‘วิษณุ’ ชี้ ‘สว.’ หมดอายุ 11 พ.ค.67 รักษาการต่อระหว่างรอสรรหาใหม่ แต่โหวตเลือกนายกฯ ไม่ได้ เหตุอายุล็อกไว้ 5 ปี – ถามใครช่างคิดเลื่อนเลือก 10 เดือน คาดเห็นโฉม ครม.ใหม่ ส.ค.นี้ – มอง ‘นายกฯคนนอก’ ยากมาก
วิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี ฝ่ายกฎหมาย ระบุถึงกรณีข้อเสนอการยืดการโหวตนายกรัฐมนตรีใออกไป 10 เดือนทเพื่อรอให้สมาชิกวุฒิสภา (สว.) หมดวาระลง ว่า ตนไม่เคยได้ยิน ได้ยินแต่จากพรรคทั้งหลายพากันปฏิเสธ ไม่ยอมให้เกิดเหตุการณ์นี้เกิดขึ้น และรัฐบาลเองก็ไม่อยากที่จะอยู่อย่างนั้น ซึ่งแต่ละคนสมควรที่หมดเวลาแล้วก็ควรแยกย้ายกันไปทำมาหากิน
เมื่อถามว่า เป็นทางที่พรรคก้าวไกล ต้องการยืดเวลาออกไป วิษณุ กล่าวว่า พรรคเพื่อไทยเคยพูดแล้วว่าหนทางนี้เป็นหนทางสุดท้ายที่ต้องคิด เพราะมีหนทางอื่น มีวิธีอื่นและมองว่าไม่มีประโยชน์ที่จะถ่วงเวลาไป อย่างนั้น เพราะการจะแต่งตั้งโยกย้ายข้าราชการ ก็ลำบาก จะเสนองบประมาณเข้าสู่สภาก็ไม่ได้ และระหว่างนี้ยังคงต้องไปตอบกระทู้หากมีการถามมา
โดย วิษณุ ยังถามกลับว่า จะไปลำบากทำแบบนั้นทำไม ในเมื่อมันไม่ได้ลำบากยากเย็นในการตั้ง เพียงแต่หนักนิดเบาหน่อย ถอยหน่อย อะไรกันหน่อย มันก็สามารถทำได้ ซึ่งรัฐบาลรักษาการก็ไม่ได้ต้องการที่จะอยู่อย่างนั้น และฝ่ายเขาเองให้ก็ไม่ได้อยากให้อยู่แบบนั้นแบบนั้น รวมไปถึงประชาชน ก็ยิ่งไม่อยากให้เป็นแบบนั้น อยากเห็นรัฐบาลไม่ว่าพรรคใดก็ตาม ช่วยมาเป็นรัฐบาลทีเถอะ
ส่วนหาก สว.หมดวาระลงขั้นตอนต่อไปในนั้น วิษณุกล่าวว่า ในรัฐธรรมนูญเขียนไว้ ระหว่างที่การคัดสรร สว.ชุดใหม่ สว.เดิม ต้องรักษาการต่อไปก่อน แต่ไม่สามารถโหวตเลือกนายกรัฐมนตรีได้ เพราะล็อกไว้ที่ 5 ปี ในวันที่ 11 พ.ค. 2567 ก็หมดวาระ แต่ สว.ก็มีหน้าที่อื่น ที่ไม่ใช่การเลือกนายกรัฐมนตรี ตามมาตรา 272
ทั้งนี้ วิษณุ กล่าวว่า ไม่ทราบว่าจะใช้เวลาในการสรรหา สว.ชุดใหม่นานเท่าใด เพราะมีกฎหมายลูกว่าด้วยการคัดสรร สว.จากอาชีพ ไม่ได้คัดสรรตามจังหวัดโดยมีคณะกรรมการเลือกตั้ง (กกต.) เป็นผู้จัดการ โดยเมื่อใกล้หมดวาระ ทาง กกต.จะเป็นผู้วางไทม์ไลน์การสรรหา
ส่วนมีโอกาสที่จะแก้ไขจากการสรรหามาเป็นการเลือกตั้งแทนหรือไม่ วิษณุ กล่าวว่า แบบใหม่จะต้องเลือกตั้ง แต่ไม่ได้เลือกโดยตรง เป็นการเลือกจากอาชีพ จากกลุ่มต่างๆ
“ส่วนหากจะเปลี่ยนวิธีใหม่ จะต้องแก้รัฐธรรมนูญถือเป็นเรื่องใหญ่มากใหญ่สุดๆ จนอาจจะต้องทำประชามติกันเลย”
โดย วิษณุ ยังอธิบายด้วยว่า บทบัญญัติในการสรรหา สว.แบบใหม่เขียนไว้ในหลายมาตรา เพราะฉะนั้นการแก้จะต้องรื้อ และคิดว่าคงไม่มีใครทำแบบนั้น นอกจากเขียนรัฐธรรมนูญใหม่ทั้งฉบับ
