“ยัสปาล (Jaspal)” หวังรัฐบาลใหม่ปลุกเศรษฐกิจ ดึงนักช้อปต่างชาติ เพิ่มกำลังซื้อ คาด 5 ปี อุตฯเสื้อผ้า-รองเท้า มูลค่าพุ่ง 4.2 แสนล.
วิเศษ สิงห์สัจจเทศ ประธานเจ้าหน้าที่กลุ่มบริษัทยัสปาล (Jaspal) คาดการณ์ยอดขายรวมในอุตสาหกรรมเสื้อผ้าและรองเท้าปี 2565 อยู่ที่กว่า 302,000 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 5.8% จากปี 2564 โดยระหว่างปี 2566-2570 จะมีอัตราการเติบโตเฉลี่ยสะสมปีละ 6.8% โดยปัจจัยที่ทำให้คาดว่าจะเติบโตมากขึ้นในอีก 5 ปีจากนี้ คือ ประเทศไทยมีจำนวนนักท่องเที่ยวค่อนข้างสูง เป็นนักท่องเที่ยวที่ให้ความสำคัญ และชอบสินค้าแบรนด์ไทย ขณะที่บริษัทให้ความสำคัญกับการสร้างแบรนด์ ประกอบกับศักยภาพและเสน่ห์ของเมืองไทย จะดึงให้ยอดขายสินค้าเติบโตขึ้นได้
“นักท่องเที่ยวเป็นส่วนที่ทำให้ยอดขายเติบโตขึ้น หลังจากหมดวิกฤตโควิด ก็เห็นสัญญาณการกลับมาของนักท่องเที่ยว รวมถึงกำลังซื้อในประเทศไทย ดังนั้น การที่ประเทศไทยมีรัฐบาล และสถานการณ์ทางการเมืองมีความชัดเจนขึ้น ซึ่งคาดหวังว่าจะมีงบประมาณที่เข้ามาขับเคลื่อนเศรษฐกิจหลายด้านมากขึ้น”
ทั้งนี้ JPC เป็นบริษัทสัญชาติไทยที่มีส่วนแบ่งการตลาดเป็นอันดับ 1 ในอุตสาหกรรมเสื้อผ้าและรองเท้าเฉพาะอย่างของไทย (อ้างอิง:Euromonitor International) โดยมีส่วนแบ่งการตลาดช่วงปี 2563 อยู่ที่ 8.4% ปี 2564 อยู่ที่ 10% และปี 2565 อยู่ที่ 10.5% มีความสามารถในการทำกำไรใกล้เคียงกับบริษัทระดับโลก โดยปี 2565 กลุ่มบริษัทฯ มีอัตราการทำกำไรขั้นต้นอยู่ที่ 51.7%
โดยมีแผนการเปิดสาขาเพิ่มทั้งในและต่างประเทศ โดยเฉพาะในภูมิภาคอาเซียน คือ มาเลเซีย เวียดนาม กัมพูชา และฟิลิปปินส์ ในปี 2566 รวม 81 สาขา (ไทย 43 สาขา, ต่างประเทศ 38 สาขา) และปี 2567 รวม 108 สาขา (ไทย 64 สาขา, ต่างประเทศ 44 สาขา) จากปัจจุบันที่ JPC ช่องทางการจัดจำหน่ายสาขาหน้าร้าน และจุดจำหน่ายภายในศูนย์การค้า ห้างสรรพสินค้า และศูนย์ค้าปลีกชั้นนำทั่วประเทศ รวม 970 สาขา ทั้งในและต่างประเทศ ในประเทศไทย จำนวน 888 สาขา และต่างประเทศ 82 สาขา