วันนี้ (15 ส.ค.2566) นายภูมิธรรม เวชยชัย รองหัวหน้าพรรคเพื่อไทย กล่าวถึงการรวบรวมเสียงจัดตั้งรัฐบาลว่า แนวโน้มจากการพูดคุยและทิศทาง พบว่า พรรคการเมืองต่างๆ ยกเว้น 2-3 พรรคที่จะประกาศตัวเป็นฝ่ายต่างๆ ต่างมองว่าขณะนี้เป็นวิกฤตของประเทศ ซึ่งได้ไตร่ตรองพรรคการเมืองต่างๆ ที่จะมาร่วมกันแก้วิกฤต และผลักดันเรื่องต่างๆ
ค่อนข้างมั่นใจว่าเสียงของพรรคสามารถเป็นรัฐบาลที่มีความเข้มแข็งได้ หากประธานรัฐสภานัดวันโหวตเลือกนายกฯ เมื่อไหร่ก็พร้อม และเชื่อว่าภายใต้กติกาที่มีข้อจำกัดจะผ่านไปได้ และครั้งเดียวน่าจะจบ
ส่วนที่มีการตั้งคำถาม หากพรรคพลังประชารัฐมาโหวตให้พรรคเพื่อไทย ภาพที่ออกมาจะเป็นลักษณะอย่างไร นายภูมิธรรม กล่าวว่า เรื่องการจะจับมือยังไม่ใช่สาระสำคัญ สิ่งสำคัญคือมีความเข้าใจกัน สามารถที่จะใช้แนวทางในการบริหารประเทศ เพื่อแก้ 3 วิกฤตที่เคยประกาศไปก่อนหน้านี้
ซึ่งพรรคพลังประชารัฐได้แสดงจุดยืนว่าจะเข้าร่วมโดยไม่คำนึงว่าจะต้องมีตำแหน่งอะไร ถือเป็นคุณสมบัติขั้นต้นที่เคยพูดไปว่ายินดีที่จะร่วมกับทุกพรรค เห็นชอบที่จะเสนอพรรคเพื่อไทยเป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาล และเสนอนายเศรษฐา ทิวีสิน เป็นนายกรัฐมนตรี
อ่านข่าว คกก.ไต่สวนฯ ชง กกต.ยกคำร้อง “พิธา” ผิด ม.151 เหตุไม่พบ ITV ประกอบกิจการ
แบ่งกระทรวงเรื่องรอง-ขอโหวตนายกฯก่อน
นายภูมิธรรม กล่าวถึงกรณีที่ขั้วรัฐบาลเดิมที่จะมาร่วมรัฐบาลกับพรรคเพื่อไทยและยื่นเสนอให้แบ่งกระทรวงกันให้ชัดเจนก่อนเลือกนายกรัฐมนตรี เท่าที่พูดคุยกันไม่มีปัญหา ไม่ทราบว่าไปได้ยินมาจากที่ไหน ยืนยันว่าสร้างความมั่นใจที่ชัด เจนให้เกิดขึ้น ต้องดูว่าจะทำอย่างไร แต่ทั้งหมดต้องร่วมมือกัน พร้อมยืนยัน ไม่มีปัญหาอย่างที่ถามแน่นอน ไม่กังวลในเรื่องเหล่านี้
เมื่อถามย้ำว่า ตำแหน่งในแต่ละกระทรวงยังไม่ใช่สิ่งที่พรรคร่วมยื่นข้อเสนอมาตามที่มีกระแสข่าวใช่หรือไม่ นายภูมิธรรม ระบุว่า เรื่องนี้ไม่ได้เป็นปัญหา สิ่งที่ได้พูดคุยกันถือเป็นเรื่องธรรมดาที่แต่ละพรรคการเมืองจะบอกว่ามีความถนัด ความเชี่ยวชาญ รวมถึงมีนโยบายที่เกี่ยวข้องกับเรื่องอะไร ถือเป็นการพูดคุยเบื้องต้น แต่บอกไปแล้วว่า จะเลือกนายกฯ จากพรรคแกนนำให้สำเร็จก่อน
