หน้าแรก Voice TV สส.ก้าวไกล จี้ อว. เร่งแก้ปัญหารับน้องโหด ร้อง ยธ.เยียวยาอย่างเหมาะสม-เป็นธรรม

สส.ก้าวไกล จี้ อว. เร่งแก้ปัญหารับน้องโหด ร้อง ยธ.เยียวยาอย่างเหมาะสม-เป็นธรรม

86
0
สสก้าวไกล-จี้-อว-เร่งแก้ปัญหารับน้องโหด-ร้อง-ยธ.เยียวยาอย่างเหมาะสม-เป็นธรรม

ส.ส.ก้าวไกล จี้ อว. เร่งแก้ปัญหารับน้องโหด พร้อมเรียกร้องให้กระทรวงยุติธรรม เยียวยาญาติผู้เสียชีวิตอย่างเหมาะสมและเป็นธรรม

สืบเนื่องจากกรณี สถาบันเทคโนโลยีปทุมวัน จัดกิจกรรมรับน้องจนมีเสียชีวิต 1 คน โดยผู้ปกครองได้ขอความช่วยเหลือจากธิษะณา ชุณหะวัณ สส. เขต 2 ราชเทวี ปทุมวัน สาทร พรรคก้าวไกล จนล่าสุดผู้ป่วยนักศึกษาอาการโคม่า ได้เสียชีวิตเพิ่มแล้วอีก 1 ราย

วันที่ 15 ก.ย. เวลา 08.00 น. ที่กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.) แม่นักศึกษาปี 1 สถาบันเทคโนโลยีปทุมวัน เข้ายื่นหนังสือร้องความยุติธรรมและการเยียวยา ต่อ วันนี นนท์ศิริ ผู้ช่วยปลัดกระทรวง อว. โดย ภัสริน รามวงศ์ หรือ กานต์ ส.ส.เขตบางซื่อ-ดุสิต พรรคก้าวไกล, ปารมี ไวจงเจริญ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล, ศุภณัฐ มีนชัยนันท์ หรือ แบงค์ ส.ส.บางเขน จตุจักร หลักสี่ พรรคก้าวไกล ร่วมพูดคุยหารือเพื่อแก้ไขปัญหาในกรณีดังกล่าว และยกระดับป้องกันไม่ให้เกิดเหตุการณ์ลักษณะดังกล่าวอีก

โดยเนื้อหาใจความหลักของการพูดคุยและยื่นหนังสือมีดังต่อไปนี้

เมื่อวันที่ 27 สิงหาคม 2566 กลุ่มนักศึกษาสถาบันเทคโนโลยีปทุมวัน ได้จัดกิจกรรมสานสัมพันธ์หรือ กิจกรรมรับน้อง บริเวณพื้นที่ในสถาบันเทคโนโลยีปทุมวัน ปรากฏว่า เมื่อเวลาใกล้เที่ยง มีนักศึกษารุ่นพี่กลุ่มหนึ่ง จํานวนประมาณ 7-8 คน พร้อมด้วยอาจารย์ผู้ควบคุมกิจกรรม ได้จัดให้นักศึกษาผู้เข้าร่วมกิจกรรมทํา การออกกําลังกายกลางแจ้ง ด้วยการดันพื้นอย่างต่อเนื่อง ซึ่งจากการตรวจสอบภาพกล้องวงจรปิด สามารถนับจํานวนการดันพื้นได้อย่างน้อย 450 ครั้ง ส่งผลให้มีนักศึกษาผู้เข้าร่วมกิจกรรมจํานวน 2 คน ได้แก่ นายพิฆเนศ สมบุญกิจ และ นายกิตติ มณีวรรณ ได้รับบาดเจ็บ มีอาการหน้ามืดและหมดสติล้มกระแทกลงกับพื้น ต่อมาสองนักศึกษาดังกล่าวได้ถูกนําตัวส่งไปรักษายังโรงพยาบาลกลางและโรงพยาบาลพระมงกุฎเกล้า ตามลําดับ และเสียชีวิตลงในเวลาถัดมา ผลการชันสูตรระบุสาเหตุการเสียชีวิตของ นายพิฆเนศ สมบุญกิจ ว่าเกิดจากอาการสมองขาดอากาศเป็นเวลานานจนทําให้เซลล์สมองเสียหาย ส่วนนายกิตติ มณีวรรณ เกิดจาก ระบบไหลเวียนโลหิตล้มเหลว 

การจัดให้มีกิจกรรมออกกําลังกายกลางแจ้งอย่างหนักและต่อเนื่อง ท่ามกลางสภาพแวดล้อมที่มี แสงแดดและอากาศที่ร้อนจัด โดยไม่มีการจัดระยะเวลาพักหรือความเข้มข้นในการออกกําลังกายที่เหมาะสม ประชาชนหรือบุคคลทั่วไปที่มีวิจารณญาณ ย่อมพึงคาดหมายได้ว่า อาจทําให้ผู้เข้าร่วมกิจกรรมได้รับอันตราย จนถึงขั้นเสียชีวิต ด้วยเหตุนี้ การจัดให้มีกิจกรรมออกกําลังกายของกลุ่มนักศึกษารุ่นพี่และอาจารย์ผู้ควบคุม กิจกรรม จึงเป็นการประมาทเลินเล่ออย่างร้ายแรงจนเป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย ซึ่งปัจจุบัน พนักงาน สอบสวนสถานีตํารวจนครบาลปทุมวันได้ดําเนินการให้มีการสอบสวนคดีทางอาญาแล้ว

