วันนี้ (25 ก.ค.2566) นายชัยธวัช ตุลาธน เลขาธิการพรรคก้าวไกล ระบุถึงการยกเลิกประชุม 8 พรรคร่วมจัดตั้งรัฐบาล ว่า ได้รับแจ้งจากพรรคเพื่อไทยว่า ภารกิจที่ได้รับมอบหมายไปยังไม่คืบหน้าเท่าที่ควรจึงเลื่อนไปก่อน ส่วนการประชุม 8 พรรคร่วมจัดตั้งรัฐบาลในครั้งต่อไป ทางพรรคเพื่อไทยก็ยังไม่ได้แจ้งให้ทราบ เนื่องจากสัปดาห์นี้ได้รับแจ้งจากประธานรัฐสภาว่า เลื่อนประชุมวิป 3 ฝ่ายในวันพรุ่งนี้ (26 ก.ค.) และเลื่อนประชุมร่วมรัฐสภาในวันที่ 27 ก.ค. ออกไปก่อน ซึ่งไม่ได้รับแจ้งว่ามีการเลื่อนเพราะเหตุผลใด
ทั้งนี้เชื่อว่า เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นไม่เกี่ยวข้องกับมาตรา 112 เพราะ MOU ของ 8 พรรคไม่ได้มีการระบุถึงเรื่องมาตรา 112 โดยตอนนี้ขออย่าเพิ่งสรุปว่า 8 พรรคแยกออกจากกัน ส่วนจะเปลี่ยนแปลง MOU หรือไม่ ต้องรอดูในรายละเอียด ซึ่งการเลื่อนประชุม 8 พรรค ในวันนี้น่าจะเป็นการส่งสัญญาณจากพรรคเพื่อไทยว่ากำลังเร่งหาทางออกที่ดีที่สุด
ส่วนการประสานงานกับ สว. นั้น ก้าวไกลก็ได้มีการพูดคุยกับ สว. ที่ไม่ได้โหวตให้ในคร้้งก่อน แต่ครั้งนี้มีสัญญาณว่าจะโหวตเมื่อมีการเสนอชื่อนายกรัฐมนตรีคนใหม่ และยังมีพรรคก้าวไกลร่วมรัฐบาลอยู่
ส่วนการให้พรรคเพื่อไทยเป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาลทางก้าวไกลจะมีข้อแลกเปลี่ยนอย่างไรนั้น นายชัยธวัช ยืนยันว่า หลังส่งไม้ต่อให้เพื่อไทยไปแล้วก็ต้องไว้วางใจพรรคเพื่อไทย โดยมั่นใจว่า พรรคเพื่อไทยทราบว่าพรรคก้าวไกลมีนโยบายไม่เอา 2 ลุง
ส่วนกรณีจะนำพรรคภูมิใจไทยมาร่วมรัฐบาลด้วยหรือไม่นั้น ต้องรอทางพรรคเพื่อไทยเสนอเข้ามา และให้ความเป็นธรรมกับพรรคเพื่อไทยเช่นกันว่า การเชิญพรรคต่าง ๆ มาพูดคุยนั้นไม่ใช่เชิญมาร่วมจัดตั้งรัฐบาลแค่รับฟังความคิดเห็นเท่านั้น
นายชัยธวัช กล่าวว่า พรรคก้าวไกลกับพรรคเพื่อไทยจะมีการพูดคุยกันให้เร็วที่สุดเพราะเวลามีจำกัด แต่ก็อาจจะขยับเวลาไปได้ เนื่องจากสัปดาห์นี้ไม่มีการประชุมร่วมรัฐสภา ทั้งนี้ไม่กังวลว่าจะมีพรรคการเมืองที่ 3 เข้ามาร่วมในการจัดตั้งรัฐบาลถ้า 8 พรรคจับมือกันแน่น โดยเฉพาะเพื่อไทยกับก้าวไกล เพราะการพลิกขั้วจัดตั้งรัฐบาลเสียงข้างน้อยไม่ได้เกิดขึ้นง่าย ๆ จะต้องมีเสียงสนับสนุนจากที่ประชุมรัฐสภา และขณะนี้อย่าเพิ่งพูดถึงการปรับเปลี่ยน MOU เพราะอาจจะมีรายละเอียดอื่น ๆ เพิ่มขึ้นมาจากทางพรรคเพื่อไทย
