หน้าแรก Thai PBS จับกระแสการเมือง:21 ก.ย.2566 5 สาวถูกตัดสิทธิ ประหารชีวิตทางการเมือง

จับกระแสการเมือง:21 ก.ย.2566 5 สาวถูกตัดสิทธิ ประหารชีวิตทางการเมือง

39
0
จับกระแสการเมือง:21-กย.2566-5-สาวถูกตัดสิทธิ-ประหารชีวิตทางการเมือง

ขอบคุณสำหรับทุกกำลังใจ และความเป็นห่วงจากทุกๆ ช่องทาง คำพิพากษาศาลในวันนี้ เป็นการตัดสิทธิลงสมัครรับเลือกตั้ง หมายความว่า ลงสมัคร สส. หรือแข่งขันการเลือกตั้งทุกระดับไม่ได้ รับตำแหน่งทางการเมืองไม่ได้ แต่สำหรับงานการเมืองที่ทำอยู่ตอนนี้ ไม่มีใครมาพรากสิทธิไปจากช่อได้ 

โพสต์แรกที่ น.ส.พรรณิการ์ วานิช อดีต สส.บัญชีรายชื่อ และโฆษกพรรคอนาคตใหม่ บอกผ่านโลกออนไลน์ หลังศาลฎีกามีคำพิพากษาตัดสิน ถูกถอนสิทธิรับสมัครเลือกตั้งตลอดไป และไม่มีสิทธิดำรงตำแหน่งทางการเมือง โทษฐานฝ่าฝืนจริยธรรมอย่างร้ายแรง

คำพิพากษาดังกล่าว ทำให้ น.ส.พรรณิการ์ กลายเป็นนักการเมืองคนที่ 5 ต้องโทษด้านจริยธรรม ตามบทบัญญัติรัฐธรรมนูญ 2560 ที่กำหนดโทษสูงสุดตัดสิทธิตลอดชีวิตนี้ จนเรียกว่า ถูกโทษประหารทางการเมือง

ปมเหตุที่ถูกเพิกถอน เนื่องมาจากการร้องของนายศรีสุวรรณ จรรยา ที่ยื่นหนังสือขอให้ ป.ป.ช.ตรวจสอบกรณีที่ พรรณิการ์ โพสต์ภาพ และข้อความจำนวนมากในเฟซบุ๊ก ที่อาจทำให้ประชาชนเข้าใจไปในทางเชื่อมโยงกับสถาบันอย่างมิบังควร ส่อขัดมาตรฐานจริยธรรมอย่างร้ายแรง

โดยที่ น.ส.พรรณิการ์ ได้ถวายสัตย์ปฏิญาณตนรับตำแหน่ง สส.พรรคอนาคตใหม่ ระบุจะปฏิบัติให้เป็นไปตามรัฐธรรมนูญทุกประการ ต่อมาที่ประชุม ป.ป.ช. มีมติชี้มูลผิดจริยธรรมร้ายแรง ส่งผลให้มีการยื่นฟ้องต่อศาลฎีกา

ซึ่งมีคำพิพากษาว่า การกระทำของ น.ส.พรรณิการ์ เป็นการแสดงออกต่อสถาบันที่ไม่เหมาะสม ไม่เคารพต่อหน้าที่ปวงชนชาวไทย ฝ่าฝืนจริยธรรมร้ายแรง จึงเพิกถอนสิทธิสมัครรับเลือกตั้ง และการดำรงตำแหน่งทางการเมืองตลอดชีวิต

ปารีณา-กนกวรรณ-ธนิกานต์-พรรณิการ์ ชะตาเดียวกัน

ก่อนหน้านี้ก็มี น.ส.ปารีณา ไกรคุปต์ คนแรกที่ถูกตัดสิทธิการเมืองตลอดชีวิต กรณีครอบครองที่ดินรัฐโดยมิชอบ จากนั้นมี น.ส.กนกวรรณ วิลาวัลย์ อดีต รมช. ศึกษาธิการ เรื่องการออกโฉนดในที่ดินเขาใหญ่ โดยไม่มีคุณสมบัติตามกฎหมาย และอีก 2 คนจากกรณีการเสียบบัตรแทนกัน คือ น.ส.ธณิกานต์ พรพงษาโรจน์ อดีต สส.พรรคพลังประชารัฐและนางนาที รัชกิจประการ อดีตส.ส.ภูมิใจไทย 

อ่านข่าว เปิดคำพิพากษาศาลฎีกา “พรรณิการ์” ตัดสิทธิการเมืองตลอดชีวิต

ความเคลื่อนไหวที่เกิดขึ้น น.ส.ปารีณา โพสต์ความเห็นเรื่องนี้ บอกว่าหนำใจ แต่ไม่เห็นด้วยกับการตัดสิทธิ เธอเคยโดนตัดสิทธิตลอดชีวิตเช่นกัน และเป็นคนแรกด้วย จึงตั้งคำถามว่าช่อถูกตัดสิทธิตลอดชีวิต ด้วยรัฐธรรมนูญกำหนดให้ศาลฏีกาเป็นผู้กำหนดมาตราฐานจริยธรรม แน่นอนด้วยขนบธรรมเนียม ศาสนา ความคิด หากผู้ใดถูกชี้มูลเรื่องจริยธรรมแล้ว จะไม่มีใครรอดแน่นอน

