หน้าแรก Voice TV 'พีระพันธ์' ตั้งเป้าลดราคาเบนซิน 2.50 บาทต่อลิตร เป็นของขวัญปีใหม่

'พีระพันธ์' ตั้งเป้าลดราคาเบนซิน 2.50 บาทต่อลิตร เป็นของขวัญปีใหม่

80
0
'พีระพันธ์'-ตั้งเป้าลดราคาเบนซิน-2.50-บาทต่อลิตร-เป็นของขวัญปีใหม่

‘พีระพันธ์’ ลั่นจะทำให้ได้ตามที่พูด ปมลดราคาเบนซิน 2.50 บาทต่อลิตร แต่ยังติดในข้อกฎหมาย ย้ำ พลังงานไม่ใช่ธุรกิจ มอง ปม ‘OCA’ ไม่มีวันเจรจาสำเร็จ หากยังใช้วิธีเดิมๆ

เมื่อเวลา 14.00 น. วันที่ 17 ต.ค. 2566 ที่ทำเนียบรัฐบาล พีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน ให้สัมภาษณ์ภายหลังการประชุมร่วมกับสภาองค์กรของผู้บริโภค และเครือข่ายขับเคลื่อนค่าไฟฟ้าที่เป็นธรรม ในการหารือเพื่อสนับสนุนให้เกิดนโยบายพลังงานที่นำไปสู่ค่าไฟฟ้าที่เป็นธรรม และสร้างความยั่งยืน ถึงความเป็นไปได้ในการตอบรับข้อเสนอตามนโยบายที่ได้วางเอาไว้แล้ว ว่า ได้มีการแลกเปลี่ยนกัน และได้รับข้อมูลที่ตรงกับที่ตนทราบอยู่แล้ว ซึ่งตนก็มีการอัพเดตความคืบหน้าในสิ่งที่ตนได้ทำอะไรไปบ้างแล้ว 

เมื่อถามถึงการยกเลิกราคาหน้าโรงกลั่น พีระพันธุ์ กล่าวว่า อย่าเพิ่งไปบอกว่า ยกเลิก หรือไม่ยกเลิก ตนคิดว่ารูปแบบโครงสร้างราคาน้ำมันเชื้อเพลิงที่ใช้อยู่ทุกวันนี้ จะต้องมีการศึกษาความเหมาะสม และความเป็นไปได้ตามสถานการณ์และข้อเท็จจริงในปัจจุบัน หากตรงไหนไม่ถูกต้องก็ต้องปรับเปลี่ยน ต้องดูในภาพรวม ไม่ใช่ดูเฉพาะค่าการกลั่น หรือค่าการตลาด เนื่องจากตารางโครงสร้างประกอบด้วยหลายส่วน ยืนยันว่าในการหารือไม่มีการพูดคุยในเรื่องการยกเลิกราคาหน้าโรงกลั่น ทั้งหมดอยู่ที่เหตุผล ต้องดูว่าอะไรทำได้ ทำไม่ได้ อะไรคือความเหมาะสม 

“ผมพูดเสมอว่า พลังงานไม่ใช่เรื่องธุรกิจ พลังงานคือเรื่องความมั่นคงของประเทศ เป็นความมั่นคงทางเศรษฐกิจ ความมั่นคงของการดำรงชีวิตคน แต่ก็ห้ามไม่ได้ หากผู้ประกอบการ นักลงทุน เข้ามาค้าขาย ทำธุรกิจ เกี่ยวกับพลังงาน น้ำมัน เพราะฉะนั้น เรามีหน้าที่ทำให้อยู่ในความเหมาะสมพอดี ไม่ใช่ให้ผู้ประกอบการได้กำไรมหาศาล แล้วชาวบ้านอยู่ไม่ได้” พีระพันธุ์ กล่าว

ขณะเดียวกัน ชาวบ้านก็ต้องชำระค่าใช้จ่ายพลังงาน ในราคาที่เหมาะสมและเป็นธรรม ตรงนี้เป็นปัญหาที่หมักหมมมานาน โครงสร้าง กฎหมาย ระเบียบกติกาต่างๆ ที่ใช้กันอยู่ ใช้มากว่า 30 ปี ถึงเวลาที่ต้องศึกษาปรับปรุงแก้ไข หากไม่มีการแก้ไข หลายเรื่องที่ได้มีการพูดคุย จะไม่สามารถเป็นไปได้เลย

ซึ่งขณะนี้ตนได้ตั้งคณะกรรมการขึ้นมาอีกหนึ่งชุดเพื่อดูแลในเรื่องนี้แล้ว กฎหมายใดที่รวมกันได้ก็รวม กฎหมายใดที่ไม่มีความจำเป็นก็ยกเลิก และที่ผ่านมาตนได้มีการขอข้อมูลจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องมาโดยตลอด แต่ก็ต้องยอมรับว่ากฎหมายของเราไปไม่ถึง จึงต้องมีการแก้ไขให้เราสามารถเป็นผู้กำหนดกติกาได้อย่างแท้จริง ไม่มีประเทศไหนที่รัฐไม่สามารถกำกับกติกาได้

เมื่อถามอีกว่า การแก้ไขกฎหมายจะใช้เวลานานหรือไม่ พีระพันธุ์ กล่าวว่า “ไม่ช้าหรอกครับ อะไรที่อยู่ในมือผมไม่ช้า ให้ได้คำตอบชัดเจนก่อนว่าต้องแก้อะไรบ้าง เพราะคนร่างกฎหมายคือผม ผมไม่ได้ให้ใครร่าง ผมจะเป็นคนร่างเองทุกฉบับ ไม่ทันปีใหม่หรอกครับ ปีใหม่ก็เอาอย่างอื่น”

