 วันในกรุงวิลนีอุสเมืองหลวงของลิทัวเนีย ผู้นำ NATO กล่าวว่า สาธารณรัฐประชาชนจีนได้ท้าทายผลประโยชน์ ความมั่นคง และค่านิยมของกลุ่มพันธมิตร NATO ด้วย “ความทะเยอทะยานและนโยบายบีบบังคับ”
“สาธารณรัฐประชาชนจีนใช้เครื่องมือทางการเมือง เศรษฐกิจ และการทหารที่หลากหลาย เพื่อเพิ่มร่องรอยเหยียบย่ำทั่วโลก และแผ่อำนาจของพวกเขา ในขณะที่ยังคงคลุมเครือเกี่ยวกับกลยุทธ์ เจตนา และการเสริมกำลังทหาร” ผู้นำ NATO กล่าวในแถลงการณ์ “การปฏิบัติการทางไซเบอร์และไฮบริดที่มุ่งร้ายของจีน และวาทศิลป์เชิงเผชิญหน้า และให้ข้อมูลผิดๆ มุ่งเป้าไปที่พันธมิตร และเป็นอันตรายต่อความปลอดภัยของพันธมิตร”
NATO ยังระบุด้วยว่า จีนและรัสเซียมีส่วนร่วมใน “หุ้นส่วนทางยุทธศาสตร์ที่ลึกซึ้งยิ่งขึ้น” และทั้งสองประเทศมีส่วนร่วมใน “การตอกย้ำความพยายามที่จะตัดตอนระเบียบสากลตามกฎ” นอกจากนี้ บรรดาผู้นำ NATO ยังเรียกร้องให้จีนแสดงบทบาทที่ “สร้างสรรค์” ในฐานะ 1 ใน 5 สมาชิกคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ ที่สามารถลงมติยับยั้ง และครอบครองเก้าอี้คณะมนตรีได้อย่างถาวร และจีนควรประณาม “สงครามรุกรานยูเครน” ของรัสเซีย
หลังจากแถลงการณ์ของ NATO คณะผู้แทนจีนประจำสหภาพยุโรปได้ออกมาประณามความคิดเห็นดังกล่าว โดยกล่าวหาว่า NATO บิดเบือนจุดยืนของจีน และพยายามทำให้จีนเสื่อมเสียชื่อเสียงโดยจงใจ “เราคัดค้านและปฏิเสธเรื่องนี้อย่างหนักแน่น” แถลงการณ์ของคณะผู้แทนจีนประจำสหภาพยุโรประบุเมื่อวันอังคาร (11 ก.ค.)
ในบรรดาผู้นำที่เข้าร่วมการประชุมสุดยอด NATO ยังรวมถึง แอนโทนี อัลบานีส นายกรัฐมนตรีออสเตรเลีย ฟูมิโอะ คิชิดะ นายกรัฐมนตรีญี่ปุ่น คริส ฮิปกินส์ นายกรัฐมนตรีนิวซีแลนด์ และ ยุนซอกยอล ประธานาธิบดีเกาหลีใต้ ท่ามกลางความกังวลเกี่ยวกับความตึงเครียดที่เพิ่มขึ้นในภูมิภาคเอเชียตะวันออก จากประเด็นจีนถึงเกาหลีเหนือ ซึ่งเกาหลีเหนือเพิ่งทำการทดสอบขีปนาวุธพิสัยไกลที่ต้องสงสัยไปในวันพุธ (12 ก.ค.)
ออสเตรเลีย ญี่ปุ่น นิวซีแลนด์ และเกาหลีใต้ ยังได้แสดงการสนับสนุนยูเครน ผ่านการคว่ำบาตรรัสเซีย และให้การสนับสนุนทางทหารแก่ยูเครน โดยทั้ง 4 ประเทศได้รับเชิญให้เข้าร่วมการประชุมสุดยอดของ NATO เมื่อปีที่แล้วในกรุงมาดริดของสเปนด้วยเช่นกัน ทั้งนี้ เมื่อเดือน พ.ค. คิชิดะย้ำว่าญี่ปุ่นไม่มีแผนที่จะเข้าเป็นสมาชิก NATO หลังจากที่กลุ่มพันธมิตรกล่าวว่า พวกเขากำลังวางแผนที่จะเปิดสำนักงานประสานงานของ NATO ในกรุงโตเกียว ซึ่งเป็นครั้งแรกในภูมิภาคเอเชีย
ในแถลงการณ์ของคณะผู้แทนจีนประจำสหภาพยุโรประบุว่า ทางการจีนต่อต้าน “การเคลื่อนไหวไปทางตะวันออกของ NATO ในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก” และเตือนว่า “การกระทำใดๆ ที่เป็นอันตรายต่อสิทธิและผลประโยชน์อันชอบธรรมของจีน จะได้รับการตอบโต้อย่างเด็ดเดี่ยว”
สื่อของรัฐบาลจีนยังออกมาเคลื่อนไหวเพื่อโจมตี NATO เกี่ยวกับการเล่นบทประชาธิปไตยในภูมิภาคเอเชียตะวันออก โดยหนังสือพิมพ์ The Global Times ของรัฐบาลจีน ตีพิมพ์บทบรรณาธิการที่กล่าวหาว่า NATO เป็น “ขวาน หอก และพลั่วของวอชิงตัน” และเป็น “บ่อเกิดของสงคราม” ไม่ว่าจะไปที่ไหนก็ตาม
“NATO ต้องชักถอนมือมืดที่ขยายไปยังภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกโดยทันที และไม่ควรคิดแม้แต่จะบีบร่างลงเหลือครึ่งหนึ่งในอนาคต” บทบรรณาธิการของ The Global Times กล่าว โดยอ้างว่าประเทศส่วนใหญ่ในเอเชีย “ไม่เพียงแต่ไม่ยินดีต้อนรับ NATO แต่มองว่ามันเป็นสัตว์ประหลาดที่น่ากลัวที่ควรหลีกเลี่ยงด้วยประการทั้งปวง”
แถลงการณ์ของ NATO เมื่อวันอังคาร ได้วางโครงร่างจากแนวคิดเชิงกลยุทธ์ที่ NATO เผยแพร่เมื่อปีที่แล้ว และนับเป็นครั้งแรกที่ NATO ได้อ้างถึงความเสี่ยงที่เกิดจากความทะเยอทะยานและนโยบายของจีน โดยระบุว่าภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกนั้น “มีความสำคัญสำหรับ NATO เนื่องจากการพัฒนาในภูมิภาคนั้น สามารถส่งผลกระทบโดยตรงต่อความมั่นคงของยูโร-แอตแลนติก”
ที่มา:
