หน้าแรก Voice TV 'สุทิน' มุ่งสร้างกองทัพทันสมัย แบ่งที่ดินทหารให้ประชาชนทำกิน-หั่นเป้าทหารเกณฑ์ ลั่นไม่เกรงใจคนทุจริต

'สุทิน' มุ่งสร้างกองทัพทันสมัย แบ่งที่ดินทหารให้ประชาชนทำกิน-หั่นเป้าทหารเกณฑ์ ลั่นไม่เกรงใจคนทุจริต

81
0
'สุทิน'-มุ่งสร้างกองทัพทันสมัย-แบ่งที่ดินทหารให้ประชาชนทำกิน-หั่นเป้าทหารเกณฑ์-ลั่นไม่เกรงใจคนทุจริต

‘สุทิน’ มุ่งสร้างกองทัพทันสมัย ขยายภารกิจแก้จน แบ่งที่ดินทหารให้ประชาชนทำกิน สั่งกองทัพหั่นเป้าทหารเกณฑ์ สร้างแรงจูงใจชวนคนสมัคร เพิ่มเงินเดือนจริง 1 หมื่น พร้อมเร่งสางปมเรือดำน้ำ-เรือหลวงสุโขทัย ลั่นไม่เกรงใจคนทุจริต

วันที่ 13 ก.ย. ที่กระทรวงกลาโหม ถ.สนามไชย เขตพระนคร สุทิน คลังแสง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม แถลงข่าวภายหลังร่วมประชุมรับฟังสรุปภารกิจและส่งมอบนโยบายให้หน่วยงานในสังกัดกระทรวงกลาโหม และเหล่าทัพ

สุทิน ระบุว่า จุดมุ่งหมายที่เข้ามาในกระทรวงกลาโหม คือสร้างกองทัพที่ทันสมัย ในขีดความสามารถไม่แพ้ชาติอื่น มีขนาดกองทัพที่เล็กพอเหมาะ กะทัดรัด ตามที่สังคมเรียกร้อง และทบทวนภารกิจของกองทัพให้เข้ากับยุคสมัย เช่น การพัฒนาพื้นที่ แก้ปัญหาภัยพิบัติ ภัยความยากจน

“ทุกคนตระหนักดี โดยเฉพาะผม เด็กที่เรียนเก่งที่สุดในประเทศจะไปอยู่ 3 ที่ คือไปเรียนแพทย์ ไปวิศวะ และมาเตรียมทหาร ถ้าคิดอย่างนี้ มันสมองชั้นดีของประเทศอยู่ที่กองทัพเยอะ เพราะฉะนั้นเราเอาสมองชั้นดี แล้วเปิดโอกาสให้เขาไปช่วยสังคมมากขึ้น โดยมีตัวชี้วัดที่ชัดเจน”

สุทิน ยังกล่าวถึงแนวคิดการนำที่ดินที่อยู่ในความครอบครองของกองทัพไปให้ประชาชนใช้ประโยชน์ โดยที่ดินของกองทัพมี 2 ส่วนคือ ที่ดินที่เป็นขอบเขตทางยุทธศาสตร์ หรือเป็นที่ตั้งชัดเจน เช่น ค่ายฝึก อีกส่วนคือที่ดินว่างเปล่า ที่ไม่ได้ใช้ ซึ่งรัฐบาลจะให้ไปสำรวจและนำไปแบ่งสรรให้ประชาชนใช้ทำมาหากิน ขณะที่รัฐบาลต้องไปพูดคุยกับกรมธนารักษ์

ขณะเดียวกัน โรงพยาบาลในค่ายทหารต่างๆ ให้เปิดให้ประชาชนมาใช้บริการ เว้นมีภัยสงคราม กองทัพก็สามารถสงวนไว้เองได้

