หน้าแรก Voice TV 'เศรษฐา' มอบรองนายกฯ ดูแลเรื่องผู้ลี้ภัย ย้ำต้องดูให้ครบในทุกมิติ

'เศรษฐา' มอบรองนายกฯ ดูแลเรื่องผู้ลี้ภัย ย้ำต้องดูให้ครบในทุกมิติ

85
0
'เศรษฐา'-มอบรองนายกฯ-ดูแลเรื่องผู้ลี้ภัย-ย้ำต้องดูให้ครบในทุกมิติ

‘เศรษฐา’ นำคณะถกประเด็นปัญหาการค้า-ยาเสพติด-สัญชาติ-ที่ดินทำกิน ที่ด่านแม่สาย มองปัญหาลี้ภัยสู้รบเมียนมา เรื่องละเอียดอ่อน มอบรองนายกฯที่ดูแล – ลั่นคลังไม่มีปัญหา แม้แบ่งจ่ายเงินเดือนข้าราชการ 2 งวด

วันที่ 15 ก.ย. เศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ให้สัมภาษณ์ภายหลังการตรวจเยี่ยมด่านพรมแดนไทย-เมียนมาร์ อ.แม่สาย จ.เชียงราย ว่า วันนี้มารับฟังปัญหาหลายๆด้าน ซึ่งเรื่องใหญ่เป็นเรื่องการค้าระหว่างประเทศ คมนาคม เนื่องจากเป็นจุดยุทธศาสตร์สำคัญ เหนือสุดในการขนถ่ายสินค้าไปยังประเทศจีนรวมถึงประเทศ อื่นๆ ทั้งลาว พม่า ไทย จีน

ซึ่งได้รับฟังความคิดเห็นผู้ประกอบการว่าอยากให้มีการลงทุนหลายรูปแบบ ทั้งทางน้ำ ทางรถยนต์ หรือการสร้างด่านศุลกากร ถือว่าเป็นเรื่องสำคัญ ซึ่งแน่นอนว่าเมื่อมีการขอโครงการก็ต้องมีเรื่องงบประมาณที่เราจะต้องนำมาพิจารณากัน ตนจึงเสนอให้มีการตั้งคณะทำงาน โดยจะต้องมีการเรียงลำดับความสำคัญว่าอะไรสามารถทำได้ทำได้เร็วเพื่อเป็นการกระตุ้นการค้าระหว่างประเทศ

ขณะเดียวกันนายกรัฐมนตรี ยังระบุว่า ปัญหาเร่งด่วนคือเรื่องการแก้ไขปัญหายาเสพติด ซึ่งตรงนี้เป็นจุดการค้าระหว่างประเทศ สารผลิตหรือสารตั้งต้นถูกลักลอบเข้ามาจากประเทศเพื่อนบ้าน จึงต้องอาศัยการพูดคุยกันหลายหลายภาคส่วน โดยระบุอีกว่า ไม่ใช่เพียงแต่เรื่องการต่างประเทศอย่างเดียวที่ทำให้เกิดปัญหาใหญ่หลวงขึ้น

ซึ่งต้องมีเรื่องการทำลายยาเสพติด โดยมีการสั่งการนโยบายว่าในวันอาทิตย์(17 ก.ย.) นี้ จะมีการประชุมร่วมกับ ปปส. และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อให้ลดการใช้ยาเสพติด โดยนายกรัฐมนตรี ระบุว่า พื้นที่จังหวัดเชียงรายลดลง แต่ไปเพิ่มทางพื้นที่ภาคอีสานแทน

ขณะที่การประชุมวันนี้ยังมีการหารือเรื่องกลุ่มชาติพันธ์ุ ซึ่งเรื่องสิทธิมนุษย์ชนเป็นเรื่องสำคัญ ไม่ว่าจะเป็นการผลักดันเด็กกลับประเทศเมียนมาร์ เนื่องจากไม่มีสิทธิ์เข้ารับการศึกษา นอกจากนี้ยังมีสิทธิที่ดินทำกิน จึงไม่ใช่เพียงเรื่องปัญหาของชาวชาติพันธ์ุแต่เป็นปัญหาของคนไทยทั้งประเทศ หลายครอบครัวมีการครอบครองที่ดินมานานแต่ยังไม่ได้มีการรับรองสิทธิ์