ไม่ได้แย่งกันในเรื่องนี้ แต่จะต้องพูดคุยกันว่าใครมีความเหมาะสมอย่างไร หากวันที่ 18-22 ส.ค.นี้ ที่คาดว่าจะเลือกนายกฯ หากเลือกได้เลยก็จะประชุมร่วมตกลงกัน และสามารถตั้งรัฐบาลได้ในเร็ววัน
ส่วนกรณีที่ สส.บางคนรู้สึกไม่พอใจในเรื่องการดึงพรรค 2 ลุงมาร่วมด้วย นายภูมิธรรม กล่าวว่า ไม่ได้ยินเรื่องนี้ สส.ทุกคนก็ให้กำลังใจทีมเจรจา ในการเดินหน้าทำงาน ที่อยู่ภายใต้ข้อจำกัด เนื่องจากตัวเลขที่ออกมาไม่ตรงกับเป้าหมายที่ตั้งไว้
เพื่อไทยขออาสาเป็นหินก้อนแรก ในการสร้างทางใหม่ ขยายความร่วมมือลดความขัดแย้ง เชื่อว่าความร่วมมือทางการเมือง มาช่วยกันแก้ปัญหาจะเป็นทางออกทำให้ศาสตร์การเมืองต่างๆ ร่วมงานได้
ทั้งนี้นายภูมิธรรม ระบุว่าเรื่องนี้จะเป็นบรรทัดฐาน ให้ฝ่าวิกฤตที่สะสมมาเกือบ 20 ปีได้ โดยเมื่อเพื่อตัดสินใจแล้วก็พร้อมจะเดินไปข้างหน้า แก้ไขปัญหาประเทศไทยภายใต้เงื่อนไขที่มีอยู่ ต้องคิดใหญ่ ใจใหญ่บนเส้นทางที่คับแคบ ต้องฝ่าไปให้ได้ ทั้งหมดอยู่ในสายตาประชาชน ถ้าตัดใจผิดพลาดก็พร้อมจะรับผิดชอบ
ยันไม่เลือกวิธีเดิมก้าวไกล-เส้นทางตัน
นายภูมิธรรม กล่าวถึงกรณีนายชัยธวัช ตุลาธน เลขาธิการพรรคก้าวไกล ที่แสดงความเป็นห่วงว่าพรรคเพื่อไทยกำลังถูกบีบจากพรรคร่วมรัฐบาลเดิม โดยเฉพาะการต่อรองตำแหน่งครม.ว่า ขอบคุณนายชัยธวัช ที่เป็นห่วง แต่ใครจะรู้ดีเท่าที่พรรคเพื่อไทย วันนี้เพื่อไทยสบายๆ เพราะเอาประโยชน์ของประชาชนเป็นที่ตั้ง ทำให้มีการพูดคุยได้ง่าย ไม่ได้ใช้วิธีเดิมที่ก้าวไกลเคยทำ เพราะรู้ว่าเส้นทางนั้นเป็นทางที่ยากลำบากและเป็นทางตัน
ส่วนการแก้ไขรัฐธรรมนูญก็ถือว่าเป็นหัวใจของปัญหาเช่นเดียวกัน แม้ไม่สามารถแก้ได้เร็วๆวัน แต่ต้องเข้าสู่กระบวนการ เพื่อเปิดประตูบานแรกให้ประชาชนเข้ามามีส่วนร่วมในการแก้ไขปัญหา ซึ่งทุกอย่างมีการวางกรอบเวลาทั้งระยะสั้น กลางและระยะยาว
ส่วนกรณีที่มี สว.บางคนเรียกร้องให้นายเศรษฐา แสดงวิสัยทัศน์ในวันโหวตนายกรัฐมนตรี นายภูมิธรรม ให้เป็นไปตามกฎเกณฑ์ระเบียบปฏิบัติของรัฐสภา เคยปฏิบัติมาอย่างไรก็ให้ทำไปตามนั้น หากรัฐสภากำหนดให้ทำเพื่อไทยก็ยินดี
