“เพื่อไทย” เหยียบเรือสองแคม มาตลอด? โหวตเลือกนายกฯ ครั้งที่ 2 ถึงเวลา “เลิก-ถ่างขา” ต้องเลือกแล้วว่าจะไปเรือลำไหน
ระหว่างเรือลำที่กำลังจะถูกผลักไปเป็นฝ่ายค้าน กับเรือลำที่ต่อขึ้นใหม่ๆ ซึ่งรอให้ไปเป็น “กัปตัน”
5 วัน 4 คืนนี้ “ก้าวไกล-เพื่อไทย” จะถกกันแบบ 2 พรรค หรือ 8 พรรคร่วมจัดตั้งรัฐบาล บอกแค่ว่าจะได้ข้อสรุปให้ได้ก่อนวันโหวตเลือกนายกฯ ครั้งที่ 2
โดย “ก้าวไกล” ย้ำจุดยืนเดิม หลักการเดิม และชื่อเดิม “นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์” ให้รัฐสภาโหวตเป็นนายกฯ
ขณะที่ “เพื่อไทย” ก็ย้ำที่จะเดินหน้าตาม “MOU” สนับสนุนนายพิธาเป็นนายกฯ … ให้ถึงที่สุด และคำว่า “ที่สุด” เป็นคำถามว่ามีคำนิยามไหม
สนับสนุน ก้าวไกลและนายพิธาไปให้ถึงที่สุด
หมอชลน่าน บอกว่า “ที่สุด” นั้น “ไม่มีนิยาม” ขึ้นอยู่กับความพึงพอใจ ขึ้นอยู่กับเหตุและผล ขึ้นอยู่กับความเสียหายและโอกาสของชาติบ้านเมือง ที่ต้องประมวลและประเมินกัน แต่หมอชลน่านก็หยอดไว้ว่า ถ้า”เพื่อไทย”ทำถึงที่สุดแล้ว ถ้า”ก้าวไกล”เห็นชอบ โดยไม่เกิดความเสียหาย ถ้าจบได้
ตกลง “เพื่อไทย” สนับสนุน “ก้าวไกล” และนายพิธาไปให้ถึงที่สุด มีคำนิยามไหม
คงต้องบอกว่าเวทีการเมืองออกแบบไม่ได้แล้ว ตรวจสอบประเด็นนี้กับแหล่งข่าวในขั้วรัฐบาลเดิม มีคำยืนยันว่า ไม่มีใครต้องการฝืนฉันทมติประชาชน แต่เมื่อหลักการและจุดยืนไม่ตรงกัน และดูจะส่อเค้า “หักล้าง” กันด้วย ดังนั้นก่อนวันโหวตเลือกนายกฯ ครั้งที่ 2 ก็ต้องโยนหินถามทาง กรณีจะเสนอคู่ชิง “เขย่าขวัญ-กดดัน”
“เพื่อไทย-ก้าวไกล” ต้องหาข้อสรุปให้ได้ว่าโหวตนายกฯ ครั้งที่ 2 จะเสนอใคร แต่เงื่อนไขเจรจาของ “เพื่อไทย” คือ เสนอชื่อ นายเศรษฐา ทวีสิน ทั้งที่รู้ผลเจรจาว่า “ก้าวไกล” ไม่มีทางยอมและจะยังต้องเสนอชื่อนายพิธา
เมื่อถูกปฏิเสธ จึงต้องประเมินและประมวล เพื่อสลัดตัวเองออกจาก “ก้าวไกล” ซึ่งจะมีเหตุมีผลเพียงพอ เพราะไม่ได้เกิดจากข้อขัดแย้ง 2 พรรค เพราะตามรายงาน ชี้ว่าจะใช้ข้อบังคับการประชุมรัฐสภา เป็นจุดตัดสิน ให้ญัตติโหวตนายกฯ พิธา “ครั้งที่ 2” ถูกตก
จะโดยประธานรัฐสภา เปิดโหวตผ่านการใช้ ข้อบังคับที่ 41 ประกอกับบทท้ายที่จะได้เสียง “กึ่งหนึ่ง” ของที่ประชุมร่วมกันสองสภา 376 เสียงชี้ขาด และบทสรุป ก็เป็นไปตามกฎ-กติกา แต่ก็เป็นไปตามเกมตามแผนที่วางไว้ด้วย ในขณะเดียวกัน “เพื่อไทย” ก็จะเสนอญัตติโหวตเลือก นายเศรษฐา ทวีสิน และสถานการณ์พร้อมเงื่อนไขที่เกิดขึ้น และผลโหวตก็จะบีบและผลัก “ก้าวไกล” ไปเป็นฝ่ายค้าน
เพราะฝ่ายที่จะโหวตสนับสนุนนายเศรษฐาย่อมไม่ใช่ “ก้าวไกล” แน่ๆ
แต่จะเป็น ภูมิใจไทย พลังประชารัฐ รวมไทยสร้างชาติ ชาติไทยพัฒนา ที่รวมตัวรอกันอยู่แล้ว และไปบวกกับ ส.ว.ที่เคยโหวต “ไม่เห็นด้วย” กับ “งดออกเสียง” แค่นี้คะแนนก็ผ่านเกณฑ์ 376 เสียงแล้ว ดีไม่ดี เกือบแตะ 500 ซ้ำรอยโหวตนายกฯ ประยุทธ์ ปี 2562 ด้วย
และล่าสุด พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ ลงนามแต่งตั้ง ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า เป็นประธานผู้ประสานงาน ส.ส.พรรคพลังประชารัฐ บทบาท “มือประสาน” ก็มาแล้ว และนอกจาก ป.ประยุทธ์ จะปลดล็อกให้ รวมไทยสร้างชาติ แล้ว มีรายงานว่า ป.ประวิตร ก็จะปลดล็อกให้ พลังประชารัฐ เช่นกัน อาจสรุปได้ในเร็วๆ นี้ ว่า “เพื่อไทย” ก็เลือกเส้นทางที่ไม่ใช่ 2 ลุง และเป็นสุภาพบุรุษผู้ลดความขัดแย้งทางการเมืองไปด้วย
สรุปว่า 5 วัน 4 คืน ก่อนโหวตเลือกนายกฯ ครั้งที่ 2 วันที่ 19 ก.ค. “เพื่อไทย” คงต้องตัดสินใจเลือกและลงเรือให้ถูกลำ
อ่านข่าวเพิ่ม :
ก้าวไกลยื่นแก้ ม.272 ปิดสวิตช์ ส.ว. ย้ำเสนอ “พิธา” รอบ 2