วันนี้ (21 ก.ย.2566) นายปิยรัฐ จงเทพ สส.กรุงเทพ แถลงเรื่อง คำพิพากษาของศาลฎีกา กรณี น.ส.พรรณิการ์ วาณิช ถูกถอนสิทธิรับสมัครเลือกตั้งตลอดไป และไม่มีสิทธิดำรงตำแหน่งทางการเมืองตลอดชีวิต ว่า ในฐานะผู้ที่ได้อภิปรายประเด็นกระบวนการยุติธรรม และปัญหาโครงสร้างประเทศที่มีการใช้นิติสงครามดำเนินการกับนักการเมือง ชี้เห็นถึงปัญหาของรัฐธรรมนูญ ว่าใช้ปราบโกงหรือปราบใคร
ซึ่งองค์กรอิสระได้ออกมาตรฐานทางจริยธรรม ที่บังคับใช้กับ สส. สว. และรัฐมนตรี ชี้ปัญหาเกิดขึ้นเนื่องจากกรณี เกิดข้อพิพาทเรื่องจริยธรรม ซึ่งในตัวบทกฎหมายที่องค์กรนั้นๆ เอาผิดทางวินัยหรือจริยธรรมภายในองค์กร แต่ให้อำนาจตามรัฐธรรมนูญมาตรา 235 ให้ศาลรัฐธรรมนูญหรือองค์กรอิสระวินิจฉัยส่งเรื่องเอาผิดกับนักการเมืองได้ ย้ำว่าประเด็นนี้มีปัญหา ทั้งนี้มีโทษทางการเมืองแล้วยังมีโทษตัดสิทธิ
และอ้างอิงว่าความผิดของ น.ส.พรรณิการ์ เกิดขึ้นก่อนที่จะเข้ามาดำรงตำแหน่งทางการเมืองตั้งแต่ปี 2553 ช่วงชุมนุมเสื้อแดง จึงเชื่อว่ารัฐธรรมนูญฉบับนี้ไม่ใช่ฉบับปราบโกง แต่อีกมุมหนึ่งเป็นการเปิดให้ใช้กฎหมายกันแกล้งทางการเมือง และยังถูกใช้เป็นเครื่องมือสำหรับปราบนักการเมืองที่ไม่ยอมจำนน หรือสยบยอมอยู่ภายใต้กฎหมายนี้ ชี้นี่เป็นปัญหาที่จะต้องเร่งแก้ไขรัฐธรรมนูญฉบับนี้ เพื่อให้ได้รัฐธรรมนูญระบบประชาธิปไตยยึดหลักนิติรัฐและนิติธรรมอย่างแท้จริง
นายอนุสรณ์ แก้ววิเชียร สส.นนทบุรี พรรคก้าวไกล ในฐานะเป็นเพื่อนร่วมอุดมการณ์กับ น.ส.พรรณิการ์ตั้งแต่พรรคอนาคตใหม่ ให้ความเห็นตรงกันว่ามาตรฐานทางจริยธรรม บังคับใช้ย้อนก่อนที่ น.ส.พรรณิการ์จะมาเป็น สส. และเมื่อพ้นจากตำแหน่ง สส. ความผิดกลับติดตามตัวไปด้วย และตั้งประเด็นคำถามถึงศาลฎีกาสำหรับการวางบรรทัดฐานความผิดทางการเมืองประเด็นจริยธรรมเป็นไปอย่างถูกต้องหรือไม่ และมาตรฐานความผิดทางจริยธรรมทับซ้อนกับความผิดทางอาญาหรือไม่ อันอาจส่งผลถึงในอนาคตหากมีผู้ร้องเรียนจำนวนมาก
สส.ศศินันท์ ธรรมนิฐินันท์ หยิบยกเปรียบเทียบว่าคำพิพากษาเป็นการประหารชีวิตทางการเมือง ซึ่งเป็นอัตราโทษค่อนข้างสูง เมื่อเปรียบเทียบกับพฤติกรรมการกระทำความผิด และการลงโทษซ้ำซ้อนขัดกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น
นายปิยรัฐ กล่าวถึงการวิพากษ์วิจารณ์ของนายปิยบุตร แสงกนกกุล แสดงความเห็นต่อพรรคก้าวไกลนั้นถือเป็นคุณูปการกับพรรคการเมือง และพรรคก้าวไกลมีแถลงการณ์ผ่านเพจไปแล้วแต่การแถลงครั้งนี้ไม่ได้แถลงในนามพรรคก้าวไกลแต่เป็นความเห็นส่วนบุคคล และมองเป็นหน้าที่ของ สส. ที่จะตั้งคำถามต่อสังคมขณะเดียวกันภายในพรรคก้าวไกลก็มีการหารือกันในเรื่องนี้ แต่อาจไม่สามารถแอ็คชันได้ในทันที
ทั้งนี้พรรคก้าวไกลยังมีการเตรียมการแก้ไขรัฐธรรมนูญ ที่จะกำหนดเนื้อหากฎหมายให้เป็นประชาธิปไตยอย่างแท้จริงเพื่อไม่ให้ถูกใช้เป็นเครื่องมือทางการเมือง
ข่าวที่เกี่ยวข้อง :
“ปิยบุตร” อัด “ก้าวไกล” ไร้น้ำใจ ปิดปากเงียบปม “ช่อ พรรณิการ์”
เปิดคำพิพากษาศาลฎีกา “พรรณิการ์” ตัดสิทธิการเมืองตลอดชีวิต
ศาลฎีกาชี้ “ช่อ-พรรณิการ์” ผิดจริยธรรมร้ายแรง-ตัดสิทธิการเมืองตลอดชีพ