ขณะเดียวกัน วิษณุ ยังกล่าวถึงกรณีที่มีการถกเถียงผู้ตรวจการแผ่นดิน สามารถยื่นคำร้องให้ศาลรัฐธรรมนูญตีความ กรณีการใช้ข้อบังคับการประชุมรัฐสภาข้อที่ 41 ไม่สามารถโหวตเลือกนายกรัฐมนตรี ซ้ำได้ทเนื่องจากเป็นญัตติที่ถูกตีตกไปแล้วนั้น ว่า ตนไม่ขอตอบในเรื่องนี้ เมื่อผู้ตรวจการแผ่นดินชี้แล้วก็เคารพ และเมื่อส่งให้ศาลรัฐธรรมนูญตีความ ก็ต้องรอฟังจากศาล
เมื่อถามว่า ทำให้ต้องยืดเวลาการโหวตเลือกนายกรัฐมนตรีในวันที่ 27 ก.ค.นี้ออกไป วิษณุ กล่าวว่า ก็เป็นธรรมดา โดยได้ยินว่าทางสภาฯมีการเลื่อนโหวตในวันดังกล่าวอยู่แล้ว ซึ่งก็ถูกต้อง ส่วนจะเลื่อนไปนานแค่ไหนทางผู้ตรวจการแผ่นดิน ขอให้รอจนกว่าศาลรัฐธรรมนูญจะมีคำวินิจฉัย ซึ่งในระหว่างนี้ เอาไว้ก่อนมีการคุ้มครองชั่วคราวไม่พอและต่อไปนี้ ต้องรอตามรัฐธรรมนูญวินิจฉัย และคิดว่าศาลรัฐธรรมนูญคงไม่ใช้เวลานาน เนื่องจากเป็นปัญหาข้อกฎหมาย ไม่ใช่ปัญหาข้อเท็จจริง แต่เราต้องให้เวลาพอสมควร ที่ให้อีกฝ่ายได้ชี้แจง
ส่วนปฏิทินการได้มาซึ่งนายกรัฐมนตรีและรัฐบาล ที่ดูเหมือนว่าจะมีการขยับไทม์ไลน์อออกไป คิดว่าอย่างช้าควรแล้วเสร็จเมื่อใดนั้น วิษณุ กล่าวว่า ขณะนี้เรายังรู้สึกเดือดร้อนทนไม่ไหวใครช่างคิดให้ขยับไปตั้ง 10 เดือน เพราะฉะนั้นคิดว่าถ้าจะขยับไปตอนนี้ก็คงไม่มากโดยตนมองในแง่ดี น่าจะได้ในเดือนสิงหาคมน่าจะได้นายกรัฐมนตรี และรัฐบาลใหม่ แต่ยังทำงานไม่ได้ในระหว่างนั้น เพราะต้องตั้งมครม. เข้าถวายสัตย์ปฏิญาณ ก่อนรับตำแหน่งรวมไปถึง การแถลงนโยบายต่อสภาฯ ด้วย
เมื่อถามย้ำว่า หากไม่สามารถหาทางออกได้จริง ข้อเสนอนายกฯคนนอก มีความเป็นไปได้หรือไม่ วิษณุ กล่าวว่า มีความเป็นไปได้ทั้งนั้น แต่ยากมาก การที่จะมีนายกฯคนนอก ต้องอาศัยเสียงตามมาตรา 272 วรรค 2 ต้องอาศัยเสียงจากสภาฯเกินกว่า 376 เสียง ซึ่งวถ่นวายยุ่งยากในขั้นตอน ไม่มีใครคิดไปถึงขั้นนั้น
ส่วนหากหลุดเดือนสิงหาคมไปรัฐบาลรักษาการต้องเตรียมอะไรหรือไม่ วิษณุ กล่าวว่า ไม่มีอะไรต้องเตรียม เพราะการแต่งตั้งโยกย้ายสามารถทำได้ แต่ต้องขอความเห็นชอบจาก กกต.แต่เป็นห่วงว่า ผู้ว่าราชการจังหวัดจะเกษียณอายุราชการหลายจังหวัด ปลัดกระทรวง อธิบดี ที่สามารถเสนอแต่งตั้ง ได้ตามปกติ แต่ต้องอาศัยการเห็นชอบจาก กกต. ส่วนงบประมาณก็ใช้งบกลางปีที่แล้วเหมือนคราวก่อน ส่วนงบทำการในส่วนเงินเดือนค่าตอบแทนจะไปลงทุนโครงการอะไรไม่ได้ ยกเว้นเป็นโครงการผูกพันมาก่อน เสนองบประมาณเข้าสภาฯไม่ได้
เมื่อถามว่าตั้งแต่ วิษณุ รับราชการมาเคยพบกับสถานการณ์การจัดตั้งรัฐบาลที่ลำบากอย่างนี้หรือไม่ วิษณุ กล่าวว่า ตนเองอยู่ในช่วงการเปลี่ยนผ่านรัฐบาลมากว่า 11 ครั้ง ซึ่งแต่ละครั้ง ก็มีเหตุการณ์แปลกไม่เหมือนกัน มีใจหายใจคว่ำ แต่มันก็ผ่านพ้นไปได้ และคิดว่าครั้งนี้ก็เช่นกัน เพียงแค่ไม่เหมือนวันนี้เพราะคนละอย่างกัน อาจมองว่ามันแย่แล้วแต่สุดท้ายก็ผ่านไปได้