ส่วนเรื่องกองทัพทันสมัยด้วยเทคโนโลยี ต้องนำเทคโนโลยี นำความก้าวหน้าใหม่ๆ มาใช้ทางยุทธการไว้เสริมกำลังรบ หรือมีเรื่องของไซเบอร์ วันหนึ่งอาจพัฒนาเป็นกองทัพที่ 5 โดยให้ไปศึกษาว่าสามารถทำได้หรือไม่ และจะเป็นรูปธรรมในปีไหน โดยอาจขยายกำลังไปปกป้องนักธุรกิจที่มาลงทุนในประเทศไทย

ลดการบังคับเกณฑ์-เพิ่มจำนวนสมัคร

ขณะที่การลดกำลังพลและการเกณฑ์ทหาร สุทิน กล่าวว่า ได้พูดไปในการแถลงนโยบายที่รัฐสภาเมื่อวาน (12 ก.ย.) แต่มีเนื้อความบางส่วนเข้าใจผิด ว่าแนวทางการยกเลิกเกณฑ์ทหารทำไม่ได้ เนื่องจากขัดต่อรัฐธรรมนูญ แต่ความจริงนโยบายของพรรคเพื่อไทย คือการหาหนทางไปสู่การยกเลิกเกณฑ์ทหาร

มาตรการแรกคือทางอ้อม หากมีการสมัครทหารจำนวนมาก ได้จำนวนทหารตามเป้า ก็ไม่จำเป็นต้องเกณฑ์เพิ่ม ทำให้การเกณฑ์ทหารลดลงตามธรรมชาติ อีกทางหนึ่งคือออกกฎหมายบังคับไม่ให้มีการเกณฑ์ ก็ยังมีหลายบทเรียนจากประเทศต่างๆทั่วโลก ท้ายสุดต้องรื้อฟื้นการเกณฑ์ทหาร

“ทางฉลาดที่สุดคือทำ 2 ทางควบคู่กันไป แล้วเสริมแรง สร้างแรงกระตุ้นให้มาสมัครเยอะๆ เพื่อให้ทางไม่ต้องเกณฑ์ทหาร และไม่เป็นการปิดช่องตัวเอง ซึ่งวันนี้ทางกองทัพก็ให้ความร่วมมือ เพราะเป็นแนวทางที่ทำมาอยู่แล้ว”

ให้กองทัพไปทบทวนจำนวนของทหารเกณฑ์ที่เป็นเป้าหมาย ว่าจาก 100,000 นาย เป็น 90,000 นาย ยังสามารถปรับลดลงอีกได้หรือไม่ เหมือนที่พักร่วมฝ่ายค้านถามว่าเพราะเหตุใดจึงต้องลดจำนวนเท่านี้ ซึ่งเท่าที่ฟังมา กองทัพก็สามารถลดได้ ควบคู่ไปกับรณรงค์ให้คนมาสมัครใจเกณฑ์ทหาร เพิ่มสวัสดิการ เพิ่มเงินเดือน โดยไม่รบกวนงบประมาณของประเทศ

“เช่นหากสามารถลดได้ 10,000 คน เราจะนำงบของจำนวนที่ลดลงไปเติมเป็นค่าประกอบเลี้ยง ซึ่งปกติจะหักจากเงินเดือนที่ทหารเกณฑ์ จำนวน 3,000 บาท จากที่ได้รับ 10,000 บาท หากสามารถเติมเต็มตรงนี้ ส่งผลให้ ทหารเกณฑ์ได้เงินเดือนจริง 10,000 ต่อเดือน เชื่อว่าต่อไปคนมาเกณฑ์ทหารจะได้รับเงินเดือนเต็ม “

สุทิน ยังย้ำว่า จะเพิ่มโอกาสให้คนที่มาสมัครใจเป็นทหารเกณฑ์ ได้มีชีวิตที่ดีขึ้นในการประกอบอาชีพ สามารถไปต่อเป็นนักเรียนนายสิบ โดยอยากจะทำให้ค่ายฝึกทหารเกณฑ์ คล้ายโรงเรียนนายสิบ หรือโรงเรียนนายสิบตำรวจ ช่วยสร้างแรงจูงใจได้

