หน้าแรก Voice TV ‘อิ๊งค์’ยัน ‘ทักษิณ’ กลับไทยดูฤกษ์ก่อนโหวตนายกฯ ขอโทษทำผิดหวัง ยันตั้ง รบ.เพื่อไทย เร่งแก้ปัญหา

‘อิ๊งค์’ยัน ‘ทักษิณ’ กลับไทยดูฤกษ์ก่อนโหวตนายกฯ ขอโทษทำผิดหวัง ยันตั้ง รบ.เพื่อไทย เร่งแก้ปัญหา

44
0
‘อิ๊งค์’ยัน-‘ทักษิณ’-กลับไทยดูฤกษ์ก่อนโหวตนายกฯ-ขอโทษทำผิดหวัง-ยันตั้ง-รบ.เพื่อไทย-เร่งแก้ปัญหา

’แพทองธาร’ ยัน ‘ทักษิณ’ กลับไทย 22 ส.ค. ยัน ไม่เกี่ยวโหวตนายกฯ ไม่ได้มาเป็นตัวประกันทางการเมือง – รับดูฤกษ์วันกลับก่อนสภาฯ เคาะวันโหวตนายกฯ – ย้ำไม่มีดีลผู้มีอำนาจ ขอพระราชทานอภัยโทษ รอพ่อตัดสินใจ-มั่นใจโหวต ‘เศรษฐา’ ม้วนเดียวจบ พร้อมขอโทษทำประชาชนผิดหวัง-เสียใจ จับมือ 2 ลุง เชื่อ ‘เพื่อไทย’ จะก้าวข้ามผ่านสนามอารมณ์นี้ไปได้ หลังได้บริหารประเทศ

วันที่ 20 ส.ค. 2566 ที่มหาวิทยาลัยกรุงเทพธนบุรี แพทองธาร ชินวัตร หัวหน้าครอบครัวเพื่อไทย และแคนดิเดตนายกรัฐมนตรี ของพรรคเพื่อไทย เดินทางมาพิธีปิดการแข่งขันชิงแชมป์ศิลปะการต่อสู้แบบผสมผสานแห่งเอเชียครั้งแรกในปี 2023 และให้สัมภาษณ์ครั้งแรกหลังจากประกาศ ดร.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีจะเดินทางกลับมาประเทศไทยในวันที่ 22 ส.ค.นี้ ว่า เมื่อช่วงเช้าได้เดินทางไปทำบุญวันเกิดล่วงหน้า มีเพื่อนสนิทและคนใกล้ชิด ซึ่งก็รู้สึกสบายใจ และการที่ ดร.ทักษิณเดินทางกลับมา ถือเป็นของขวัญของทุกคนในบ้าน และเมื่อกลับมาใกล้วันเกิดตนก็ถือว่าเป็นของขวัญ

เมื่อถามว่า กรณีโพสต์ถึงกรณีเรื่องของความปลอดภัยของ ดร.ทักษิณ มีความเป็นห่วงอะไรหรือไม่ แพทองธาร กล่าวว่า ทุกอย่าง ทั้งการขึ้นเครื่องบิน สุขภาพ ซึ่งตนอยากให้มีสุขภาพที่แข็งแรง และเมื่อกลับมาถึง คุณพ่อก็ยังไม่ได้เข้าบ้าน

เมื่อถามว่า มีนักวิชาการวิเคราะห์ว่า การกลับมาของ ทักษิณครั้งนี้ เพื่อเป็นตัวประกันทางการเมือง แลกกับการโหวตนายกฯ แพทองธาร กล่าวว่า เข้าใจว่า ดร.ทักษิณ ถูกแยกออกจากการเมืองได้ยาก แต่การกลับมาของคุณพ่อก็เป็นการกลับมาของประชาชนคนไทยคนนึง ที่มีสิทธิ์กลับมาในประเทศบ้านเกิด ตอนนี้ผ่านไป 17 ปีแล้ว ซึ่งทุกครั้งที่คุยโทรศัพท์กัน ก็จะพูดเสมอว่าหลาน 7 คน โตแล้ว อยากกลับมาเลี้ยงหลาน โดยยืนยันว่าไม่ได้คิดถึงเรื่องของการเมืองหรือจะมาเป็นตัวประกัน และคิดเพียงว่ากลับมาแล้วปลอดภัยรอวันกลับมาบ้านเพื่ออยู่กับลูกหลาน 