ในการนี้ เพื่อให้การอํานวยความยุติธรรมและการชดเชยเยียวยาแก่ผู้เสียหายเป็นไปโดยรวดเร็ว ทั้งเพื่อป้องกันและยับยั้งไม่ให้เหตุการณ์ในลักษณะดังกล่าวเช่นนี้เกิดขึ้นซ้ําอีก ข้าพเจ้า กลุ่มสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรพรรคก้าวไกล จึงขอเรียนถึงรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม ให้ดําเนินการตามข้อเรียกร้องดังต่อไปนี้ 

1. กระทรวงอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม ต้องเร่งติดตามความคืบหน้าในการดําเนินคดี ความต่อผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้อง โดยต้องมีคําสั่งหรือดําเนินการให้ทางสถาบันเทคโนโลยีปทุมวันเร่ง สอบสวนร่วมกับตํารวจในพื้นท่ีเพื่อหาตัวผู้กระทําความผิดมาดําเนินคดีโดยเร็วท่ีสุด 

2. กระทรวงอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม ต้องเร่งดําเนินการเข้าไปมีส่วนร่วมในการ เจรจาไกล่เกล่ียร่วมกับสถาบันเทคโนโลยีปทุมวัน เพื่อชดเชยเยียวยาแก่ญาติผู้เสียชีวิตอย่างเหมาะสมและเป็นธรรม เนื่องจากสถาบันเทคโนโลยีปทุมวันยังคงไม่มีความคืบหน้าในการชดเชยเยียวยาแก่ญาติ ผู้เสียชีวิต 

3. กระทรวงอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม ต้องกําหนดให้มีประกาศ กฎ หรือข้อบังคับ ให้ทุกสถาบันการศึกษาภายใต้สังกัดของกระทรวงฯ มีมาตรการในการควบคุมและป้องกันปัญหาการ ละเมิดสิทธิมนุษยชนและใช้ความรุนแรงในกิจกรรมสานสัมพันธ์ หรือกิจกรรมรับน้อง ซึ่งเป็นปัญหา เรื้อรังที่มีมาอย่างยาวนานในสังคมไทย โดยประกาศ กฎ หรือข้อบังคับดังกล่าวต้องมีลักษณะ ดังต่อไปนี้

3.1. ห้ามจัดกิจกรรมสานสัมพันธ์หรือกิจกรรมรับน้อง เว้นแต่ได้รับอนุญาตจากมหาวิทยาลัย 

3.2.ห้ามจัดกิจกรรมสานสัมพันธ์หรือกิจกรรมรับน้องในที่กลางแจ้งโดยไม่จําเป็นหากมีความจําเป็นต้องจัดกิจกรรมกลางแจ้ง ผู้จัดกิจกรรมต้องต้องจัดให้มีมาตรการที่เหมาะสมในการ ป้องกันผลกระทบจากสภาพแวดล้อมที่เกิดขึ้นแก่ผู้เข้าร่วมกิจกรรม 

3.3. ห้ามให้มีความรุนแรงในการจัดกิจกรรม ทั้งภายในและภายนอกมหาวิทยาลัย

3.4. ต้องมีการบันทึกภาพเคลื่อนไหวขณะจัดกิจกรรมตลอดเวลา 

3.5. ต้องมีตัวแทนจากสถาบันการศึกษาในการดูแลกิจกรรมอย่างเคร่งครัด และต้องร่วมรับผิดในความเสียหายที่เกิดขึ้นจากการดําเนินกิจกรรมต่อผู้ร่วมกิจกรรม ทั้งทางแพ่งและอาญา 

3.6. กําหนดให้มีแบบลายลักษณ์อักษรในการขอจัดกิจกรรม ซึ่งต้องมีการะบุรายละเอียด อย่างชัดเจนและครบถ้วน เพื่อยื่นให้กระทรวงอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม เป็นผู้พิจารณาอนุญาต ท้ังเม่ือพิจารณาอนุญาตแล้ว ผู้จัดกิจกรรมต้องแจ้งรายละเอียดท้ังหมด แก่ผู้เข้าร่วมกิจกรรม ก่อนจะให้ความยินยอมในการเข้าร่วมกิจกรรม 

3.7. ผู้จัดกิจกรรมต้องจัดให้มีเจ้าหน้าที่ทางการแพทย์หรือพยาบาลที่มีใบอนุญาตวิชาชีพ เตรียมพร้อมประจําอยู่ตลอดทั้งกิจกรรม 

นอกจากนี้ กลุ่มผู้แทนราษฎรพรรคก้าวไกลยังส่งหนังสือถึงรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม ให้ดําเนินการดังต่อไปนี้ด้วย

1. กระทรวงยุติธรรม ต้องเร่งติดตามความคืบหน้าในการดําเนินคดีความต่อผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้อง โดย ต้องมีคําสั่งหรือดําเนินการให้ทางสถาบันเทคโนโลยีปทุมวันเร่งสอบสวนร่วมกับตํารวจในพื้นที่เพื่อหา ตัวผู้กระทําความผิดมาดําเนินคดีโดยเร็วที่สุด 

2. กระทรวงยุติธรรม ต้องเร่งดําเนินการเข้าไปมีส่วนร่วมในการเจรจาไกล่เกลี่ยร่วมกับสถาบัน เทคโนโลยีปทุมวัน เพื่อชดเชยเยียวยาแก่ญาติผู้เสียชีวิตอย่างเหมาะสมและเป็นธรรม เนื่องจากสถาบัน เทคโนโลยีปทุมวันยังคงไม่มีความคืบหน้าในการชดเชยเยียวยาแก่ญาติผู้เสียชีวิต

ทิ้งคำตอบไว้

กรุณาใส่ความคิดเห็นของคุณ!
กรุณาใส่ชื่อของคุณที่นี่