วันนี้ (28 ส.ค.2566) นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี ร่วมประชุมรับฟังข้อเสนอแนะ และหาแนวทางแก้ไขด้านการบิน เพื่อยกระดับการท่องเที่ยวร่วมกับผู้อํานวยการใหญ่ บริษัท ท่าอากาศยานไทย จํากัด (มหาชน) พร้อมด้วยประธานเจ้าหน้าที่บริหารสายการบิน 8 แห่ง
ก่อนเริ่มประชุม นายเศรษฐาได้แนะนำว่าที่รัฐมนตรีที่เข้าร่วมประชุมด้วยประกอบด้วย นายปานปรีย์ พหิทธานุกร ว่าที่รองนายกฯ ดูแลด้านเศรษฐกิจ, น.ส.สุดาวรรณ หวังศุภกิจโกศล ว่าที่ รมว.การท่องเที่ยวและกีฬา, นายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ ว่าที่ รมช.คลัง และ นพ.พรหมินทร์ เลิศสุริย์เดช ว่าที่เลขานายกรัฐมนตรี รวมถึงนายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ ว่าที่ รมว.คมนาคม ซึ่งเข้ามาภายหลังจากที่เริ่มประชุมไปแล้ว
นายเศรษฐา ระบุว่า ทันทีที่มีการแต่งตั้งเป็นรัฐบาลถูกต้อง และการถวายสัตย์ฯ เรียบร้อยแล้ว จะดำเนินการทันที รัฐบาลพรรคเพื่อไทยมีความร้อนใจว่าช่วงไตรมาสที่ 4 ซึ่งเป็นช่วงสำคัญในการกระตุ้นเศรษฐกิจ และเป็นช่วงพีคสำหรับการท่องเที่ยว หากได้เริ่มต้นทำงานในตอนนี้ก็จะเป็นการได้เปรียบ เพื่อเตรียมพร้อมรองรับการเข้ามาของนักท่องเที่ยว ซึ่งหลังจากได้รับฟังความคิดเห็นสมาคมการบิน พรรคเพื่อไทยก็จะแชร์นโยบายของรัฐบาล
ด้านนายกีรติ กิจมานะวัฒน์ ผู้อำนวยการใหญ่บริษัทท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน ) กล่าวว่า ได้นำผู้แทนจาก 8 สายการบิน หรือสมาคมสายการบินแห่งประเทศไทย เข้าพบนายกรัฐมนตรี รวมถึงเชิญนายสุทธิพงษ์ คงพูล ผู้อำนวยการสำนักงานการบินพลเรือนแห่งประเทศไทย ซึ่งเป็นหน่วยงานที่ดูเรื่องสล็อตการบินมาหารือด้วย และผู้ที่เข้าร่วมหารือในวันนี้ทั้งหมด เป็นผู้กำหนดแนวทางบริหารจัดการการบินของประเทศ ตามโจทย์ที่ได้สะท้อนไปเมื่อวันที่ 25 ส.ค.ที่ผ่านมา
เกี่ยวกับการแคลนเที่ยวบิน สนามบินในกรุงเทพมหานคร และสนามบินภูเก็ต และต้องเตรียมสล็อตรองรับสายการบินจีน และที่อื่น ๆ ที่จะเข้ามายัง 6 สนามบิน ที่เป็นสนามบินหลักของประเทศไทย ซึ่งการท่องเที่ยวจะเป็น Quick Win ( แผนปฏิบัติการเร่งรัด) ในส่วนที่จะสร้างรายได้ของประเทศ ซึ่งหลังจากได้รับโจทย์จากนายกรัฐมนตรี ได้ไปหารือกับ 8 สายการบิน ซึ่งวันนี้จะมารายงานให้ทราบในที่ประชุม
ขณะที่นายพุฒิพงศ์ ปราสาททองโอสถ กรรมการบริษัทบางกอกแอร์เวย์ และนายกสมาคมการบินแห่งประเทศไทย แสดงความพร้อมให้ความร่วมมือ ทำให้เกิดการเดินทางเพื่อตอบสนองการท่องเที่ยว หากสิ่งใดที่รัฐบาลเห็นว่าสมาคมสามารถดำเนินการได้ก็พร้อม แต่ขึ้นอยู่กับอุปสงค์ อุปทาน และยอมรับว่าประเทศไทยเป็นสถานที่ที่ได้รับความนิยมจากนักท่องเที่ยว และชี้ว่าความนิยมที่นักท่องเที่ยวจะกลับมาไทยค่อนข้างสูง หากประเทศไทยมีความพร้อมเมื่อใด นักท่องเที่ยวก็จะกลับมาเมื่อนั้น ซึ่งในภาพรวมต้องดูความพร้อมในด้านอื่น ๆ ด้วย ที่ทุกฝ่ายจะต้องร่วมกันดูว่าทำอย่างไรจะสร้างอุปสงค์ให้เพิ่มขึ้น โดยยืนยันว่า สายการบินมีความพร้อม