เมื่อถามย้ำว่า “มีการพูดว่าจะถูกหลอก” แพทองธาร ย้อนถามว่า ถูกใครหลอกและ ตนเชื่อว่า ดร.ทักษิณไปอยู่ต่างประเทศ 17 ปีแล้วน่าจะมีหลายข้อมูล ทั้งผิดและถูกซึ่งเป็นเรื่องปกติ แต่ 17 ปีผ่านอะไรมาเยอะมาก และการกลับมาครั้งนี้เป็นการตัดสินใจของท่านเอง ไม่มีใครหลอกและท่านก็ไม่ได้หลอกใคร และการกลับมาครั้งนี้ เป็นการตกลงกับครอบครัว ก่อนจะตัดสินใจกลับมา 

เมื่อถามว่า มีการประเมินถึงขั้นว่าหาก เศรษฐา ทวีสิน แคนดิเดตนายกรัฐมนตรี พรรคเพื่อไทยไม่ได้รับความเห็นชอบ ก็จะเสนอชื่อ แพทองธาร เพื่อหวังเป็นตัวประกันทางการเมืองนั้น แพทองธาร กล่าวว่า ตนอยากให้มองการเมืองสร้างสรรค์ขึ้น และการที่คุณพ่อกลับมา เพราะอยากอยู่กับครอบครัว ส่วนเรื่องการเมืองก็ขอให้แบ่งเป็นเรื่องการเมืองของพรรคเพื่อไทย พร้อมย้ำว่า การกลับมาของคุณพ่อไม่ได้เกี่ยวข้องกับการเมืองหรือพรรคเพื่อไทย และคดีความของนายทักษิณ ก็ไม่เกี่ยวกับการโหวตเลือกนายกฯและพรรคเพื่อไทย ดังนั้น อยากให้แยกเรื่องนี้ออกจากกันโดยชัดเจน 

เมื่อถามว่า มันปฏิเสธไม่ได้ ว่าไม่เกี่ยวกันเพราะวันที่ ดร.ทักษิณเดินทางกลับคือวันเดียวกับที่โหวตเลือกนายก แพทองธาร กล่าวว่า ไม่ใช่ความเชื่อมโยงทางการเมืองใดๆเลย เพราะก่อนหน้านั้น คุณพ่ออยากจะกลับมา วันที่ 31 กรกฎาคม ซึ่งตรงกับวันหยุดจึงเปลี่ยนวัน และตนก็ยังช่วยดูปฏิทินว่าวันไหนฤกษ์ดี จนมาได้วันที่ 10 สิงหาคม ตามที่ประกาศไปตอนแรก แต่ปรากฏ ว่าการเดินทางไปตรวจสุขภาพ ไม่ได้อยู่ในประเทศเดียวกัน และพบว่ามีค่าสุขภาพบางตัวที่ผิดปกติ จึงต้อง Follow up จากนั้นจึงต้องหาฤกษ์ดีวันใหม่ ก็มาได้วันที่ 22 ส.ค. และทางครอบครัวก็รู้ ก่อนที่จะมีการประกาศวันโหวตนายกฯด้วย เพราะตนคิดว่าการโหวตเรื่องนายกรัฐมนตรี จะเป็นวันที่ 18 ส.ค.ด้วยซ้ำ พร้อมยอมรับว่า การกลับบ้านมาต้องดูฤกษ์ดูยาม เพราะทุกคนอยากให้เป็นวันที่ดี แต่หลังจากนี้ ยืนยันว่า ไม่มีการเลื่อนกลับอีกแล้ว 22 ส.ค.แน่นอน 