อีกปัญหาใหญ่คือเรื่องยาเสพติดในค่ายทหารเกณฑ์ พร้อมเชื่อมั่นว่าเด็กที่ติดยาเสพติดแล้วมาเป็นทหารเกณฑ์ จะสามารถบำบัดพวกเขาเหล่านี้ได้ ตลอดจนจูงใจกับผู้ปกครองว่าลูกหลานที่มาที่นี้หายจากติดยา ได้รับอนาคตที่ดี ได้เงินเดือนเต็ม

เร่งสางปมเรือดำน้ำ-เรือหลวงสุโขทัย

ขณะที่ความคืบหน้าของการเจรจาจัดซื้อเรือดำน้ำล่าสุด กองทัพเรือสรุปว่าจะเดินหน้าการจัดซื้อจัดจ้างต่อ ซึ่งการดำเนินการในขั้นตอนต่อไปจะมาที่กระทรวงกลาโหม และเสนอเข้าสู่การประชุม ครม. ต่อไป ซึ่งยังคงมีการสำรวจข้อมูล รวมทั้งหารือกันอยู่หลายฝ่าย ซึ่งนายกรัฐมนตรีก็ให้ความสนใจเรื่องนี้ และกำลังจะหาทางออกที่ดีที่สุด

ส่วนการเดินหน้าเรื่องนี้จะทำให้เกิดความขัดแย้งในพรรคเพื่อไทยหรือไม่ เนื่องจาก ยุทธพงศ์ จรัสเสถียร อดีต ส.ส.มหาสารคาม พรรคเพื่อไทย เคยคัดค้านเรื่องนี้ สุทิน กล่าวว่า ท่าทีของ ยุทธพงศ์ เป็นไปเพื่อการปกป้องผลประโยชน์ของประเทศ ซึ่งมุมมองของพรรคเพื่อไทยต่อเรื่องนี้ คือ กองทัพไม่เสียโอกาส ประเทศชาติต้องไม่เสียประโยชน์ และไม่เกิดความบาดหมางกับชาติมหามิตร

ส่วนเรื่องเครื่องยนต์เรือดำน้ำกับทางเยอรมนี เครื่องยนต์เรือดำน้ำ ที่สามารถนำมาใช้กับเรือดำน้ำที่จีนต่อให้ไทยอยู่ได้นั้นถูกเลิกผลิตไปแล้ว จะมีปัญหาอะไรตามมาหรือไม่ สุทิน กล่าวว่า ทราบข่าวเรื่องนี้ แต่ข้อเท็จจริง จะต้องติดตามหลังจากที่นายกรัฐมนตรี ไปร่วมการประชุม UNGA แต่ตามที่นายกรัฐมนตรีแถลง ทางออกของเรื่องนี้ยังไม่ใช่การยกเลิกสัญญา ในเบื้องต้นกระทรวงกลาโหมจะพยายามแก้ไขก่อน และรอความชัดเจนจากนายกรัฐมนตรีอีกครั้ง

“เรื่องเรือดำน้ำเป็นเรื่องใหญ่ จะต้องเอาความสุจริตเป็นที่ตั้ง เป็นเกราะกำบังในการดำเนินการให้ลุล่วง”

สำหรับการกู้เรือหลวงสุโขทัย ที่ถูกอภิปรายในสภาฯ ว่าผู้ได้ยื่นประมูล มีนามสกุลเดียวกับว่าที่ผู้บัญชาการทหารสูงสุด (ผบ.สส.) นั้น สุทิน ย้ำว่า จะต้องรีบหาความชัดเจน เช่นเดียวกับข้อกล่าวหาของฝ่ายค้านว่ามีการล็อคสเป็คบริษัทกู้เรือ

สุทิน ยืนยันว่า สำหรับเรื่องนี้จะไม่ต้องเกรงใจ เพราะเป็นนโยบายของรัฐบาล ที่ต้องทำให้กองทัพโปร่งใส ลดการทุจริตให้เหลือน้อยที่สุด ถ้าหากว่ามีการทุจริต

ทิ้งคำตอบไว้

กรุณาใส่ความคิดเห็นของคุณ!
กรุณาใส่ชื่อของคุณที่นี่