เครื่องบินลำแรกที่บรรทุกกระสุนของสหรัฐฯ สำหรับใช้ในการโจมตีฉนวนกาซาของอิสราเอล ได้ลงจอดในสนามบินของอิสราเอลแล้ว ในขณะที่กองทหารอิสราเอล 300,000 นายได้ระดมพล เพื่อเตรียมโจมตีภาคพื้นดินในเขตวงล้อมฉนวนกาซาที่ถูกปิดล้อมโดยอิสราเอล
การประกาศเมื่อวันพุธ (11 ต.ค.) มีขึ้นหลังจากที่สหรัฐฯ ระบุว่า พวกเขาจะส่งอุปกรณ์ป้องกันภัยทางอากาศ อาวุธยุทโธปกรณ์ และความช่วยเหลือด้านความปลอดภัยอื่นๆ ให้กับพันธมิตรของตนอย่างอิสราเอล เพื่อต่อสู้กับกลุ่มฮามาส
นอกเหนือจากกระสุนแล้ว มีการคาดการณ์ว่าสหรัฐฯ จะจัดหาระบบสกัดกั้นการโจมตีเพิ่มเติมให้กับอิสราเอล เพื่อเสริมระบบป้องกันอากาศไอรอนโดมของอิสราเอล ทั้งนี้ เมื่อไม่กี่วันที่ผ่านมา จรวดจำนวนมากจากฉนวนกาซาได้ถูกยิงเข้าโจมตีเป้าหมายหลายแห่งในอิสราเอล ในขณะที่อิสราเอลประกาศว่า พวกเขาสามารถยิงสกัดกั้นจรวดจากกลุ่มฮามาสได้จำนวนมาก ด้วยระบบป้องกันทางอากาศไอรอนโดมดังกล่าว
ตลอดเวลาที่ผ่านมา อิสราเอลเป็นผู้รับความช่วยเหลือทางทหารรายใหญ่ของสหรัฐฯ ในระยะยาว และได้รับการสนับสนุนทางการเงินจากสหรัฐฯ อย่างต่อเนื่อง โดยเมื่อปี 2559 รัฐบาลสหรัฐฯ ทำข้อตกลงที่จะให้ความช่วยเหลือทางทหารแก่อิสราเอลมูลค่า 38,000 ล้านเหรียญสหรัฐฯ (ประมาณ 1.38 ล้านล้านบาท) ตลอดระยะเวลา 10 ปี ซึ่งถือเป็นชุดความช่วยเหลือทางทหารที่ใหญ่ที่สุด เท่าที่สหรัฐฯ เคยมีมาที่มอบให้แก่ประเทศๆ เดียว
ในช่วงปัจจุบันของความขัดแย้งอิสราเอล-ปาเลสไตน์ อิสราเอลมีความต้องการอาวุธขนาดเล็กสำหรับทหารราบ และหน่วยสกัดกั้นการป้องกันทางอากาศ เพื่อปกป้องโครงสร้างพื้นฐานพลเรือน และศูนย์บัญชาการและศูนย์ควบคุมทางทหาร
ไม่กี่ชั่วโมงก่อนการประกาศความช่วยเหลือทางทหารของสหรัฐฯ ต่ออิสราเอลครั้งล่าสุด โจ ไบเดน ประธานาธิบดีสหรัฐฯ กล่าวย้ำถึงการสนับสนุนอิสราเอลของสหรัฐฯ โดยประธานาธิบดีสหรัฐฯ กล่าวถึงการโจมตีของกลุ่มฮามาสเมื่อวันเสาร์ (7 ต.ค.) ว่าเป็น “การกระทำที่ชั่วร้ายอย่างยิ่ง” นอกจากนี้ ไบเดนยังกล่าวเตือนผู้ที่อาจพยายามหาประโยชน์จากสถานการณ์นี้ ให้อยู่ห่างๆ จากความขัดแย้งเอาไว้ โดยประธานาธิบดีสหรัฐฯ กล่าวว่า กองกำลังสหรัฐฯ ได้ “ปรับปรุงกระบวนท่ากำลังทหารของเราในภูมิภาค เพื่อเสริมสร้างการป้องปรามของเรา”
