หน้าแรก Voice TV ‘เศรษฐา’ ลงพื้นที่ตลาดเมืองเก่า รับฟังเสียงผู้ค้ายันจะผลักดันสร้างรายได้

‘เศรษฐา’ ลงพื้นที่ตลาดเมืองเก่า รับฟังเสียงผู้ค้ายันจะผลักดันสร้างรายได้

87
0
‘เศรษฐา’-ลงพื้นที่ตลาดเมืองเก่า-รับฟังเสียงผู้ค้ายันจะผลักดันสร้างรายได้

‘เศรษฐา’ แวะลงพื้นที่ตลาดเมืองเก่า ทักทายนักท่องเที่ยวทั้งคนไทยแลเต่างชาติ รับฟังเสียงผู้ค้า โดยนายกฯ ยืนยันจะผลักดันสร้างรายได้ ‘ภูเก็ต’ ย้ำโซนนิ่งสถานบันเทิงต้องดูความมั่นคง เผย ‘พิธา’ โทรยินดีหลังรับตำแหน่งนายกฯ แล้ว

เมื่อเวลา 16.50 น. วันที่ 25 ส.ค. 2565 ที่ตลาดเมืองเก่า อ.เมือง จ.ภูเก็ต นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี คนที่30 ให้สัมภาษณ์ขณะลงพื้นที่พบปะประชาชนและผู้ประกอบการย่านเมืองเก่าภูเก็ต ว่าหลังจากที่ได้ประชุมร่วมกับผู้ประกอบการจังหวัดภูเก็ต ก็ได้มีการรับฟังและแสดงความคิดเห็น รับฟังปัญหารับฟังความต้องการ ที่จะเอาไปประกอบกับนโยบายโดยรวม เริ่มตั้งแต่ปัญหาความแออัดของสนามบิน การจราจร ระบบการจัดการขยะ ปัญหาการขาดแคลนน้ำ ซึ่งก็อาจจะต้องต่อท่อส่งมาจากจังหวัดพังงา รวมไปถึงเรื่องของโซนนิ่ง ก็เป็นอีกเรื่องที่สำคัญ ที่เป็นการขยายเวลาให้สถานบันเทิงต่างๆ แต่ต้องคำนึงถึงความปลอดภัยและมั่นคง 

นายเศรษฐา ระบุว่า หลายๆอย่างที่ได้รับฟังปัญหามา พบว่าโครงการหลายอย่างถูกพักไปหรือล่าช้า เพราะวิธีการดูแต่ละโครงการ ต้องดูเรื่องผลตอบแทนแต่ละโครงการ ซึ่งบางทีก็อาจมีผลตอบแทนที่ต่ำหรือช้า โดยจังหวัดภูเก็ตมองว่าเป็นแหล่งรายได้ใหม่ของประเทศ บางโครงการก็อาจจะมีการขาดทุน แต่หากมีการดำเนินการไปแล้ว ทำให้จังหวัดภูเก็ตโดยรวมดีขึ้น ก่อให้เกิดรายได้ที่เพิ่มมากขึ้น มีนักท่องเที่ยวเข้าออกมากขึ้น ก็ต้องดูอุปสงค์และอุปทานจากการที่ลงทุนเรื่องนั้นไป วันนี้ก็เลยมารับฟังข้อมูลและนำไปพิจารณา ก่อนจะออกมาเป็นแผนแม่บทอีกทีหนึ่ง 

ส่วนสิ่งที่จะต้องเร่งดำเนินการก่อนที่จะถึงไตรมาสที่ 4 ของปี โดยเฉพาะเรื่องของการท่องเที่ยวนั้น นายเศรษฐา กล่าวว่ามีหลายอย่าง ทั้งการเพิ่มบุคลากร การตรวจคนเข้าเมือง เรื่องวีซ่าของนักท่องเที่ยวจากหลายๆประเทศ ที่อาจจะต้องได้รับการยกเว้น โดยเฉพาะนักท่องเที่ยวชาวจีน ที่จะเข้าสู่ช่วงไฮซีซั่นแล้ว ซึ่งหลายคนที่อยากจะเข้ามาท่องเที่ยวในประเทศไทยก็ต้องมีการจอง โรงแรมและสายการบิน ตนย้ำว่าหลายเรื่องต้องดูให้รอบคอบ ส่วนตัวก็อยากให้มีการฟอร์มรัฐบาลได้โดยเร็ว และมีการประชุมคณะรัฐมนตรี ออกนโยบายมาโดยเร็ว

นายเศรษฐา ยังกล่าวถึงเรื่องการยกเลิกวีซ่าบางประเทศนั้น ก็ต้องไปปรึกษากระทรวงการต่างประเทศ เนื่องจากมีหลายประเทศด้วยกัน บางประเทศได้ฟรีวีซ่าอยู่แล้ว แต่ก็อาจจะต้องมีการขยายจำนวนวันให้เพิ่มมากขึ้นหรือไม่ เพราะหลายประเทศที่มีอากาศหนาวมากในช่วงฤดูหนาว ก็มีความต้องการที่จะอยู่ในประเทศไทยมากกว่า 30 วัน โดยอาจจะต้องขยายเป็น 90 วันได้ 

