วันนี้ (6 ส.ค.2566) นายชวน หลีกภัย สส. บัญชีรายชื่อพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงจุดยืนของพรรคในการร่วมรัฐบาล ว่า หัวหน้าพรรคและโฆษกได้ออกมาให้สัมภาษณ์แล้วและทั้งหมดขึ้นอยู่กับมติของพรรค ที่ต้องเป็นไปตามข้อบังคับพรรค ส่วนใครที่ไปพบก็ถือเป็นเรื่องส่วนตัวไม่ใช่เรื่องของพรรค ทั้งนี้ตนได้สอบถามคนที่เป็นข่าวว่าเดินทางไปฮ่องกงแล้วซึ่งคำตอบก็ตามที่เคยได้ให้สัมภาษณ์ไปแล้ว
ด้านนายบัญญัติ บรรทัดฐาน สส. บัญชีรายชื่อพรรคประชาธิปัตย์ เชื่อมั่นว่าการประชุมใหญ่วิสามัญ เพื่อเลือกกรรมการบริหาร พรรคประชาธิปัตย์ ชุดใหม่ในวันนี้จะไม่ล่ม แต่ยอมรับว่าฟังจากสมาชิกหลายคนเบื่อ และมีภารกิจ แต่คงครบองค์ประชุม
ส่วนกระแสข่าวพรรคประชาธิปัตย์จะไปร่วมรัฐบาล เข้าใจว่าเกิดจะแถลงการณ์สาขาภาคอีสาน แต่ตนเข้าใจว่าไม่ใช่เฉพาะสมาชิกภาคอีสานเท่านั้น แต่มีหลายภาคเริ่มพูดกันว่า เราไม่น่าจะไปร่วมรัฐบาล เพราะที่ผ่านมา ถือว่าเป็นการร่วมรัฐบาลที่พรรคประชาธิปัตย์ ค่อนข้างจะมีผลงานในหลายเรื่อง ทั้งเรื่องประกันรายได้ และสินค้าทางการเกษตร รวมถึงผลงานกระทรวงพาณิชย์ ก็ทำงานดีแต่สุดท้ายการเลือกตั้ง กลับไม่มีน้ำหนักให้ประชาชนลงคะแนนให้ ซึ่งการที่บอกว่าเป็นความคิดของ 4 อดีตหัวหน้าพรรค ที่ไม่อยากให้ร่วมรัฐบาลนั้น ข้อเท็จจริงเป็นความคิดของสมาชิกพรรค ที่เรานำมาแล้วนั่งวิเคราะห์ ว่าไม่ควรไปร่วมรัฐบาลแต่ควรจะ เร่งฟื้นฟูกอบกู้พรรค ทำงานหนักในสภาอย่างจริงจัง ซึ่งถ้าได้คณะกรรมการบริหารพรรคชุดใหม่ จะได้นำข้อเสนอไปพิจารณา
นายบัญญัติ กล่าวว่า พรรคประชาธิปัตย์เป็นพรรคที่มีความเป็นประชาธิปไตยภายในพรรค เมื่อสมาชิกพูดอะไรผู้บริหารก็จะรับฟัง เมื่อนำมาวิเคราะห์และมีเหตุผล ก็น่าที่จะคล้อยตาม พร้อมกันนี้ยังย้ำว่า ความคิดที่ไม่อยากให้พรรคไปร่วมรัฐบาลเป็นความคิดของสมาชิก จากหลายภาค ซึ่งที่สุดหากที่ประชุม กรรมการบริหารพรรคมีมติให้เข้าร่วมรัฐบาล ก็คงเป็นเรื่องของมติพรรค แต่ในอดีตที่ผ่านมาต้องยอมรับความจริง ว่าคณะกรรมการบริหารพรรคมักจะฟังเสียงสมาชิกเป็นสิ่งสำคัญ
เมื่อถามว่าถ้าเป็นมติพรรคแม้ไม่เห็นด้วย ก็พร้อมปฏิบัติใช่หรือไม่นายบัญญัติ กล่าวว่าแน่นอน มติพรรคก็คือมติพรรค แต่ต้องฟังความเห็นอย่างรอบด้าน