เมื่อถามถึงเสียงสนับสนุนจากสว. นายภูมิธรรม มั่นใจว่า ได้มากกว่าที่เคยได้ ส่วนจะมากกว่าร้อยเสียงหรือไม่ ตอบไม่ได้เพราะขึ้นอยู่กับดุลพินิจของสว.แต่คน
เมื่อถามว่า หากท้ายที่สุดชื่อนายเศรษฐา ไปต่อไม่ได้ ชื่ออาจจะไปตกที่น.ส. แพทองธาร ชินวัตร หรือ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ จำเป็นต้องปรับแผนรับสถานการณ์หรือไม่ นายภูมิธรรม กล่าวว่าไม่เชื่ออย่างนั้น แต่เชื่อว่าโหวตครั้งเดียวผ่าน ขออย่ากังวลใจในเรื่องนี้ ทำอย่างเต็มที่ และรู้ว่าพรรคการเมืองอันดับ 1 ได้ทำอะไร และประสบปัญหาอะไร ได้แก้ปัญหานั้น และได้ใช้ความพยายามจนสุดความสามารถในการแจ้งพรรคการเมืองทุกพรรคที่จะร่วมมือกับเรา รวมถึงสว.
ขณะนี้ต้องระมัดระวังข่าวลือ การคาดการณ์ บางครั้งอาจเป็นข้อมูลให้ได้คิด แต่อย่าไปเอาใจใส่ และคิดเรื่องนี้มากนักเพราะอาจจะเป็นข้อมูลที่ไม่มีข้อเท็จจริง และอาจสร้างความสับสนได้
อ่านข่าว “อนุทิน” ไม่กังวลโควตา รมต. เชื่อจัดสรรลงตัวก่อนวันโหวตนายกฯ
ไม่กังวลปม น.ต.ศิธา-ชูวิทย์
ส่วนกรณีที่น.ต.ศิธา ทิวารี แกนนำพรรคไทยสร้างไทย ออกมาแสดงความคิดเห็นถึงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี ที่สุดท้ายชื่อจะไปตกที่พล.อ.ประวิตร นายภูมิธรรม กล่าวว่า เขาก็พูดอยู่ได้เรื่อยๆ วิพากษ์วิจารณ์ คาดการณ์กันไป
มองว่า 1-2 เดือนนี้ ทุกอย่างจะชัดเจน และจะตอบว่าใครอยู่บนความเป็นจริง และใครมีแต่คัดค้าน พูดจาไปเรื่อย แต่ยินดีที่จะรับฟัง บางคนเราทราบว่า มันไม่เป็นไปตามความคาดหวัง หรือแนวคิดของเขา ทำให้เขาอาจจะหงุดหงิดบ้าง และย้ำว่า พร้อมรับฟังความคิดเห็นไม่ว่าจะสนับสนุนหรือคัดค้าน
ส่วนกรณีที่นายชูวิทย์ กมลวิศิษฏ์ จะออกมาแฉนายเศรษฐา ต่อเป็นตอนที่ 2 ในช่วงบ่ายของวันนี้ จะส่งผลต่อการโหวตนายกรัฐมนตรีหรือไม่นั้น นายภูมิธรรม กล่าวว่า ต้องทราบและรู้จักนายชูวิทย์ ว่า เขาเป็นนักการตลาดที่สำคัญ ทำเรื่องราวต่างๆ ให้ตื่นเต้นตลอด แต่ผลที่ผ่านมาในอดีตเป็นอย่างไร ก็พิจารณากันเอง เชื่อว่าประชาชนมีวิจารณญาณ
อ่านข่าว
“พงศธร” ว่าที่ผู้สมัคร สส.พรรคก้าวไกล ประเดิมวันแรก “เบอร์ 1”
“ประชาธิปัตย์” จี้ “ปธ.วันนอร์” ปลด “ปดิพัทธ์” ปมโพสต์ภาพคู่แอลกอฮอล์