ส่วนนโยบายผลักดันเรื่องจังหวัดภูเก็ต 24 ชั่วโมงนั้น นายเศรษฐา ย้ำว่าต้องศึกษาให้รอบคอบอีกทีหนึ่ง เพราะอาจเกี่ยวข้องกับเรื่องของโซนนิ่ง ก็ต้องขอดูก่อนเพราะว่าอาจจะมีผลกระทบต่อเพื่อนบ้านด้วย เรื่องของความปลอดภัย เรื่องของการดูแลความมั่นคง ก็ต้องดูให้ดีให้ครบวงจร พร้อมย้ำว่าในแต่ละโครงการ ที่ดูแบบเป็นโปรเจคเบส ซึ่งก็อาจจะไม่ผ่านการกลั่นกรอง ก็ต้องดูแบบองค์รวมทั้งหมด และถ้าทำแล้วภูเก็ตทั้งจังหวัดดีขึ้น ก็ไปหารายได้เสริมจากทางอื่นเข้ามา และก็อาจจะมีอีกหลายโครงการที่ไม่เกี่ยวกับตัวเลขการเงิน แต่เป็นเรื่องของความปลอดภัย อย่างเช่น อุโมงค์ของทางด้านป่าตอง ตั้งแต่ 10 ปีที่แล้วสมัยนางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร เป็นนายกรัฐมนตรี ซึ่งก็มีงบประมาณที่เพิ่มมากขึ้นหลักหมื่นล้านแล้ว ในตอนนี้ก็ต้องดูให้ดีอีกที 

ผู้สื่อข่าวถามถึงกรณีที่นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกลได้โทรศัพท์ยินดีหลังได้รับตำแหน่งนายกรัฐมนตรี โดยนายเศรษฐา ระบุว่า รู้สึกว่าจะโทรมาตั้งแต่วันพุธที่ 23 ส.ค. 2566 ก็บอกว่าเดี๋ยวก็คงได้เจอกันที่โปโลคลับ ซึ่งจะไปเล่นกีฬากัน 

เมื่อถามต่อว่าเห็นนายพิธาได้ฝากเรื่อง การแก้วิกฤตศรัทธาประชาชนด้วยอีกอย่างไร นายเศรษฐาตอบสั้นๆว่า “ก็รับฟังครับ”

จากนั้นนายเศรษฐา พร้อมด้วย ทีมเศรษฐกิจด้านนโยบายการท่องเที่ยวของพรรคเพื่อไทย นำโดย นพ.พรหมมินทร์ เลิศสุริย์เดช ประธานคณะกรรมการนโยบายพรรคเพื่อไทย น.ส.สุดาวรรณ หวังศุภกิจโกศล สส.แบบบัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทยและคณะร่วมเดินพบปะนักท่องเที่ยวและผู้ประกอบการย่านตลาดเมืองเก่าภูเก็ต

โดย นายกรัฐมนตรี แวะร้าน Torry’s ก่อนเปนร้านแรกโดยชิมคอฟฟี่เค้ก และทักทายนักท่องเที่ยวที่มาเที่ยวทั้งคนไทยและต่างประเทศในย่านนี้ตลอดเส้นทง พร้อมได้ถ่ายรูปกับประชาชนที่เข้ามาขอถ่ายรูป และมีผู้ประกอบการร้านเบเกอรี่ได้นำชีสเค้ก มาส่งให้นายกรัฐมนตรีได้ลองชิม ซึ่งนายเศรษฐาบอกว่าอร่อยมากเพราะเป็นคนชอบกินชีสเค้กอยู่แล้ว

นอกจากนี้นายเศรษฐาได้แวะร้าน Baan 92 ซึ่งเป็นสถานจัดกิจกรรมเรียนรู้วัฒนธรรมในพื้นที่ แวะชมการสาธิตผัดหมี่ฮกเกี้ยน และยังได้ลองปั้นขนมเต่าแดง หรือ อังกู๊ ซึ่งเป็นขนมพื้นเมือง เป็นขนมมงคล ใช้ในพิธีไหว้เจ้า ตรุษจีน แต่งงาน ของชาวภูเก็ต 

โดยคนในพื้นที่ได้สอบถามนายเศรษฐาว่าเคยปั้นมาก่อนหรือไม่ และนายเศรษฐาตอบว่าเคยปั้นแต่นานมาแล้วมา 50 ปีก่อนซึ่งคล้ายกับการปั้นดินน้ำมัน หลังจากนั้นนายกรัฐมนตรี ได้ใช้เวลาพูดคุยกับผู้ประกอบการย่านเมืองเก่าภูเก็ต เพื่อรับฟังความเห็นและข้อเสนอ

///

ทิ้งคำตอบไว้

กรุณาใส่ความคิดเห็นของคุณ!
กรุณาใส่ชื่อของคุณที่นี่