ส่วนหากร่วมรัฐบาลแล้วการเลือกตั้งครั้งหน้าจะทำให้เหลือที่นั่ง สส. กี่ที่นั่งนั้น นายบัญญัติ กล่าวว่า เรื่องนี้พูดเหมือนสมาชิกพรรคเลย เช่นเดียวกับที่ พรรคประชาธิปัตย์ จะไปร่วมรัฐบาลกับพรรคเพื่อไทยนั้น ที่ผ่านมาพรรคประชาธิปัตย์ต่อต้านระบอบทักษิณ ค่อนข้างจริงจังรุนแรง และวันนี้ระบอบดังกล่าวยังอยู่หรือไม่ควรจะต้องพิจารณา ซึ่งเป็นเรื่องที่กรรมการบริหารพรรคชุดใหม่ต้องพิจารณาด้วย
“เฉลิมชัย” ปัดคุยร่วมรัฐบาล
ขณะที่นายเฉลิมชัย ศรีอ่อน รักษาการเลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์ ให้สัมภาษณ์สื่อมวลชนหลังถูกถามในประเด็นว่าการประชุมใหญ่วิสามัญประจำปี 2566 กับการเลือกคณะกรรมการบริหารพรรคชุดใหม่และหัวหน้าพรรคคนใหม่ในวันนี้จะสำเร็จหรือไม่ เนื่องจากเคยล่มมาแล้วครั้งหนึ่งจึงทำให้จำเป็นต้องเลื่อนการประชุมออกมาเป็นวันนี้
นายเฉลิมชัยบอกว่า ว่าต้องดูจำนวนของสมาชิกที่เข้าประชุม เพราะคนที่จะรักษาองค์ประชุมได้คือสมาชิกพรรค ถ้ามีสำนึกอะไรก็จบทุกอย่าง
ส่วนกรณีที่มีสมาชิกพรรคในพื้นที่ภาคอีสานได้แถลงการณ์ขอให้ทบทวนเรื่องของแนวคิดที่จะร่วมในร่วมรัฐบาลเพื่อไทยว่า ส่วนตัวอยากรู้ว่าใครเป็นคนพูดว่าจะไปร่วมรัฐบาล และก็ยังไม่มีใครแถลง การร่วมรัฐบาลของพรรคประชาธิปัตย์นั้น มันต้องประชุมร่วม ระหว่างคณะกรรมการบริหารพรรคและ สส. ทั้ง 25 คน
ผมว่าอย่าไปคิดเลย เถิดอย่าไปทะลึ่งส่งเดชแค่นั้นแหละครับ และขอให้รักพรรคกันเยอะๆ ผมเชื่อว่าถ้าทุกคนรักพรรคเยอะๆทุกอย่างมันจะจบได้
ส่วนกรณีที่หลายคนกังวลเรื่องอุดมการณ์ของพรรคประชาธิปัตย์ หากไปร่วมรัฐบาลกับพรรคเพื่อไทย นายเฉลิมชัยตอบว่า
“ผมถามนิดนึง ว่าวันนี้ใครไม่มีอุดมการณ์ประชาธิปัตย์ และขอให้พูดให้ชัดเลยว่าใครไม่มีบ้าง ไม่ใช่พูดเอามันส์ พูดเอาสนุก ไม่ใช่พูดเอาแต่เข้าข้างตัวเอง มีใครไม่รักประชาธิปัตย์บ้าง มีใครไม่มีอุดมการณ์ประชาธิปัตย์ ถ้าคุณแน่จริงขอให้คุณประกาศออกมาเลยว่าคุณรักพรรคประชาธิปัตย์มากกว่าทุกคน แล้วพูดออกมาเลยว่าคุณรักพรรคประชาธิปัตย์มากกว่าผม
สังคมจะได้รู้ว่าการรักพรรคของคุณมันมีพฤติกรรมยังไงบ้าง ผมว่าหลักการและข้อบังคับพรรคมันมีอยู่แล้ว และแน่นอนผมเองก็ไม่ได้เข้ามามีผลประโยชน์แล้ว ผมถามสักคำนะ ว่าการที่ผมอยู่ในพรรคประชาธิปัตย์เนี่ย สส.ในพรรค สมาชิกพรรคส่วนใหญ่เขารักหรือให้เกียรติเคารพผม มันเป็นความผิดเหรอ จึงต้องย้อนกลับไปดูว่าตัวเองทำให้ สส.เขารักหรือเขาเคารพ หรือไม่แค่นี้มันก็จะจบมันไม่ได้มีอะไรหรอก”
ข่าวที่เกี่ยวข้อง :
“วันนอร์” คาดเปิดประชุมสภาฯ 18-19 ส.ค.หลังศาล รธน.วินิจฉัยกรณีเสนอชื่อนายกฯ ซ้ำ