ซึ่งตนได้เน้นย้ำไปแล้วว่า ต้องให้ความเป็นธรรมกับทุกภาคส่วน ด้านการแก้ไขปัญหาฝุ่นละออง PM 2.5 เป็นปัญหาใหญ่ที่ต้องแก้ไขปัญหารวบรวมกันไป ซึ่งเรามีการวางลำดับการดำเนินงานมาแล้วว่าจะทำอย่างไร ซึ่งยอมรับว่าเป็นเรื่องที่ละเอียดอ่อน

เนื่องจากเป็นการปลูกข้าวโพดในพื้นที่เมียนมาร์ ซึ่งก็ต้องมีการเจรจาระหว่างประเทศ และอีกไม่กี่เดือนจะถึงฤดูการท่องเที่ยวของภาคเหนือ ซึ่งตรงกับช่วงการเผาตอซังด้วย จึงต้องให้มีการลดลงอย่างมีนัยยะสำคัญ ซึ่งรองนายกฯที่กำกับดูแลได้รับเรื่องไปแล้ว ก่อนที่จะเน้นย้ำว่ารัฐบาลให้ความสำคัญกับการแก้ไขปัญหาในพื้นที่จังหวัดเชียงราย 

ส่วนเรื่องใดที่สามารถตั้งคณะทำงานได้ทันทีเพื่อขับเคลื่อน เศรษฐา ระบุว่า เป็นเรื่องสัญชาติที่จะต้องดำเนินการในทันที ทั้งเจ้าหน้าที่ไม่เพียงพอ หรือขั้นตอนการดำเนินการมากเกินไป ซึ่งต้องขอเวลาสรุปและดำเนินการ

ทั้งนี้ เศรษฐา ปฏิเสธว่า ขณะนี้ยังไม่ได้มีการพิจารณาฟรีวีซ่าให้กับชาวเมียนมาร์ เนื่องจากเป็นเรื่องของความมั่นคง อาจจะเป็นในลักษณะการขอวีซ่าตรงด่านได้ เป็นการอำนวยความสะดวกการค้าชายแดน ซึ่งตนมองว่าศักยภาพมีมากกว่านี้ โดย เศรษฐา ยังระบุว่า ปัญหาการสู้รบภายในประเทศเมียนมาร์ ตามแนวชายแดน ถือเป็นเรื่องละเอียดอ่อน ต้องดูให้ครบในทุกมิติ เวลาแก้ไขปัญหาต้องดูเป็นเรื่องๆไป

ส่วนกรณีที่เด็ก 126 คนถูกผลักดันกลับประเทศเมียนมา เศรษฐา มองว่า เป็นเรื่องที่สำคัญ โดยได้มอบหมายรองนายกรัฐมนตรี ที่เกี่ยวข้องติดตามและดูแล ซึ่งเรื่องการศึกษา เป็นการกำกับของ อนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย 

ส่วนการถูกหลอกเข้าไปเป็นแก๊งค์คอลเซ็นเตอร์ในประเทศเมียนมากว่า 300 คน โดยมีการร้องขอให้รัฐบาลช่วยกลับประเทศ เศรษฐา ระบุว่า ขณะนี้ยังไม่ทราบเรื่อง 

ทั้งนี้ เศรษฐา ยังกล่าวถึงเสียงวิพากษ์วิจารณ์ข้อกังวลถึงการแบ่งจ่ายเงินเดือนข้าราชการ 2 รอบต่อเดือนถึงการดำเนินการอาจจะไปหนักที่กระทรวงการคลัง ซึ่งอาจจะต้องเบิกเป็น 2 งวด ว่า ไม่มีปัญหา

ทิ้งคำตอบไว้

กรุณาใส่ความคิดเห็นของคุณ!
กรุณาใส่ชื่อของคุณที่นี่