เมื่อถามว่า ดีลกับผู้มีอำนาจจบแล้วใช่หรือไม่ แพทองธาร กล่าวยืนยันว่า “ไม่ได้ดีลกับใครเลยค่ะ” และเมื่อกลับมาถึงสนามบินดอนเมือง ด้วยเคลื่อนบินส่วนตัว ในเวลา 09.00 น. โดยมีครอบครัว​ไปรับ จากนั้นคงเดินทางไปที่ศาลทันที จะไม่มีการให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชน ส่วนขั้นตอนหลังจากนั้น เพราะตนไม่ได้แม่นเรื่องของกระบวนการยุติธรรม 

เมื่อถามว่า ทางครอบครัวได้มีการดำเนินการขอพระราชทาน​อภัยโทษไว้หรือไม่ แพทองธาร กล่าวว่า ต้องถามคุณพ่อก่อนว่า จะดำเนินการอย่างไรบ้าง เพราะทางครอบครัวเคารพการตัดสินใจของคุณพ่อ เดี๋ยวก็คงจะทราบกัน แต่ที่ผ่านมา ยังไม่ได้มีการดำเนินการในเรื่องดังกล่าว 

เมื่อถามว่า ทั้งครอบครัวได้ประเมินเรื่องของจำนวนปี ที่ตอนนี้มีการคำนวณแล้วว่าต้องติดคุกประมาณ 5 ปี แพทองธาร ระบุว่า เรื่องคดีขอยังไม่พูดถึง เดี๋ยวจะมีข้อมูลที่คลาดเคลื่อน แต่ก็ยืนยันว่าจะดูอย่างละเอียด 

เมื่อถามว่า ตอนนี้สุขภาพของ ทักษิณ ดีใช่หรือไม่ แพทองธาร กล่าวว่า ดร.ทักษิณ ตรวจสุขภาพทุกปี แต่บางครั้งอาจจะมีปัญหาบ้าง ดังนั้น ก็ต้องคอยติดตามอยากต่อเนื่อง เพราะตอนนี้คุณพ่ออายุ 74 ปีแล้ว แต่ที่ผ่านมาก็แข็งแรง ระหว่างอยู่ต่างประเทศก็มีการผ่าตัดบ้าง 

แพทองธาร ยังให้สัมภาษณ์ถึงความมั่นใจในการโหวตเลือกนายกรัฐมนตรี วันที่ 22 ส.ค.นี้ ว่า พรรคเพื่อไทยพยายามเต็มที่ และมีมติเสนอชื่อนายเศรษฐา ทวีสิน ซึ่งมีความมั่นใจ และอยากตั้งรัฐบาลให้เร็วที่สุด เพื่อให้เพื่อไทยเป็นรัฐบาล และนำนโยบายของพรรคไปแก้ปัญหาให้ประชาชน

เมื่อถามต่อว่าหาก เศรษฐา ไม่ผ่านในการโหวตเลือกครั้งนี้ แพทองธาร กล่าวว่า อยากให้โฟกัสที่ เศรษฐาก่อน ยังไม่ต้องโฟกัสที่ตนเอง เพราะหากโฟกัสหลายจุดก็จะไม่มั่นคง ย้ำว่าเราทำเต็มที่ในการเสนอชื่อ เศรษฐา หวังว่าจะสำเร็จ และตั้งรัฐบาลให้ประชาชนได้ และหวังว่าจะม้วนเดียวจบ

เมื่อถามถึงกระแสดราม่าที่แกนนำพรรคเพื่อไทย ไม่ว่าจะเป็น แพทองธาร เศรษฐา หรือนพ.ชลน่าน ศรีแก้ว หัวหน้าพรรคเพื่อไทย เคยประกาศในช่วงหาเสียงว่าจะไม่จับมือกับพรรค 2 ลุง นั้น แพทองธาร กล่าวว่า วันนั้นเขาบอกว่าเราไม่มีความชัดเจนในการหาเสียง ซึ่งเราพยายามทำโพลล์ทุกอย่างเพื่อให้แลนด์สไลด์ แต่เราแลนด์สไลด์ไม่สำเร็จ เพราะฉะนั้นรัฐธรรมนูญปี 60 ยังมีเรื่องของสว.อยู่ ซึ่งที่ผ่านมาเราเคยชนะเป็นที่ 1 แต่ไม่สามารถจัดตั้งรัฐบาลได้สำเร็จ เราจึงทราบดีโอกาสการจัดตั้งรัฐบาลไม่สำเร็จเกิดขึ้นได้ และบางคนมีการแสดงที่ชัดเจนและไม่ชัดเจน แต่เราก็แสดงความตั้งใจ

“แต่วันนี้เมื่อไม่เป็นแบบที่เราคิดไม่เป็นไปตามที่เราแพลนไว้ เรา จึงต้องปรับเปลี่ยนเพื่อให้ประเทศไปต่อ ซึ่งแน่นอนว่าพรรคเพื่อไทยมีต้นทุนที่ต้องจ่าย นั่นคือเสียงวิพากษ์วิจารณ์ของประชาชน เราขอน้อมรับ และขอโทษที่ทำให้หลายคนผิดหวังและเสียใจ แต่ถ้าเพื่อไทยจัดตั้งรัฐบาลได้แล้วจะทำเต็มที่ เพื่อแก้ปัญหาประชาชนที่มีอยู่มากมาย และจะก้าวข้ามผ่านสนามอารมณ์นี้ให้ได้ โดยเอาประชาชนเป็นที่ตั้ง” แพทองธาร ระบุ

เมื่อถามถึงข้อครหาของ เศรษฐาได้มีการเตรียมแผนสำรองไว้หรือไม่ แพทองธาร กล่าวว่า เราเช็คตามกฎหมายทุกอย่าง หากฟังจากคนที่ออกมาพูดว่ามีความผิด แต่ก็ไม่มีหลักฐานแล้วไม่มี ขณะที่ เศรษฐาได้นำหลักฐานออกมาชี้แจงแล้วซึ่งก็มีความชัดเจน ซึ่งบริษัทของ เศรษฐาก็อยู่ในตลาดหลักทรัพย์และสามารถตรวจสอบได้ ส่วนตัวเชื่อว่าไม่น่ามีปัญหาอะไร ตนจึงอยากให้พิจารณาจากข้อมูลเป็นตัวสำคัญก่อนตัดสินใจ 

เมื่อถามว่า สนใจตำแหน่งในครม.หรือไม่ หลังมีชื่อปรากฎอยู่ในโผ แพทองธาร ระบุว่า ตอนนี้ตนเน้นทำงานพรรค แต่ตามที่ปรากฎในสื่อก็มอบตำแหน่งให้หลายตำแหน่ง ก็ขอบพระคุณมากทั้งตำแหน่งรองนายกรัฐมนตรีและตำแหน่งรัฐมนตรี ก็รู้สึกดีใจมาก

เมื่อย้อนถามกลับไปถึงเรื่อง ดร.ทักษิณยอมรับหรือไม่หากการเดินทางกลับของคุณพ่อจะต้องเข้าสู่กระบวนการยุติธรรมและรับโทษ แพทองธาร ย้ำว่า พร้อมยอมรับ เพราะเป็นการตัดสินใจของคุณพ่อ ถ้าคุณพ่อยอมรับได้ครอบครัวก็สนับสนุนเต็มที่

ทิ้งคำตอบไว้

กรุณาใส่ความคิดเห็นของคุณ!
กรุณาใส่ชื่อของคุณที่นี่