พร้อมกันนี้ยอมรับว่าเคยมีการพูดคุยกับ พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียาเวส ที่จะให้ตำแหน่งรองนายกฯ หากมาร่วมกันจัดตั้งรัฐบาล เพื่อให้มาช่วยกันปราบปรามการกระทำผิดกฎหมายที่สำคัญ ซึ่งเป็นการให้เกียรติกัน ส่วนข้อเสนอของ พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ ที่จะให้ก้าวไกลเสียสละนั้น เรื่องนี้ต้องเป็นการพูดคุยกันทั้ง 8 พรรคร่วม
สำหรับการประชุม สส.พรรคก้าวไกลในวันนี้เป็นการประชุมปกติ เพื่อเตรียมพร้อมการทำงานของ สส.ในช่วงต้นของการประชุมสภา
ส่วนกรณีที่ผู้ตรวจการแผ่นดิน ส่งเรื่องให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยเรื่องข้อบังคับที่ 41 อาจจะส่งผลให้สามารถเสนอชื่อ นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ เป็นนายกฯ ซ้ำได้อีกหรือไม่นั้น นายชัยธวัช ย้ำว่า จุดยืนของพรรคก้าวไกลไม่เห็นด้วยกับการเสนอให้ ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยเกี่ยวกับอำนาจของรัฐสภา เพราะสภามีอำนาจเต็มตามรัฐธรรมนูญ ยกเว้นที่มีการกำหนดว่าศาลรัฐธรรมนูญเข้ามาเกี่ยวข้องได้
ดังนั้นควรจะใช้ที่ประชุมสภาในการหาทางออก แต่ทั้งนี้เห็นด้วยกับการปลดล็อคเรื่องใดก็ตามที่ขัดรัฐธรรมนูญ และเป็นข้อจำกัดในการเสนอชื่อนายกรัฐมนตรี
ส่วนกรณีข้อเสนอให้รอการเสนอชื่อนายกฯ หลัง สว.ครบวาระ 10 เดือน เชื่อว่า ยังมีกระบวนการที่สามารถทำได้โดยไม่ต้องรอให้ถึงจุดนั้น และอย่าเพิ่งรีบสรุปว่าต้องเร่งจับมือกับขั้วอำนาจเดิมในการจัดตั้งรัฐบาล เพราะ 8 พรรคร่วมเดิมต้องจับมือกันให้แน่น และเชื่อว่าเมื่อถึงจุดหนึ่ง สว.จะร่วมหาทางออกให้บ้านเมือง พร้อมยืนยัน พรรคก้าวไกลจะจัดตั้งรัฐบาลให้ได้
ส่วนหากก้าวไกลจะต้องออกจาก 8 พรรคร่วมต้องรอให้เพื่อไทยเสนอมาเองหรือไม่ นายชัยธวัช ย้ำว่า เมื่อ 8 พรรคร่วมให้สิทธิกับพรรคเพื่อไทยไปแล้วก็ต้องขึ้นอยู่กับพรรคเพื่อไทยในการเลือกสมการ และต้องรอฟังจากพรรคเพื่อไทยอีกครั้ง
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง
“ทสท.” แถลงย้ำจุดยืน “ไม่หนุนสืบทอดอำนาจ – ไม่แก้ไข ม.112”
“อนุทิน” รอเลือกนายกฯ อีก 10 เดือนไม่ได้ ปัดตอบพรรคอันดับ 3 ตั้งรัฐบาล
“พิธา” ยังไม่รู้เหตุผลเลื่อนประชุมรัฐสภาวันที่ 27 ก.ค.
8 พรรคร่วมนัดถกวันนี้ “ชัยธวัช” มองเป็นผลดี ผู้ตรวจฯ ส่งตีความโหวตนายกฯ ซ้ำ