หน้าแรก Thai PBS เพื่อไทย ติดหล่ม “ล้มละลาย” ความน่าเชื่อถือ

เพื่อไทย ติดหล่ม “ล้มละลาย” ความน่าเชื่อถือ

70
0
เพื่อไทย-ติดหล่ม-“ล้มละลาย”-ความน่าเชื่อถือ

เละเป็นโจ๊ก และยังหาทางออกไม่เจอ หลังเฮียชู “ชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ ออกมาเปิดข้อมูลว่าที่แคนดิเดตนายกรัฐมนตรี เสี่ยนิด “เศรษฐา ทวีสิน” จากพรรคเพื่อไทยรับผลประโยชน์จากการทำนิติกรรมอำพราง สมรู้ร่วมคิดคนขายที่ดินทำเลทองย่านสารสิน ใช้สูตรโอน 12 คน 12 วัน จากคณะบุคคล เป็นบุคคลธรรมดา เลี่ยงภาษี 521 ล้าน

ยังไม่ทันสลับขั้วก็เกิดเหตุการณ์พลิกล็อก ช็อกตัวเองเพื่อไทยหวังต้องการจบดีลเร็วๆ เพื่อเปิดทางให้ “ทักษิณ ชินวัตร” แลนด์ดิ้งเครื่องบินเจ็ท กลับเมืองไทย 10 ส.ค. ก็ต้องเลื่อนไปโดยไม่มีกำหนด เมื่อศาลรัฐธรรมนูญ เลื่อนการอ่านคำวินิจฉัยปมเสนอชื่อ “พิธา ลิ้มเจริญรัตน์” ซ้ำเป็นวันที่ 16 ส.ค.

ส่งผลให้ ภูมิธรรม เวชยชัย รองหัวหน้าพรรคเพื่อไทย (พท.) ต้องประกาศเลื่อนการแถลงข่าวจัดตั้งรัฐบาลเพื่อไทยออกไปก่อน

รศ.ดร.ยุทธพร อิสรชัย อาจารย์ประจำคณะรัฐศาสตร์มหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช วิเคราะห์ปรากฏการณ์ทางการเมืองที่เกิดขึ้นว่า ในระยะสั้นจะส่งผลกระทบต่อการจัดตั้งรัฐบาล และหากทำให้เกิดความล่าช้าออกไป โอกาสที่พรรคเพื่อไทยจะจับขั้วกับพรรคการเมืองอื่นๆจะพลิกผันได้ตลอดเวลา ส่วนในระยะยาวจะส่งผลกระทบต่อความเชื่อมั่นทางเศรษฐกิจและการเมือง

รศ.ดร.ยุทธพร มองว่า การที่ศาลรัฐธรรมนูญยังไม่มีคำวินิจฉัยออกมา ชี้ให้เห็นกระบวนการทำงานขององค์กรอิสระโดย เฉพาะศาลรัฐธรรมนูญ ที่ถูกตั้งคำถามมาตลอดระยะเวลา 10 ปีว่า ทำหน้าที่ถูกต้องชอบธรรมเพียงใด และตอบโจทย์กับการมีองค์กรเหล่านี้หรือไม่ เพราะนี่คือสิ่งสำคัญ ที่จะทำ ให้การเดินหน้าต่อเพื่อให้การเมืองมีเสถียรภาพ

ขณะนี้พรรคเพื่อไทยอยู่ในภาวะล้มละลายทางความน่าเชื่อถือ และโอกาสที่จะเดินหน้าต่อทางการเมือง ทั้งในอนาคตและปัจจุบัน จึงเป็นเรื่องยาก เพื่อไทยต้องเผชิญหน้าต่อกับพรรคการเมืองในฝั่งซีก 188 เสียง ต้องเจอปัญหาการต่อรอง

นอกจากนี้ยังเผชิญกับการเมืองใน 8 พรรคขั้วเดิมว่าจะเดินต่อกันอย่างไร หลังจากพรรคก้าวไกลออกไปแล้ว ความชอบธรรมจะเป็นอย่างไรที่สำคัญ พรรคเพื่อไทยยังต้องเจอปัญหาการเมืองในฝั่ง สว. 250 เสียงอีก

