จีนหยุดเปิดเผยตัวเลขการว่างงานของคนรุ่นใหม่ ซึ่งนับข้อสังเกตว่าอาจเป็นสัญญาณบ่งชี้ที่สำคัญ ในการชะลอตัวของเศรษฐกิจประเทศ อย่างไรก็ดี โฆษกรัฐบาลจีนกล่าวว่า การตัดสินใจดังกล่าวเกิดจากการเปลี่ยนแปลงในระบบเศรษฐกิจจีนที่ใหญ่เป็นอันดับ 2 ของโลก และสังคมของประเทศจีนเอง
เมื่อเดือน มิ.ย.ที่ผ่านมา ทางการจีนเปิดเผยตัวเลขอัตราการว่างงานของประชาชนจีนอายุ 16 ถึง 24 ปีในเขตเมือง ซึ่งมีสูงเป็นประวัติการณ์มากกว่า 20% นอกจากนี้ ธนาคารกลางจีนยังประกาศลดต้นทุนการกู้ยืมในวันอังคาร (15 ส.ค.) เพื่อพยายามช่วยกระตุ้นการเติบโตของเศรษฐกิจประเทศ นับเป็นสัญญาณของความถดถอยทางเศรษฐกิจจีน
ตัวเลขอย่างเป็นทางการที่เผยแพร่เมื่อวันอังคาร แสดงให้เห็นว่าในเดือน ก.ค. อัตราการว่างงานโดยรวมของจีนมีเพิ่มขึ้นเป็น 5.3% ในขณะเดียวกัน รัฐบาลจีนระบุว่า ทางการจะระงับการเผยแพร่ข้อมูลการว่างงานของคนรุ่นใหม่เป็นการชั่วคราว อย่างไรก็ดี ทางการจีนไม่ได้ระบุระยะเวลาในการระงับการเผยแพร่ตัวเลขดังกลา่วว่าจะนานเพียงใด
ฟูหลิงฮุย โฆษกสำนักงานสถิติแห่งชาติจีน กล่าวว่าวิธีการคำนวณการว่างงานของคนรุ่นใหม่ในจีน จำเป็นจะต้องได้รับการพิจารณาใหม่ “เศรษฐกิจและสังคมมีการพัฒนาและเปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลา งานด้านสถิติจำเป็นต้องได้รับการปรับปรุงอย่างต่อเนื่อง” ฟูกล่าวในการแถลงข่าว ณ กรุงปักกิ่ง นอกจากนี้ ฟูยังกล่าวเป็นนัยว่าการเพิ่มขึ้นของจำนวนนักเรียนที่มีอายุระหว่าง 16 ถึง 24 ปี ส่งผลกระทบต่อตัวเลขการว่างงาน อย่างไรก็ดี จีนไม่เคยนับผู้ที่อยู่ในระบบการศึกษาว่าเป็นผู้ว่างงาน
จีนเริ่มเผยแพร่ตัวเลขการว่างงานของคนรุ่นใหม่ตั้งแต่ปี 2561 โดยจีนไม่ได้เผยแพร่ข้อมูลเกี่ยวกับสถานะการจ้างงานของคนรุ่นใหม่ในพื้นที่ชนบทในขณะนี้ ทั้งนี้ หลังจากการระงับการเผยแพร่ตัวเลขการว่างงานของคนรุ่นใหม่ โลกโซเชียลของจีนในเว่ยป๋อ แพลตฟอร์มโซเชียลมีเดียสำคัญของจีน ได้เกิดกระแสวิพากษ์วิจารณ์ทางการจีนอย่างหนัก
การประกาศเปิดเผยตัวเลขการว่างงานของคนรุ่นใหม่ดังกล่าว มีขึ้นในขณะที่การฟื้นตัวทางเศรษฐกิจจีน หลังการระบาดของโควิด-19 ในประเทศกำลังชะลอตัวลง
จากความเคลื่อนไหวล่าสุดของทางการจีนเมื่อวันอังคาร เพื่อกระตุ้นการเติบโตทางเศรษฐกิจของประเทศ ธนาคารประชาชนจีนได้ประกาศปรับลดอัตราดอกเบี้ยครั้งสำคัญ อย่างไม่เป็นที่คาดคิดมาก่อนเป็นครั้งที่ 2 ในรอบ 3 เดือน นอกจากนี้เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ทางการจีนเพิ่งรายงานว่าการตัวเลขส่งออกของจีนลดลงอย่างรวดเร็ว ในขณะที่เศรษฐกิจประเทศเข้าสู่ภาวะเงินฝืดเมื่อราคาสินค้าลดต่ำลง
ยิ่งไปกว่านั้นนักลงทุนยังเกิดความกังวลอย่างมาก เกี่ยวกับเศรษฐกิจของจีนในภาคตลาดอสังหาริมทรัพย์ ที่ได้รับผลกระทบจากวิกฤตเศรษฐกิจของประเทศ โดยเมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา (14 ส.ค.) Country Garden ผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์เอกชนรายใหญ่ที่สุดของจีน ออกมาเตือนว่าพวกเขาอาจสูญเสียเงินสูงถึง 7.6 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ (ประมาณ 2.69 แสนล้านบาท) ในช่วง 6 เดือนแรกของปี
อุตสาหกรรมอสังหาริมทรัพย์ของจีนเกิดความสั่นสะเทือน เมื่อทางการจีนออกกฎใหม่เพื่อควบคุมจำนวนเงินที่นักพัฒนารายใหญ่สามารถกู้ยืมได้ในปี 2563 โดยในปีต่อมา Evergrande บริษัทยักษ์ใหญ่ด้านอสังหาริมทรัพย์ของจีน เกิดการผิดนัดชำระหนี้จำนวนมหาศาล และเมื่อเดือนที่แล้ว ทางบริษัทได้เปิดเผยว่าพวกเขาขาดทุนรวม 5.819 แสนล้านหยวน (ประมาณ 2.8 ล้านล้านบาท) ในช่วง 2 ปีที่ผ่านมา
ที่มา:
