เดือดทุกเม็ด เผ็ดทุกดอก ยุทธการเด็ดลูกน้อง “บิ๊กโจ๊ก” พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รอง ผบ.ตร ไม่เพียงส่งผลให้กรมปทุมวัน สั่นไหว แต่ยังทำให้บาดแผลที่ถูกพลาสเตอร์ปิดไว้ ปริแตก แยกออกมาให้เห็นความไม่ชอบมาพากล ของบุคลากรในแวดวงสีกากี บางคน บางกลุ่ม หรืออาจจะหลายกลุ่ม ใช้ช่องว่างทางกฎหมาย กระทำผิดเสียเอง
หลัง “บิ๊กโจ๊ก” พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ ถูกตำรวจชุดปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยีสารสนเทศ (PCT5) นำหมายค้นและหมายจับของศาลอาญากรุงเทพใต้ เข้าไปขอตรวจค้นบ้านพัก 5 หลังเมื่อวันที่ 25 ก.ย.ที่ผ่านมา
แค่ข้ามวัน เช้าวันนี้ (26 ก.ย) “บิ๊กโจ๊ก” พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ เปิดปฏิบัติการเอาคืน ยื่นคำร้องต่อศาลฯ ให้ไต่สวนทีมตรวจค้นบ้าน โดยระบุว่า “ละเมิดอำนาจศาลฯ” ด้วยเหตุผลผู้ที่ไปขอหมาย และออกหมายค้น ปกปิดข้อเท็จจริงต่อศาล เพราะรู้อยู่แล้วว่า เป็นบ้านพักอาศัยของบิ๊กโจ๊ก แม้ชื่อผู้ถือกรรมสิทธิ์ของบ้านจะเป็นคนอื่น แต่ก็เป็นญาติ
…มั่นใจว่า เรื่องที่เกิดขึ้นต้องมีคนสั่งการอย่างแน่นอน แต่จะเป็นคนภายในสำนักงานตำรวจแห่งชาติหรือไม่นั้น ขอตอบสั้นๆ เพียงว่า “เรื่องที่เกิดขึ้นเป็นการเมือง”ภายในสำนักงานตำรวจแห่งชาติ
อ่านข่าว : ค้นบ้านพัก “บิ๊กโจ๊ก” ส่อสะเทือน “เฮียแต๋ม” เศรษฐีขนส่ง เมืองอุดรฯ
สำหรับเจ้าของบ้านที่ “บิ๊กโจ๊ก” พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ ระบุว่า เป็นญาติสนิทและถือกรรมสิทธิ์ และให้พักอาศัยทั้ง 5 นั้น คือ เฮียแต๋ม จำนวนนี้มีชื่อเฮียแต๋มครอบครองบ้าน 3 หลัง ส่วนอีก 2 หลังใช้ชื่อภรรยาครอบครอง
…เฮียแต๋ม เป็นญาติของผม และเป็นเจ้าของบ้านทั้งหมด เฮียแต๋มให้ผมเช่าบ้านอยู่ มีสัญญาเช่าชัดเจน ราคา 50,000 บาท เป็นที่อยู่อาศัย 2 หลัง ส่วนหลังที่เหลือใช้เก็บของ ซึ่งด้วยความที่เป็นญาติกัน ผมจะจ่ายแพงกว่านี้ แต่เฮียแต๋มก็ไม่เอา
…บ้านที่ผมอาศัยอยู่นี้ ได้เคยให้การกับ ป.ป.ช. ไว้นานแล้ว และผมบริสุทธิ์ใจ เฮียแต๋มก็ไม่ใช่คนที่ทำผิดกฎหมาย ผมเป็นคนสงขลา จึงมาหาเช่าบ้านอยู่เพื่อความสะดวก
ข้อมูลของเจ้าหน้าที่ระบุว่า “เฮียแต๋ม” เจ้าของบ้าน 5 หลัง เป็นเจ้าพ่อบริษัทธุรกิจขนส่งและธุรกิจก่อสร้างรายใหญ่ใน จ.อุดรธานี
จากการตรวจสอบประวัติการขอใช้ไฟฟ้าของบ้านทั้ง 5 หลัง พบชื่อ “เฮียแต๋ม” เป็นผู้ขอใช้ไฟฟ้าทั้งหมด และจ่ายส่วนกลางให้ปีละกว่า 142,000 บาท
นอกจากนี้ยังพบข้อมูลในช่วงเดือน ก.ค. 2566 ถึงเดือน มิ.ย. 2567 ว่า “เฮียแต๋ม” เป็นคนโอนเงินเข้ามาจ่ายให้บ้านหลังที่ “บิ๊กโจ๊ก” พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ พักอาศัย มีการจ่ายค่าส่วนกลางเป็นเงินรวม 62,000 บาท ส่วนหลังอื่นหลังละ 26,000–27,000 บาท
อีกด้านหนึ่ง พล.ต.ท.ไตรรงค์ ผิวพรรณ ผบช.กมค. หัวหน้าชุด PCT4 ยืนยันว่า การตรวจค้นเป็นไปตามหลักกฎหมาย ตั้งแต่การขอหมายค้นและหมายจับจากศาล มีการระบุตัวตนของบุคคลตามหมายจับ และอาชีพ ที่ไม่ได้มีการปิดบังว่าเป็นตำรวจในการแถลงต่อศาล