ก่อนหน้านี้ ไบเดนได้สั่งให้กองทัพสหรัฐฯ ส่งเรือยูเอสเอส เจอรัลด์ ฟอร์ด ซึ่งเป็นเรือบรรทุกเครื่องบินที่ใหญ่ที่สุดในโลก ให้แล่นเข้าไปใกล้กับอิสราเอล ประธานาธิบดีสหรัฐฯ ยังได้ส่ง แอนโทนี บลิงเคน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐฯ ให้เดินทางไปเยือนอิสราเอล เพื่อเป็นการส่ง “ข้อความแห่งความเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกันและการสนับสนุน” แมทธิว มิลเลอร์ โฆษกกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐฯ กล่าว
เจค ซัลลิแวน ที่ปรึกษาด้านความมั่นคงแห่งชาติของสหรัฐฯ กล่าวว่า สหรัฐฯ กำลังพูดคุยกับอิสราเอลและอียิปต์ เกี่ยวกับแนวคิดในการสร้างเส้นทางที่ปลอดภัย สำหรับพลเรือนนอกฉนวนกาซา รวมถึงชาวสหรัฐฯ เชื้อสายปาเลสไตน์
สำนักข่าว Reuters รายงานว่า การแสดงการสนับสนุนอิสราเอลของสหรัฐฯ เกิดขึ้นในขณะที่ ยูอาฟ กัลลันต์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมอิสราเอล ให้คำมั่นที่จะยกระดับการทำสงครามกับกลุ่มฮามาส ด้วยการรุกภาคพื้นดิน “เราเริ่มการโจมตีจากทางอากาศ หลังจากนั้นเราก็จะมาจากภาคพื้นดินด้วย” กัลลันต์บอกกับกองทหารอิสราเอลใกล้กับรั้วบริเวณฉนวนกาซา “เราได้ควบคุมพื้นที่ตั้งแต่วันที่ 2 และเรากำลังรุก มันจะเข้มข้นขึ้นเท่านั้น… กลุ่มฮามาสต้องการการเปลี่ยนแปลง และพวกเขาจะได้รับมัน” กัลลันต์กล่าวเสริม “สิ่งที่เป็นอยู่ในฉนวนกาซาจะไม่มีอีกต่อไป”
โจนาธาน คอนริคัส โฆษกกองทัพอิสราเอล กล่าวในโพสต์โซเชียลมีเดียว่า ทหารหลายแสนนายกำลังรวมตัวกันใกล้ฉนวนกาซา เพื่อทำสงครามกับกลุ่มฮามาส
“สิ่งที่เรากำลังทำในพื้นที่เหล่านี้ใกล้กับฉนวนกาซา ก็คือเราได้จัดกำลัง… ทหารราบ ทหารติดอาวุธ กองทหารปืนใหญ่ของเรา และทหารอื่นๆ อีกมากมายจากกองหนุน จำนวน 300,000 นาย ในกองพลและกองกำลังต่างๆ และตอนนี้พวกเขาได้อยู่ใกล้กับฉนวนกาซา เตรียมปฏิบัติภารกิจ… ที่เราได้รับคำสั่งจากรัฐบาลอิสราเอล” คอนริคัสกล่าวในวิดีโอที่โพสต์บนแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดีย X
“และนั่นเป็นไปเพื่อการทำให้แน่ใจว่า เมื่อสิ้นสุดสงครามนี้ กลุ่มฮามาสจะไม่มีความสามารถทางการทหารใดๆ ที่จะใช้คุกคามหรือสังหารพลเรือนอิสราเอลได้” คอนริคัสกล่าว
ที่มา: