เมื่อวันที่ 16 ส.ค.2566 บริษัท แสนสิริ จำกัด(มหาชน) ออกแถลงการณ์ ยืนยันว่า บุคคลตามที่นายชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ กล่าวอ้าง คือ นายพินิจ คำยศ นายพีระพงษ์ ทานรัมย์ นายสมศักดิ์ มติยาภักดิ์ และนายยงยุทธ ประกิ่ง ไม่ใช่นอมินีหรือตัวแทนของบริษัทแสนสิริ หรือบริษัทในเครือแต่อย่างใด แต่เป็นคนของบริษัท เอ็น แอนด์ เอ็น แอสเซ็ท จำกัด เป็นเจ้าของที่ดินตั้งแต่ปี 2551
บริษัทแสนสิริ ซื้อและโอนที่ดินแปลงนี้โดยตรงจากบริษัท เอ็น แอนด์ เอ็นฯ ไม่ใช่ซื้อผ่านตัวกลางหรือรับโอนหุ้นตามที่เป็นข่าว และไม่เคยกู้ยืมเงินแก่ผู้ขาย การจดจำนองเป็นการจำนองเพื่อประกันการปฏิบัติตามสัญญาจะซื้อจะขาย ส่วนวงเงิน 1,000 ล้านบาท เป็นวงเงินที่ครอบคลุมราคาที่ดินและค่าเสียหายที่อาจเกิดขึ้น อันเนื่องมาจากการไม่ปฏิบัติตามสัญญาของผู้ขาย และแสนสิริชำระเงินค่าที่ดินให้บริษัท เอ็น แอนด์ เอ็นฯ ครบถ้วนและได้รับโอนกรรมสิทธิ์ที่ดินตามสัญญา
สามีภรรยาชาวมหาสารคามยันไม่ใช่ตัวแทนแสนสิริ
ด้าน น.ส.พินิช คำยศ และ สามี ชาวบ้านดอนหัน ต.นาทอง อ.เชียงยืน จ.มหาสารคาม ไปลงบันทึกประจำวันไว้เป็นหลักฐานที่ สภ.เชียงยืน หลังนายชูวิทย์ แถลงข่าวอ้างเป็นนอนมินีให้แสนสิริ โดยเธอระบุว่า ตกใจกับการแถลงข่าวว่ามีเงินถึง 1,000 ล้าน ซึ่งไม่เป็นความจริง เพราะไม่เคยทำธุรกิจ แต่เคยไปทำงานที่ยูเนียนมอลล์ กรุงเทพมหานคร เมื่อ 4-5 ปีที่แล้ว จากนั้นก็กลับมาอยู่บ้าน และไม่ได้ไปไหนอีกเลย กระทั่ง 3-4 วันก่อนมีคนมาถ่ายรูปบ้าน และภาพก็ไปปรากฏตามที่นายชูวิทย์แถลง พร้อมยืนยันไม่เคยเป็นแม่บ้านบริษัทแสนสิริมาก่อน