“ชัยเกษม นิติสิริ” 1 ใน 3 แคนดิเดตนายกฯ เพื่อไทย วัย74 ปี หายป่วยจากอาการก้อนเลือดแห้งในสมอง สามารถเข้าประชุมพรรคฯ และเข้าประชุมสภาได้ตามปกติแล้ว
แม้ไม่มีบทบาทมากนักในพรรคเพื่อไทย แต่ในฐานะผู้เชี่ยวชาญด้านกฎหมาย เพราะเคยดำรงตำแหน่งอดีตอัยการสูงสุด จึงถูกเสนอชื่อให้เป็นแคนดิเดตรองจาก แพทองธาร ชินวัตร และเศรษฐา ทวีสิน
ชัยเกษม เคยให้สัมภาษณ์กับบีบีซีไทยว่า อาการป่วยหายแล้ว 100% แต่ไม่ขอพูดถึงโอกาสในการได้รับการเสนอชื่อให้เป็นนายกฯ และในพรรค พท. มีแคนดิเดตนายกฯ หลายคน
ชัยเกษม เป็นนักกฏหมายอาวุโส มีตำแหน่งทางวิชาการศาสตราจารย์พิเศษคณะนิติศาสตร์ จุฬาลงกรณ์ มหา วิทยาลัย เคยดำรงตำแหน่งอัยการสูงสุด และนั่งเก้าอี้ รมว.กระทรวงยุติธรรมในสมัยรัฐบาล น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร เป็นหนึ่งในรัฐมนตรีที่ไม่ยอมลาออก จนกระทั่งนาทีสุดท้ายก่อนการรัฐประหาร
และในการเลือกตั้งปี 2566 ชัยเกษม มีตำแหน่งประ ธานยุทธศาสตร์และทิศทางการเมืองพรรคเพื่อไทย
หากส่องประวัติการศึกษา ชัยเกษม เป็นคนเรียนเก่ง จบชั้นประถมศึกษา – มัธยมศึกษาตอนต้นจากโรงเรียนอัสสัมชัญ และชั้นมัธยมปลายจากโรงเรียนเตรียมอุดม ศึกษารุ่นที่ 28 จบปริญญาตรีคณะนิติศาสตร์และคณะรัฐศาสตร์ จากจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย, ปริญญาโท L.L.M จากมหาวิทยาลัยโคลัมเบีย สหรัฐอเมริกา ทุนรัฐบาลตามความต้องการของสำนักงานอัยการสูงสุด ทุนของมูลนิธิ Starr สหรัฐอเมริกา) และเนติบัณฑิตไทย
ชัยเกษม มีอาชีพรับราชการ เริ่มต้นในตำแหน่งอัยการผู้ช่วยจังหวัดสมุทรสาคร อัยการประจำกองคดี, อัยการจังหวัดภูเก็ต, อธิบดีอัยการฝ่ายคดีทรัพย์สินทางปัญญาและการค้าระหว่างประเทศ, อธิบดีอัยการฝ่ายคดีอัยการสูงสุด, อธิบดีอัยการฝ่ายปรึกษา, รองอัยการสูงสุด และเป็นอัยการสูงสุดในปี 2550
ในปี 2557 ชัยเกษมลงสมัครรับเลือกตั้ง ส.ส.ระบบบัญชีรายชื่อพรรคเพื่อไทย ลำดับที่ 5 แต่การเลือกตั้งครั้งนั้นเป็นโมฆะตามคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญ ในปีเดียวกันหลัง คสช.ยึดอำนาจ และ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร พ้นตำแหน่งนายกฯ
ชัยเกษม ได้รับมอบหมายให้ทำหน้าที่หัวหน้าคณะฝ่ายรัฐบาล ร่วมเจรจาหาทางออกจากวิกฤติการณ์ทางการเมือง แต่ตกลงกันไม่ได้ทำให้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ตัดสินใจยึดอำนาจการปกครองประเทศ
ในปี 2562 มีการเลือกตั้งพรรคเพื่อไทยได้เสนอชื่อ ชัยเกษม, คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธ์, นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ เป็นแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีของพรรคเพื่อไทย เช่นเดียวกับครั้งนี้ที่ถูกเสนอชื่อให้เป็นหนึ่งในแคนดิเดต นายกฯ
ชัยเกษม เคยตอบคำถามนักข่าวหลายครั้งหลังมีชื่อติด 1ใน 3 ว่าที่แคนดิเดตนายกฯพรรคเพื่อไทยว่า ตนอยู่ในการเมือง หากถูกเสนอชื่อก็มีความพร้อม แต่จะทำได้ดีแค่ไหนคนอื่นเป็นผู้พิจารณา ไม่ใช่ตนเป็นผู้พิจารณา
หากพรรคฯเสนอมาก็ต้องน้อมรับ เพราะพรรคฯเห็นว่ามีความเหมาะสม แม้ว่าจะเสนอชื่อเรียง 1,2,3 แต่เมื่อถึงเวลาพรรคฯก็ต้องพิจารณาคนที่เหมาะสมที่สุดในช่วงเวลานั้นอีกครั้ง
ชัยเกษม เคยบอกว่า หากเขาไม่ให้เป็นก็ไม่ได้สนใจอะไร แต่อาจจะสบายใจซะด้วยซ้ำ และเคยบอกกับพรรคฯว่า ถ้าจะหาใครมาเป็นแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีคนที่สาม หากเปิดชื่อแล้วคะแนนพรรคพุ่งสูงปรี๊ดให้เลือกคนนั้นเลย เพราะเราอยากได้คนที่ประชาชนต้องการ
ท่ามกลางสถานการณ์เมืองที่พลิกไปพลิกมา ชื่อ “ชัยเกษม” นับแต่มีการเลือกตั้งผ่านมา 2 ครั้งชื่อ ชัยเกษม ยังไม่เคยหล่นจากบัญชีว่าที่นายกฯ ต้องติดตามบทสรุปว่าเพื่อไทยจะส่งใครลงชิง
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
ว่าที่นายกฯ คนที่ 30 “เศรษฐา ทวีสิน” ใต้เงาเพื่อไทย
“อิ๊งค์” หนุน “เศรษฐา” นายกฯ หาก “พิธา” ชวดรอบ 2 เชื่อไร้งูเห่า