‘มนพร‘ โต้กลุ่มคนเห็นต่าง ค้านอนุมัติเงินดิจิทัลวอลเล็ต ยันคนส่วนใหญ่ต้องการรับสิทธิ เป็นการกระตุ้นเศรษฐกิจชุมชน รัฐบาลไม่ใช้เงินกู้ แต่จัดสรรรีดไขมันจากงบประมาณในส่วนโครงการไม่จำเป็นมาสนับสนุน ส่วนลูกหลานเยาวชน สามารถนำเป็นทุนการศึกษา หากคนรวยไม่ขอใช้สิทธิ์ สุดท้ายเงินไม่สูญหายคืนรัฐบาล แต่ต้องอนุมัติแบบเท่าเทียมกัน ทั้งประเทศ
วันที่ 10 ต.ค. 2566 มนพร เจริญศรี รมช.คมนาคม ส.ส.เขต 2 นครพนม พรรคเพื่อไทยเปิดเผยว่า ในเรื่องของเงินดิจิทัลวอลเล็ตเราต้องยอมรับว่า เงินดิจิทัลวอลเล็ต 10,000 บาท ที่จะมอบให้พี่น้องประชาชนคนไทย อายุตั้งแต่ 16 ปีขึ้นไป คือพันธะสัญญา ในการหาเสียงเลือกตั้งของพรรคเพื่อไทยที่ให้สัญญาไว้กับพี่น้องประชาชน เมื่อเป็นรัฐบาลต้องทำตามพันธสัญญา สำหรับการใช้เงินดิจิทัลวอลเล็ต ในรอบปีงบประมาณ 2567 ไม่ได้เป็นการกู้เงิน รัฐบาลจะใช้เงินส่วนหนึ่งของงบประมาณปี 2567 เสมือนการรีดไขมันในโครงการสำคัญบางโครงการที่ยังไม่มียอดเบิกจ่าย หรือไม่มีความสำคัญ หรือเป็นโครงการที่ไม่เกิดประโยชน์ต่อการพัฒนาประเทศ จึงตัดงบประมาณเหล่านั้นมาเป็นเงินดิจิทัลวอลเล็ต
มนพร ระบุว่า เชื่อมั่นว่าพี่น้องประชาชนมีความต้องการอยากได้เงินส่วนนี้ เป็นการระตุ้นเศรษฐกิจระดับ ต้นน้ำ กลางน้ำ ปลายน้ำ รวมถึง ผู้ซื้อ ผู้ขาย ผู้บริโภคจะได้ใช้เงินส่วนนี้ จากข้อมูลส่วนใหญ่ทราบว่าลูกหลานเยาวชนบางส่วนที่ไม่มีเงินทุนการศึกษาจะได้นำเงินไปใช้ประโยชน์ในการซื้ออุปกรณ์การศึกษา คอมพิวเตอร์ได้ เอาไว้เรียนออนไลน์ หรือสิ่งจำเป็นในการเรียนรู้ไปจนถึงพี่น้องประชาชนต้องการเอาเงินส่วนนี้สิ่งสิ่งของในร้านค้าชุมชน อาจจะแตกต่างจากคนที่มีฐานะร่ำรวย หรือคนที่มีเงินเดือน แต่สำหรับคนจนถือจำเป็น แต่ทางรัฐบาลไม่ได้จำกัดต้องได้รับการเท่าเทียมตามสิทธิ
มนพร ระบุอีกว่า นอกจากนี้สำหรับคนมีความเห็นต่าง ว่าเงินดิจิทัลวอลเล็ตไม่มีความจำเป็น หรือคนที่มีฐานะร่ำรวยไม่อยากใช้เงินดิจิทัลวอลเล็ตเงินส่วนนี้จะกลับคืนรัฐบาล สามารถใช้สิทธิหรือไม่ใช้สิทธิ ขึ้นกับความต้องการของแต่ละคน แต่รัฐบาลต้องบริหารจัดการแบบเท่าเทียมกันให้กับทุกคนที่มีสิทธิ ส่วนคนที่ไม่ใช้สิทธิเงินที่อยู่ในระบบคืนรัฐบาลไม่ได้ออกมาเป็นรูปแบบเงินสดที่สูญหายไป