วันนี้ (15 ก.ย.2566) นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี ลงนามในคำสั่งสำนักนายกรัฐมนตรี ที่ 234-2566 ตั้ง 9 ที่ปรึกษานายกฯ โดยมีชื่อคนดังเพียบ โดยหนึ่งในนั้นมีชื่อ นายกิตติรัตน์ ณ ระนอง เป็น “ประธานที่ปรึกษา”
“กิตติรัตน์” นั่งประธานกุนซือนายกฯ เศรษฐา
กิตติรัตน์ ณ ระนอง เกิดเมื่อวันที่ 3 ส.ค.2501 เป็นบุตรของ เก่ง ณ ระนอง และ วิลัดดา สำเร็จการศึกษาระดับมัธยมศึกษาตอนต้นจากโรงเรียนอัสสัมชัญ, มัธยมศึกษาตอนปลายจากโรงเรียนเตรียมอุดมศึกษา
จบการศึกษา ปริญญาตรีจากคณะเศรษฐศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ปริญญาโท สถาบันบัณฑิตบริหารธุรกิจศศินทร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ด้านชีวิตครอบครัวสมรสกับเกสรา บุตรสาวของ พล.อ.พร ธนะภูมิ
กิตติรัตน์ เคยดำรงตำแหน่งเป็นกรรมการผู้จัดการตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย หลังพ้นตำแหน่งได้เป็นกรรมการในคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) คนที่ 9 ในระหว่างวันที่ 10 ก.ย.2546 -31 พ.ค.2549
กิตติรัตน์ เคยเป็นอาจารย์สอนในระดับอุดมศึกษา โดยดำรงตำแหน่งเป็นรองผู้อำนวยการฝ่ายวิชาการ สถาบันบัณฑิต บริหารธุรกิจศศินทร์แห่งจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ระหว่างปี 2549 – 2553 และ อธิการบดีมหาวิทยาลัยชินวัตร ในระหว่างปี 2553 – 2554
ไม่เพียงเท่านั้น กิตติรัตน์ ยังเคยเป็นผู้จัดการทีมฟุตบอลชาติไทย ชุด 14 ปี 2545 , ชุดเอเชียนเกมส์ ปี 2550 และ ทีมชาติชุดใหญ่ ปี 2551
เคยนั่ง “รองนายกฯ- รมว.คลัง”
กิตติรัตน์ ได้รับแต่งตั้งเป็นรองนายกรัฐมนตรี และ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ในรัฐบาลของ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ในปี 2554 ปีเดียวกัน สื่อมวลชนประจำทำเนียบรัฐบาล ร่วมกันตั้งฉายาให้นักการเมืองประจำปี ซึ่งกิตติรัตน์ได้รับฉายาว่า “ปุเลง…นอง” จากกรณีที่กิตติรัตน์ร้องไห้เมื่อคราวน้ำเข้าท่วมนิคมอุตสาหกรรมสำคัญหลายแห่ง
โดยอธิบายเพิ่มว่า เป็นคำที่ล้อมาจากคำว่า “บุเรงนอง” ที่เป็นแม่ทัพใหญ่ในนิยาย “ผู้ชนะสิบทิศ” เช่นเดียวกับนายกิตติรัตน์ที่เป็นขุนพลด้านเศรษฐกิจ ผู้ประกาศตัวว่าจะเข้ามากู้วิกฤตให้ประเทศ แต่การทำงานกลับเป็นไปอย่างติด ๆ ขัด ๆ ไม่ราบรื่นเหมือนกับ ปุเลง ๆ ไปเรื่อย ๆ นอกจากนี้ ยังมีปัญหากับ นายธีระชัย ภูวนาถนรานุบาล รมว.คลัง หลายครั้ง
อ่านข่าว : สื่อสภาฯให้ฉายาปี 54 สภาผู้แทนราษฎร: กระดองปูแดง
ต่อมาในเดือน ม.ค. 2555 กิตติรัตน์ ได้รับโปรดเกล้าฯ แต่งตั้งให้พ้นจากรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ และดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง จากการปฏิบัติหน้าที่ดังกล่าว กิตติรัตน์ได้กล่าวต่อสื่อมวลชนว่าข้อมูลตัวเลขเป้าหมายทางเศรษฐกิจที่แถลงต่อสื่อมวลชนไม่สอดคล้องกับความเป็นจริง หรือเรียกว่าเป็น “โกหกสีขาว” ต่อมาได้รับการกล่าวถึงในความเหมาะสม และผลกระทบต่อความเชื่อมั่นของชาวต่างชาติที่มีต่อประเทศไทยจนนำไปสู่ประเด็นหนึ่งในการอภิปรายไม่ไว้วางใจนายกรัฐมนตรีในเวลาต่อมา
อ่านข่าว : หลายความเห็นต่อคำ “โกหก” ของ “กิตติรัตน์” เรื่องเป้าหมายส่งออก
กิตติรัตน์ ได้รับการแต่งตั้งเป็นรองหัวหน้าพรรคเพื่อไทยจากที่ประชุมใหญ่พรรคเพื่อไทยเมื่อเดือน ต.ค. 2555
วันที่ 7 พ.ค.2557 กิตติรัตน์ ถูกศาลรัฐธรรมนูญตัดสินให้พ้นจากความเป็นรัฐมนตรี เนื่องจากมีส่วนเกี่ยวข้องในการโยกย้ายนายถวิล เปลี่ยนศรี จากตำแหน่งเลขาธิการ สภาความมั่นคงแห่งชาติ โดยขาดความชอบธรรม
ต่อมาในการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรไทยเป็นการทั่วไป พ.ศ. 2562 กิตติรัตน์ได้สมัครรับเลือกตั้งในระบบบัญชีรายชื่อ สังกัดพรรคเพื่อไทย ลำดับที่ 11 แต่ไม่ได้รับเลือกตั้ง เนื่องจากพรรคเพื่อไทยมีจำนวนสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรมากกว่าจำนวนสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรพึงมีตามที่กำหนดไว้ในรัฐธรรมนูญ
ปี 2560 กิตติรัตน์ ขึ้นศาลเบิกความคดีจำนำข้าว โดยเป็นพยาน ชี้แจ้งถึงเหตุผลในการจัดทำโครงการดังกล่าว
อ่านข่าว : “กิตติรัตน์” เบิกความคดีจำนำข้าว ยันไม่กระทบภาวะการคลัง
ในปี 2563 กิตติรัตน์ได้รับเลือกจากที่ประชุมใหญ่ให้เป็น “รองหัวหน้าพรรคเพื่อไทย”
เมื่อปี 2564 หลังคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ชี้มูลความผิด นายกิตติรัตน์ เมื่อครั้งดำรงตำแหน่ง รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.พาณิชย์ กับพวก ละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยทุจริต โดยละเว้นไม่ควบคุมดูแลหรือสั่งการให้มีการตรวจสอบ กรณีองค์การคลังสินค้าคัดเลือกบริษัท สยามอินดิก้า จำกัด ให้เป็นผู้ส่งมอบข้าวให้ BULOG ประเทศอินโดนีเซีย ไม่ชอบด้วยกฎหมาย
ขณะที่ ล่าสุดปี 2566 นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี ลงนามในคำสั่งสำนักนายกรัฐมนตรี ที่ 234-2566 เรื่องแต่งตั้งที่ปรึกษาของนายกรัฐมนตรี โดยมีชื่อของ นายกิตติรัตน์ เป็น ประธานที่ปรึกษา
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง