หลังการประชุมร่วมของรัฐสภา เพื่อลงมติโหวตเลือก “นายกรัฐมนตรีคนที่ 30” ของไทย ในวันที่ 13 ก.ค.2566 ที่ผ่านมา คอการเมือง คงต้องติดตามกันต่อว่าจะเป็นอย่างไร เพราะหลังจบโหวต นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล ยังไม่ได้นั่งเก้าอี้นายกฯ ในการโหวตครั้งแรกได้รับเสียงสนับสนุนไม่ถึง 376 เสียง สอบไม่ผ่านด่านสำคัญ มี ส.ว.เพียง 13 คนที่ลงคะแนนเสียงสนับสนุน
ประเด็นนี้ถูกถกเถียงในโซเชียลมีเดียอย่างกว้างขวาง มีการวิพากษ์วิจารณ์และใช้ถ้อยคำหยาบคายต่อ ส.ว. และ ส.ส.ที่ไม่โหวตให้นายพิธา นอกจากนี้โลกออกไลน์ยังผุดแฮชแท็ก #ธุรกิจสว จนติดเทรนด์ทวิตเตอร์ ตรวจสอบถึงธุรกิจ ส.ว. บางคนว่ามีกิจการอะไรบ้าง และบางคนถึงขั้นตามไปตรวจสอบประวัติ
ลามไปจนถึงร้านอาหารบางแห่ง เช่น ร้านอาหารปิ้งย่าง จ.ราชบุรี ประกาศไม่ให้ ส.ว. กกต. รวมถึงลูกหลานเข้ามาใช้บริการร้านนี้
อ่านข่าว : ประชุมสภา : “สมชาย” งัดหลักฐานก้าวไกลเสนอแก้ ม.112
ประเด็นนี้ ทำให้นายสมชาย แสวงการ สมาชิกวุฒิสภา (ส.ว.) กล่าวเตือนว่า ขณะนี้ ส.ว.หลายคนอยู่ ระหว่างรวบรวมหลักฐานที่มีบุคคลอื่นมาบูลลี่ตนเองและครอบครัว เพื่อแจ้งความดำเนินคดีตามกฎหมาย โดยเฉพาะในการประชุมรัฐสภา เมื่อวันที่ 13 ก.ค. ในการลงมติโหวตเลือกนายกฯ เพราะถือเป็นการคุกคาม ซึ่งถือว่าเลวร้ายกว่าในอดีต
อ่านข่าว : ที่ใครบอกว่าจะ “ปิดสวิตช์ ส.ว.” ทำได้จริงหรือ?
ส.ว.ประชุมกันแล้วว่าจะดำเนินคดีทั้งหมด เบื้องต้นได้ส่งหลักฐานให้ ปอท. แล้วทั้งหมด และขณะนี้อยู่ระหว่างการตั้งทีมกฎหมาย และเตือนบุคคลที่มีพฤติกรรมเหล่า อย่ามองเป็นเรื่องสนุกสนาน ทุกคนเตรียมหลักฐานไว้หมดแล้ว รวมทั้งจากนี้จะตรวจสอบทั้งหมดและย้อนหลังไป หากพบว่าเข้าข่ายหมิ่นประมาทก็จะดำเนินคดีทั้งหมด
รู้จัก “สมชาย แสวงการ”
สมชาย แสวงการ เกิดเมื่อวันที่ 12 เม.ย.2505 จบการศึกษาระดับชั้นมัธยมศึกษาจากโรงเรียนวัดราชบพิธ กรุงเทพมหานคร สำเร็จการศึกษา ศิลปศาสตรบัณฑิต (การเมืองการปกครอง) มหาวิทยาลัยรามคำแหง, ศิลปศาสตรมหาบัณฑิต (พัฒนาสังคม) สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์, ศิลปศาสตรดุษฎีบัณฑิตกิตติมศักดิ์ (นิเทศศาสตร์) มหาวิทยาลัยราชภัฏธนบุรี
