กรณีโซเชียลโพสต์ข้อความหมิ่นประมาท และขุดคุยธุรกิจ ส.ว.และบางคนใช้ถ้อยคำที่ไม่เหมาะสม และกระทบต่อคนในครอบครัว
วันนี้ (17 ก.ค.2566) ที่อาคารรัฐสภา กลุ่ม ส.ว.7 คนนำโดยนายสมชาย แสวงการ นายเสรี สุวรรณภานนท์ นายกิตติศักดิ์ รัตนวราหะ นายออน กาจกระโทก นายจเด็จ อินสว่าง น.ส.ปิยฉัฏฐ์ วันเฉลิม นายวิวรรธน์ แสงสุริยะฉัตร แถลงกรณียื่นเรื่องฟ้องร้องคดีอาญา และคดีแพ่งกับบุคคลที่โพสต์ข้อความหมิ่นประมาท กระทบต่อธุรกิจของครอบครัว และเครือญาติ จนได้รับความเสียหาย หลังส.ว.ส่วนใหญ่ไม่โหวตเห็นชอบ และงดออกเสียงให้นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล เป็นนายกรัฐมนตรีเมื่อ 13 ก.ค.นี้
นายเสรี กล่าวว่า ส.ว.ไม่ทนกับพฤติกรรมที่เกิดขึ้น การโหวตนายกรัฐมนตรี เป็นกระบวนการของรัฐสภา แต่ภายหลังการลงมติแล้วพบว่าเกิดปรากฎการณ์ที่ไม่ควรเกิด มีส.ว. ส.ส. ถูกข่มขู่ คุกคาม ด้วยความโกรธ ความเกลียดชัง ซึ่งมีส.ว.ถูกกระทบสิทธิส่วนบุคคล และคนในครอบคร้วได้รบผลกระทบ
ฟ้องทนายดัง 2 คนปมหมิ่นประมาทส.ว.
เช้าวันนี้ให้ทนาย ฟ้องร้องนายเดชา กิตติวิทยานันท์ หรือทนายเดชา และนายภัทรพงศ์ ศุภักษร หรือทนายอั๋น บุรีรัมย์ กรณีเดียวกันไลฟ์ และหมิ่นประมาทฟ้องเรียกค่าเสียหายคนละ 500,000 บาท
นายเสรี ระบุอีกว่า ต่อไปจะดำเนินคดีกับคนที่กล่าวให้ร้ายผ่านทางโซเชียลทุกคน ทั้งผิดอาญาและผิดทางแพ่ง เพื่อให้รู้ว่าการใช้สิทธิเสรีภาพในการแสดงความเห็นต้องไม่กระทบหรือทำให้บุคคลอื่นเสียหาย
ส่วนตัวที่โดนโจมตีเรื่องตลาดเสรี เป็นการทำร้ายพ่อค้าแม่ค้าและคนงานทางอ้อม ทั้งที่เขาอาจเลือกพรรคก้าวไกล แต่กลับเอาเรื่องการเมืองไปกระทบชีวิตประชาชน คนค้าขาย คนที่ไปใช้บริการ
ส่วนนายสมชาย กล่าวว่า มีขณะนี้ ส.ว.กำลังรวบรวมหลักฐานเพื่อฟ้องร้องกับบุคคลที่ใส่ร้ายหรือโจมตี ทำให้เกิดความเสียหาย และเตรียมฟ้องร้องต่อหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง
การคุกคามที่เกิดขึ้น พบว่ามีลูก ส.ว.บางคน ได้รับข้อความข่มขู่ว่าจะข่มขืน ทั้งร่างกายและจิตใจ ถือเป็นเรื่องที่เลวร้ายอย่างมาก
ขณะเดียวกันยังพบการใช้ AI เผยแพร่ข้อความ ซึ่งเป็นกลไกของบางพรรคการเมืองที่มุ่งโจมตี ยืนยันว่าคนที่ทำแบบนั้น 100% ต้องโดนทุกคน ไม่ต้องมาขอขมา เพราะเป็นราคาแพงที่ต้องจ่าย ฐานะที่คุกคามและสร้างภัยให้กับคนอื่น
ถึงเวลาที่ต้องเปลี่ยนแปลงสังคมใหม่ การใช้สิทธิเรีภาพเพื่อวิพากษ์วิจารณ์ ไม่ใช่เสรีภาพที่จะคุกคาม ข่มขู่ ผู้ที่เห็นต่าง
ขณะที่นายวิวรรธน์ กล่าวว่า ธุรกิจยาสมุนไพรหมอเส็ง เป็นของพ่อ แม้จะไม่ได้เกี่ยวข้อง เพราะมีอาชีพเป็นทนายความ แต่ได้บอกกับผู้ที่ดูแลธุรกิจว่าให้แคปข้อความที่สร้างความเสียหายผ่านเพจเฟซบุ๊กหมอเส็ง และจะพิจารณาฟ้องร้องทั้งคดีอาญาและคดีแพ่ง
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง
ส.ว.ไม่ทนฟ้อง เกรียนคีย์บอร์ด โซเชียล#ตามธุรกิจสว.