คำถามคือ ทำไมปารีณา จึงเป็นคนแรกที่ถูกตัดสินจริยธรรม ทำไมเป็นช่อ หรือว่าปารีณากับช่อ เป็นเพียงตัวสร้างความชอบธรรมให้นำกฏหมายมาใช้เป็นเครื่องมือหรือไม่ และชี้ว่าอาจถูกนำไปใช้กับธนาธร ได้เช่นกัน แถมยังแซะต่อว่า เทียบระหว่างช่อ กับธรรมนัส ใครมีจริยธรรมมากกว่ากัน

เงียบกริบ-ไร้น้ำใจ

“เงียบกริบ” เงียบจนผมรู้สึกว่า “ไร้น้ำใจ” กับพรรณิการ์ เป็นการตั้งคำถามเหน็บแบบเจ็บแสบ ของ ปิยบุตร แสงกนกกุล เลขาธิการคณะก้าวหน้า โพสต์ตั้งคำถามถึงคนเคยร่วมการเมือง จากพรรคก้าวไกล ที่ไร้วี่แววแสดงความเห็นกับชะตากรรมของ น.ส.พรรณิการ์ 

ถ้าพรรคไม่พร้อม ไม่มีคนโต้ศาลได้ อย่างน้อยแสดงจุดยืนบ้างก็ยังดีในเมื่อพรรคก้าวไกลมีจุดยืนเรื่องทำรัฐธรรมนูญใหม่ เรื่องโต้แย้งความผิดปกติของรัฐธรรมนูญ 2560 แต่พอเกิดเรื่องนี้ ซึ่งเป็นเรื่องใหญ่มาก กลับเงียบกริบ

ทำให้วันนี้ นายปิยรัฐ จงเทพ สส.กทม.พรรคก้าวไกล ต้องออกมาโต้ทันควัน พร้อมตั้งคำถามการตัดสินที่เกิดขึ้นก่อนที่จะเข้ามาดำรงตำแหน่งทางการเมืองตั้งแต่ปี 2553 โดยตั้งคำถามว่ารัฐธรรมนูญฉบับปัจจุบัน จะปราบโกงหรือปราบใคร เพราะถูกใช้ทำนิติสงคราม กลั่นแกล้งทางการเมือง 

เช่นเดียวกับ ศศินันท์ ธรรมนิฐินันท์ หยิบยกเปรียบเทียบว่าคำพิพากษาเป็นการประหารชีวิตทางการเมือง ซึ่งเป็นอัตราโทษค่อนข้างสูง เมื่อเปรียบเทียบกับพฤติกรรมการกระทำความผิด และการลงโทษซ้ำซ้อนขัดกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น

อ่านข่าว “ปิยบุตร” อัด “ก้าวไกล” ไร้น้ำใจ ปิดปากเงียบปม “ช่อ พรรณิการ์”

คำถามที่เกิดขึ้นในวงกว้าง ทำให้ นายสรวิศ ลิมปรังษี โฆษกศาลยุติธรรม ยืนยันว่า คดีที่กล่าวหากระทำการฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตามมาตรฐานจริยธรรมอย่างร้ายแรงนั้น เมื่อมีการฟ้องคดีต่อศาลฎีกา และศาลฎีกามีคำวินิจฉัยใดแล้ว ผลนั้นถือเป็นอันสิ้นสุดตามกฎหมาย ยื่นอุทธรณ์ไม่ได้

บรรทัดฐานจริยธรรมการเมือง

กระนั้นก็ตาม ในมุมมองของ ยุทธพร อิสรชัย คณะรัฐศาสตร์ ม.สุโขทัยธรรมาธิราช มองว่า ประเด็นจริยธรรมทางการเมือง เป็นเรื่องที่มีข้อถกเถียงกันมายาว นาน และถูกวิจารณ์ว่าเป็นเรื่องการเมืองในเรื่องจริยธรรม ดังนั้นการวางบรรทัด ฐานที่ชัดเจน คำว่าจริยาธรรมกินความแค่ไหน และจำกัดเฉพาะในช่วงการดำรงตำแหน่งทางการเมือง หรือย้อนหลังไปแค่ไหนไม่มีความชัดเจน

ส่วนในอนาคตจะมีผลย้อนหลัง หรือกลายเป็นบรรทัดฐานสำหรับสส.อื่นก่อนเข้าสู่แวดการเมืองหรือไม่ นักวิชาการ เชื่อว่าในอนาคตอาจจะมีการวางแนววินิจฉัยที่เปลี่ยนแปลงได้ เช่นการถือครองหุ้นสื่อ

ดังนั้นก็มีมาตรฐานทางจริยธรรมที่ชัดเจน เพราะตอนนี้กล่าวไว้อย่างกว้างๆ เป็น นามธรรม จึงมีการตีความหลากหลายได้ และบ่อยครั้งก็ถูกตั้งคำถามขึ้นเช่นกรณีน.ส.พรรณิการ์ ที่ถูกตัดสิทธิทางการเมือง แม้ไม่เป็นสส.แล้ว ถ้าจะไปย้อนหลังถึงช่วงที่ยังไม่ได้ดำรงตำแหน่งอาจขัดต่อหลักนิติธรรม

 

อ่านข่าว

ก้าวไกล เชื่อ “ช่อ พรรณิการ์” โดนกลั่นแกล้งคดีตัดสิทธิตลอดชีพ

ศาลฎีกาชี้ “ช่อ-พรรณิการ์” ผิดจริยธรรมร้ายแรง-ตัดสิทธิการเมืองตลอดชีพ

ทิ้งคำตอบไว้

กรุณาใส่ความคิดเห็นของคุณ!
กรุณาใส่ชื่อของคุณที่นี่