นอกจกนี้ยังมีหลักสูตร การเมืองการปกครองในระบอบประชาธิปไตยสำหรับนักบริหารระดับสูง (ปปร.) รุ่นที่ 5 จาก สถาบันพระปกเกล้า, หลักสูตร การบริหารจัดการภาครัฐและกฎหมายมหาชน (ปรม.) รุ่นที่ 7 จาก สถาบันพระปกเกล้า, หลักสูตร ผู้บริหารกระบวนการยุติธรรมระดับสูง (บ.ย.ส.) รุ่นที่ 14 จาก วิทยาลัยการยุติธรรม สถาบันพัฒนาข้าราชการฝ่ายตุลาการศาลยุติธรรม, หลักสูตร การบริหารจัดการด้านความมั่นคงขั้นสูง รุ่นที่ 4 จาก สมาคมวิทยาลัยป้องกันราชอาณาจักรในพระบรมราชูปถัมภ์, หลักสูตร การป้องกันราชอาณาจักร (วปอ.) รุ่นที่ 58 จาก วิทยาลัยป้องกันราชอาณาจักร, หลักสูตร หลักนิติธรรมเพื่อประชาธิปไตย (นธป.) รุ่นที่ 3 จาก วิทยาลัยรัฐธรรมนูญ
สมชาย เคยทำงานด้านสื่อสารมวลชนมาก่อน ที่สถานีโทรทัศน์ช่องหนึ่ง ในตำแหน่งผู้สื่อข่าวสายเศรษฐกิจ สายการเมือง และสายทหาร ก่อนจะเติบโตในสายงานข่าวในตำแหน่งบรรณาธิการข่าว และคลุกคลีอยู่ในวงการสื่อสารมวลชนหลายปี อีกทั้งยังได้รับตำแหน่ง นายกสมาคมนักข่าววิทยุและโทรทัศน์ไทย 2 สมัย (พ.ศ. 2546-2548 และ 2548-2549)
กรรมการผู้จัดการ บริษัท ไอเอ็นเอ็นเรดิโอ จำกัด และผู้อำนวยการวิทยุร่วมด้วยช่วยกัน, บรรณาธิการข่าว สถานีโทรทัศน์ช่อง 3 อสมท., กรรมการมูลนิธิสำนึกรักบ้านเกิด และมูลนิธิร่วมด้วยช่วยกัน
ปี 2549 เขาได้รับการแต่งตั้งให้เป็น สมาชิกสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.)
นอกจากนี้ สมชาย ยังเคยเป็น สมาชิกรัฐสภา สรรหาภาควิชาชีพ พ.ศ. 2554, ประธานคณะกรรมาธิการสิทธิมนุษยชน สิทธิเสรีภาพและการคุ้มครองผู้บริโภค วุฒิสภา, โฆษกคณะกรรมาธิการวิสามัญกิจการวุฒิสภา, ที่ปรึกษากิตติมศักดิ์ประจำคณะกรรมาธิการศึกษาตรวจสอบเรื่องทุจริต และเสริมสร้างธรรมาภิบาล วุฒิสภา, ที่ปรึกษากิตติมศักดิ์ประจำคณะกรรมาธิการการต่างประเทศ วุฒิสภา
สมาชิกวุฒิสภา พ.ศ. 2551-2554, สมาชิกวุฒิสภา พ.ศ. 2554-2557
เคยได้รับเครื่องราชอิสริยาภรณ์ อันเป็นที่เชิดชูยิ่งช้างเผือก ชั้นสูงสุด มหาปรมาภรณ์ช้างเผือก (ม.ป.ช.) และเครื่องราชอิสริยาภรณ์อันมีเกียรติยศยิ่งมงกุฎไทย ชั้นสูงสุด มหาวชิรมงกุฎ (ม.ว.ม.)
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
“เสรี” ฟ้อง 2 เกรียนคีย์บอร์ด พรุ่งนี้ – “พรเพชร” ปัดตอบ ส.ว. ถูกล่าแม่มด
จับกระแสการเมือง : วันที่ 14 ก.ค.66 “ก้าวไกลเดินหน้าปิดสวิตช์ ส.ว.”
“หมอชลน่าน” ชี้ไม่มีดีลข้ามขั้ว ยันเคียงข้างก้าวไกลเสมอ
“เสรี” ซัดแก้ ม.272 ดิสเครดิต – “ประพันธุ์” ค้านเสนอชื่อ “พิธา” รอบ2
