วันนี้ (25 ก.ค.2566) จากกรณีที่มีกระแสสังคมตั้งคำถามถึง “ผู้กองต้น” บอดี้การ์ดประจำตัว นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล ว่าเคยถูกดำเนินคดีอ้างเป็นตำรวจปราบปรามยาเสพติดแล้วขูดรีดทรัพย์เหยื่อเจ้าของร้านขายของชำ ซึ่งขณะนั้น พล.ต.ต.สุพิศาล ภักดีนฤนาถ ดำรงตำแหน่ง ผบก.ป. เป็นผู้แถลงผลการจับกุม โดยปัจจุบันเป็นหนึ่งในแกนนำพรรคก้าวไกลคนสำคัญ
ผู้สื่อข่าวได้เดินทางไปพบกับ พล.ต.ต.สุพิศาล ภักดีนฤนาถ อดีต ผบก.ป. และเป็นแกนนำพรรคก้าวไกล ที่บ้านพักใน จ.ราชบุรี ก่อนได้รับการเปิดเผยว่า เมื่อปี 2554 ตนได้รับคำสั่งจากผู้บังคับบัญชาให้แถลงผลการจับกุม ผู้กองต้น หรือ พร้อมพวกรวม 3 คน ก่อเหตุอุ้มเหยื่อเจ้าของร้านขายของชำไปทำร้ายร่างกายและปล้นทรัพย์ มีทองรูปพรรณ ทั้งสร้อยคอ สร้อยข้อมือ แหวน และเงินสด 60,000 บาท รวมทรัพย์สิน 276,800 บาท ก่อนปล่อยตัวและข่มขู่ให้ผู้เสียหายโอนเงินให้อีก โดยศาลพิพากษาจำคุกเป็นเวลา 12 ปี แต่ได้รับการลดหย่อนโทษและถูกปล่อยตัวมาเมื่อปี 2560 หลังจากนั้นได้มีการเปลี่ยนชื่ออยู่หลายครั้ง และเข้าทำงานเป็นพนักงานบริษัทรักษาความปลอดภัยประมาณปี 2562
ในส่วนของการเข้ามาการทำหน้าที่เป็นบอดี้การ์ดของ นายพิธา หัวหน้าพรรค ขอยืนยันว่าทางหัวหน้าพรรคไม่ได้รับทราบมาก่อน เนื่องจากบริษัทรักษาความปลอดภัยเป็นผู้จัดสรรคนมาให้ ซึ่งตนยังไม่มีโอกาสพบนายต้นอย่างจริงจังมาก่อน เห็นเพียงผ่านตา ยังเข้าใจว่าเป็นตำรวจมาก่อน เพราะตัดผมเกรียน บุคลิกภาพดี ไม่มีพฤติกรรมกร่างหรือก้าวร้าวแต่อย่างใด สำหรับการทำงานด้านต่างๆ ในพรรค นายต้นไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้อง
อย่างไรก็ตาม เรื่องที่เกิดขึ้นยอมรับว่าส่งผลกระทบต่อภาพลักษณ์ของนายพิธาในระดับหนึ่ง แต่ในมุมของตนและคนในพรรคมองว่าทุกคนควรได้รับโอกาส ไม่ว่าจะยากดีมีจน หรือแม้แต่นักโทษ ซึ่งเวลานี้นายต้นก็ได้รับบทลงโทษตามกฎหมายไปแล้ว ควรให้โอกาสเขาในการทำงาน ซึ่งเรื่องของความเท่าเทียมเป็นหนึ่งในนโยบายของพรรคที่ให้ความสำคัญมาโดยตลอด
อ่านข่าวอื่นๆ :
8 พรรคร่วมนัดถกวันนี้ “ชัยธวัช” มองเป็นผลดี ผู้ตรวจฯ ส่งตีความโหวตนายกฯ ซ้ำ