ในที่สุด “บิ๊กต่อ” พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุขวิมล รอง ผบ.ตร. ก็คว้าชัย ผงาดขึ้นเป็นเบอร์หนึ่งของกรมปทุมวัน ได้รับรหัสเรียกขาน“พิทักษ์ 1” ครองตำแหน่ง ผบ.ตร.คนที่ 14 ท่ามกลางประเด็นเดือด การเมืองภายในยุทธจักรองค์กรสีกากี
พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ เกิดเมื่อปี 2507 ที่ อ.หนองหญ้าปล้อง จ.เพชรบุรี เป็นบุตรคนสุดท้องในบรรดาพี่น้อง 5 คน ของนายนิพนธ์ และนางสมนึก สุขวิมล และเป็นน้องชายของ พล.ต.อ.สถิตย์พงษ์ สุขวิมล ราชเลขานุการในพระองค์ และเลขาธิการพระราชวัง
จบการศึกษาระดับชั้นมัธยมศึกษาโรงเรียนโยธินบูรณะ ปริญญาตรีคณะรัฐศาสตร์มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ “สิงห์แดง” รุ่น 38 และจบปริญญาโท ศิลปศาสตรมหาบัณฑิต จากมหาวิทยาลัยศรีปทุม
ก่อนจะเปลี่ยนเส้นทางชีวิตเป็นผู้พิทักษ์สันติราษฎร์ พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ เคยเป็นพนักงานบริษัทน้ำมัน และวิ่งตามความฝันในวัยเยาว์ โดยเข้าหลักสูตรการฝึกอบรมผู้มีวุฒิ ทางด้านนิติศาสตร์ รัฐศาสตร์รัฐประศาสนศาสตร์ เพื่อบรรจุแต่งตั้งเป็นข้าราชการตำรวจชั้นสัญญาบัตร หรือ กอต. รุ่นที่ 4
ในปี 2540 ดำรงตำแหน่งรองสารวัตร แผนก 3 กองกำกับการ 2 กองบังคับการปราบปราม จากนั้นเติบโตก้าวหน้าในหน้าที่มาอย่างต่อเนื่อง และเป็นผู้บังคับการคนแรก ของกองบังคับการถวายความปลอดภัยและปฏิบัติการพิเศษ เป็นรองผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง และขยับขึ้นเป็นผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง, ผู้ช่วยผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ และรองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ตามลำดับ โดยรับผิดชอบงานปราบปราม
พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผบ.ตร.คนปัจจุบัน มอบหมายให้ดูแลศูนย์อาชญากรรมพิเศษหลายส่วน ให้เป็นหัวหน้าศูนย์ปราบปรามการละเมิดทรัพย์สินทางปัญญา (ศปลป.ตร.), ศูนย์บริหารงานป้องกันปราบปราม (ศปป.ตร.), ศูนย์ปราบปรามการลักลอบตัดไม้ทำลายป่า ทรัพยากรธรรมชาติ (ศปทส.ตร.), ศูนย์ปราบปรามการโจรกรรมรถยนต์ (ศปจร.ตร.), ศูนย์ป้องกันและปราบปรามการแข่งรถในทาง (ศปข.ตร.)
พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ เป็นหนึ่งในผู้ที่ปกครองผู้ใต้บังคับบัญชา โดยเน้นพัฒนาศักยภาพหน่วยและใส่ใจสวัสดิการชีวิตของผู้ใต้บังคับบัญชา ในสมัยที่นั่งผู้กำกับการ “คอมมานโด” และให้ความสำคัญจัดฝึกอบรมหลักสูตรต่าง ๆ เพื่อให้ความรู้และพัฒนาเพิ่มขีดความสามารถให้ตำรวจสายปราบปราม–หน่วยปฎิบัติการพิเศษ ในการเข้าระงับเหตุการณ์ต่าง ๆ อาทิ หลักสูตร “แอคทีฟ ชูตเตอร์”, โครงการฝึกอบรมพัฒนาศักยภาพการใช้อาวุธปืน สำหรับข้าราชการตำรวจ ทำหน้าที่ครูฝึกต้นแบบ (Training For Trainer)
นอกจากนี้ ยังเป็นผู้จุดประกายนำปืน “ช็อตไฟฟ้า” ลดความสูญเสียของผู้ปฏิบัติ กระทั่งการได้รับมอบหมายให้เป็นหัวหน้าคณะทำงานแก้ไขเรื่องอาวุธปืนหลวง ปัดฝุ่นระเบียบปืนสวัสดิการ นำ QR Code มาใช้ตรวจสอบและติดตามแก้ปัญหาลอบนำปืนหลวงออกไปขาย
พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ ยังมุ่งเน้นการทำบุญ บริจาคและกิจกรรมสร้างขวัญกำลังใจให้ผู้ใต้บังคับบัญชาอยู่เสมอ จนเกิดการเรียกขานกันว่า “โรโบคอปสายบุญ” บ้างก็เรียก “มือปราบสายธรรมะ”
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง
“พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุขวิมล” ผงาด ผบ.ตร.คนที่ 14
จับกระแสการเมือง : วันที่ 27 ก.ย.66 “บิ๊กต่อ” นั่ง “ผบ.ตร.” คนที่ 14 (ไม่) จบศึกสีกากี