ซึ่งที่ผ่านมา สว.ไม่เอาทั้งพรรคก้าวไกล และนายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ และขณะนี้อาจจะเจอปัญหาไม่เอา นายเศรษฐา ทวีสิน อีกจึงชี้ให้เห็นชัดว่ากระบวนการทางเมืองเหล่านี้ เป็นโจทย์นี้ทำให้เพื่อไทยเดินเกมยาก

รศ.ดร.ยุทธชัย กล่าวอีกว่า การที่คำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญยังไม่ออกมา ก็เป็นประเด็นชี้ให้เห็นว่าท้ายที่สุดแล้ว กระบวนการโหวตเลือกนายกฯ เพื่อไทยก็จะถูกบีบให้เหลือเพียงแค่หนึ่งครั้ง

แม้มตินี้จะขัดกับรัฐธรรมนูญหรืออะไรก็เป็นอีกเรื่องหนึ่ง ก็ยังถูกไฟต์บังคับ ดังนั้นเพื่อไทยในฐานะผู้เล่นเกมก็จะถูกบีบด้วยเช่นเดียวกัน

หากเศรษฐา พลาด ไม่ว่าจะด้วยเหตุใดก็แล้วแต่ เช่น โหวตไม่ผ่าน หรือพรรคเพื่อไทยไม่ส่ง หรือยอมถอดใจไปเอง แต่จะไม่มีชื่อของ “อุ๊งอิ๊ง” แพทองธาร ถูกเสนอชิงตำแหน่งนายกฯ และเชื่อว่า ทักษิณ จะไม่เอาลูกสาวของตัวเอง มาเสี่ยงในเกมแบบนี้แน่นอน

นักวิชาการคนเดิม กล่าวว่า ดังนั้นเพื่อไทยจะไม่มีชื่อของ อุ๊งอิ๊ง และขณะเดียวกันก็จะไม่มีชื่อของนายชัยเกษม นิติสิริ ด้วยเช่นกัน ด้วยสถานการณ์การเมืองที่ติดล็อก ไม่ว่าพรรคไหนหรือใครจะมาเป็นนายกฯ ก็อยู่ยาก เนื่องจากด้วยกลไกของการเมืองที่ถูกควบคุมกำกับ

ท้ายที่สุดแกนนำในการจัดตั้งรัฐบาลอาจจะไปตกที่พรรคอันดับ 3 คือ พรรคภูมิใจไทยของนายอนุทิน ชาญวีรกูล หรือ พรรคพลังประชารัฐของ “บิ๊กป้อม “ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรรณ

สำหรับพิธา ยังเป็นเรื่องยากที่จะกลับมาได้ ทั้งติดปัญหาการห้ามโหวตซ้ำ และการที่พรรคก้าวไกลไม่ได้รับการสนับสนุนจากพรรค 188 เสียง และเสียง สว. มันก็ติดล็อกไปหมด มีแนวโน้มว่าสุดท้าย นายเศรษฐาจะถอดใจไม่เข้ามาเปลืองตัว

รศ.ดร.ยุทธพร ทิ้งท้ายว่า ช่วงรอยต่อระหว่างนี้ จนถึงวันที่ 16 ส.ค. ที่รอคำวินิจฉัยจากศาลรัฐธรรมนูญอะไรก็เกิดขึ้นได้ การเมืองไทยทุกวันนี้ หลายคนบอกว่า ให้จับตาวันต่อวัน หรือชั่วโมงต่อชั่วโมง แต่ส่วนตัวมองว่าต้องจับตาทุกวินาที เพราะสถานการณ์การพลิกไปพลิกมาได้ตลอดเวลา

และระหว่างนี้แต่ละฝ่ายอาจมีการเตรียมการจัดตั้งรัฐบาลของตนเองแล้ว ซึ่งมีความเป็นไปได้สูงมาก

ทิ้งคำตอบไว้

กรุณาใส่ความคิดเห็นของคุณ!
กรุณาใส่ชื่อของคุณที่นี่