นอกจากนี้กฎหมายก็ไม่ได้กำหนดไว้ว่าจะต้องระบุยศ สามารถใช้คำนำหน้านายได้ และมีหลายครั้งที่การออกหมายจับตำรวจบางคดี ต้องให้เกียรติกัน จึงปกปิดยศทางราชการและตำรวจทั้ง 8 นายยังคงให้การปฏิเสธ และไม่ขอให้การในชั้นพนักงานสอบสวน
ส่วนเรื่องเฮียแต๋ม เจ้าของบ้านที่ “บิ๊กโจ๊ก” พล.ต.อ สุรเชษฐ์ พักอาศัยนั้น พล.ต.ท.ไตรรงค์ บอกว่า …เมื่อวานนี้ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ ให้สัมภาษณ์ว่าเป็นบ้านญาติ ไม่ได้มีการเช่า
หลังจากนี้ก็จะต้องตรวจสอบว่า เฮียแต๋มมีความสัมพันธ์เครือญาติด้านไหนกับ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หากมีการเช่าจริงก็ต้องมีสัญญาตามกฎหมาย และจะต้องเรียกเฮียแต๋มมาให้ปากคำเร็วๆ นี้ด้วย
แม้ขณะนี้ เฮียแต๋ม จะยังไม่ปรากฏตัวชี้แจงเรื่องใดๆ แต่ “นายกฯนิด” เศรษฐา ทวีสิน ทำงานรวดเร็วปานกามนิตหนุ่ม จรดปากกาเซ็นคำสั่งตั้งคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงฯ กรณีตำรวจเข้าค้นบ้าน “บิ๊กโจ๊ก” พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ โดยมี “ปลัดฉิ่ง” ฉัตรชัย พรหมเลิศ อดีตปลัดกระทรวงมหาดไทย ในฐานะ ก.ตร.ผู้ทรงคุณวุฒิ เป็นประธานคณะกรรมการฯ “ชาติพงษ์ จีระพันธุ” อดีตรองอัยการสูงสุด เป็นกรรมการและมีพล.ต.อ.วินัย ทองสอง อดีตรองผู้บัญชาการตำรวจเเห่งชาติ กรรมการเเละเลขานุการ ตรวจสอบและให้รายงานผล 30 วัน
ส่วนตำรวจ 8 นายลูกน้อง “บิ๊กโจ๊ก” พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ ที่เป็นผู้ต้องหาโยงคดีเว็บพนันออนไลน์ เครือข่าย “มินนี่” สุชานันท์ หรือ “ธนัยนันท์” ซึ่งถูกแจ้งข้อกล่าวหาแตกต่างกันไป ตั้งแต่คดีร่วมพนันออนไลน์ และฟอกเงิน ,ร่วมกันฟอกเงิน
ประกอบด้วย พล.ต.ต.นำเกียรติ ธีระโรจนพงษ์, พ.ต.อ.เขมรินทร์ พิศมัย , พ.ต.อ.ภาคภูมิ พิศมัย , พ.ต.ท.คริษฐ์ ปริยะเกตุ , พ.ต.อ.อาริศ คูประสิทธิ์รัตน์ , พ.ต.ต.ชานนท์ อ่วมทร , ส.ต.อ.ณัฐวุฒิ หวัดแวว และ ส.ต.อ.อภิสิทธิ์ คนยงค์
โดยชั้นสอบสวนผู้ต้องหาทั้งหมดให้การปฏิเสธตลอดข้อกล่าวหา
อ่านข่าว :
เปิดเบื้องหลัง “สัมพันธ์ลึก” กลุ่มพนันออนไลน์กับนายตำรวจใหญ่
เปิดผังเส้นทางการเงิน สัมพันธ์ลึก “พนันออนไลน์-นายตำรวจ”
ล่าสุด ศาลอาญากรุงเทพใต้ ได้ให้ประกันตัว พ.ต.อ.เขมรินทร์ พิศมัย ผกก.ตม.จว.จันทบุรี และ พ.ต.อ.อาริศ คูประสิทธิ์รัตน์ ผกก.ตม.จว.ฉะเชิงเทรา ผู้ต้องหาคดีร่วมกันฟอกเงิน และสมคบกันฟอกเงินฯ หลักประกันเงินสด 100,000 บาท ส่วนผู้ต้องหาที่เหลือ เตรียมส่งฝากขังที่ศาลอาญากรุงเทพใต้ ในวันนี้ (26 ก.ย)
และในวันพรุ่งนี้ (27 ก.ย.) ตามกำหนดการเดิมจะมีการแต่งตั้ง ผบ.ตร. คนที่ 14 ต้องจับตาดูว่า ยุทธการเด็ดปีกลูกน้อง “บิ๊กโจ๊ก” พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ จะมีผลอะไรตามมาหรือไม่ รอลุ้นไปด้วยกัน
ข่าวที่เกี่ยวข้อง :
ผบก.PCT จ่อเรียกสอบ “เฮียแต๋ม” เหตุค้นบ้านบิ๊กโจ๊ก
ชิง ผบ.ตร.คนใหม่ระอุ ค้นบ้าน “บิ๊กโจ๊ก” มีปมเงื่อน
เปิดชื่อ คกก.สอบปม “ค้นบ้านบิ๊กโจ๊ก” รายงานนายกฯ ใน 30 วัน