เมื่อถามว่า มีการหารือในเรื่องราคาที่เหมาะสมหรือไม่ พีระพันธุ์ กล่าวย้ำว่า ยังไม่มีการพูดถึงเรื่องราคาที่เหมาะสม เราพูดไม่ได้ เพราะราคาเป็นตัวเลขที่ละเอียดอ่อน มีปัจจัยหลายอย่าง แต่มีการพูดคุยกันว่า หลักการควรจะเป็นแบบใด 

สำหรับกรณีที่คณะรัฐมนตรี (ครม.) มีข้อเสนอเพิ่มเติมในส่วนมาตรการการลดราคาน้ำมันเบนซินที่กระทรวงพลังงานได้เสนอไปนั้น นายพีระพันธุ์ กล่าวยืนยันว่า จะทำให้ได้ตามที่พูด แต่ในการพิจารณาไม่ได้อยู่ที่กระทรวงพลังงานกระทรวงเดียว เป็นนโยบายของรัฐบาลและนายกรัฐมนตรีด้วย ซึ่งมีความเกี่ยวโยงกัน ตนจึงยังไม่อยากพูด 

“จะพยายามทำให้ได้ไม่น้อยกว่าน้ำมันดีเซล แต่หากจำเป็นหรือไม่ถึง ก็ต้องขอโทษ จะพยายามทำให้ได้ตัวเลขเดิม 2.50 บาทต่อลิตร จะทำให้เสร็จก่อนปีใหม่ จะพยายามทำให้ของขวัญ” พีระพันธุ์ กล่าว

พีระพันธุ์ กล่าวอีกว่า ไม่ใช่การลดราคาน้ำมันเบนซินทุกชนิด แต่จะเลือกตัวที่ต่ำที่สุดสำหรับผู้บริโภคที่เป็นประชาชนทั่วไป โดยจะเน้นไปที่น้ำมันเบนซิน 91 

เมื่อถามว่า มีความข้อกังวลถึงสถานการณ์สงครามที่อาจจะกระทบต่อราคาน้ำมันหรือไม่ มีการเตรียมแผนรองรับไว้อย่างไร พีระพันธุ์ กล่าวว่า ตนและปลัดกระทรวงได้มีการติดตามเรื่องนี้อย่างใกล้ชิด ไม่ต้องกังวลว่าเราจะไม่ให้ความสำคัญในเรื่องนี้ เท่าที่ตรวจสอบน้ำมันที่ต้องใช้ในการดูแลประชาชนยังอยู่ในภาวะที่ยังไม่น่าเป็นห่วง แต่หากสถานการณ์รุนแรง ยืดเยื้อยาวนาน เราคงต้องมาว่ากันอีกที ตนคิดว่าพี่น้องประชาชนควรระมัดระวังและประหยัดไว้ก่อน

เมื่อถามถึงการแก้ไขปัญหาในกรณีพื้นที่ทับซ้อนทางทะเล ระหว่างไทยและกัมพูชา (Overlapping Claims Area-OCA) พีระพันธุ์ กล่าวว่า “ผมพูดตรงๆ ไม่มีทางเจรจาสำเร็จหรอก เพราะเมื่อไหร่ที่คุณเอาเรื่องเส้นเขตแดนมาเกี่ยวข้องกับการเจรจา ก็ไม่มีวันเจราจาได้ หากเราต้องการให้การเจรจาสำเร็จและยุติได้จริง ต้องแยกเรื่องเขตแดนและพลังงานออกจากกัน ซึ่งผมได้มอบแนวทางให้ผู้เกี่ยวข้องไปดำเนินการแล้ว อยู่ที่ว่า เจตนาเราตั้งใจให้จบไหม ถ้าตั้งใจให้ได้ภาพที่นั่งคุยกันเรื่อยๆ ก็ทำแบบเดิมไปเถอะ”

ย้ำกระทรวงพลังงานอยู่ในขั้นตอนพิจารณา

อัครเดช วงษ์พิทักษ์โรจน์ สส.ราชบุรี โฆษกพรรครวมไทยสร้างชาติ (รทสช.) ให้สัมภาษณ์ภายหลังการประชุมพรรคว่า นายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค รองนายกรัฐมนตรีและรมว.พลังงาน ในฐานะหัวหน้าพรรครวมไทยสร้างชาติ ได้ชี้แจงให้ที่ประชุมพรรคให้ทราบถึงการช่วยเหลือประชาชนด้านค่าครองชีพ ลดราคาน้ำมันเบนซินแก๊สโซฮอล์ 91 ทางนายพีระพันธุ์ได้ชี้แจงว่า ได้ให้แนวทางคณะทำงานไปศึกษาเรื่องการลดราคาน้ำมันเบนซิน โดยจะดำเนินการลดน้ำมันเบนซินแก๊สโซฮอล์ 91 เพราะเป็นเบนซินหมวดที่ประชาชนผู้มีรายได้น้อยใช้กันจำนวนมาก

ทั้งนี้ เป้าหมายในการลดราคาได้มอบหมายให้คณะทำงานซึ่งมีเจ้าหน้าที่ของกระทรวงพลังงานอยู่ด้วยไปพิจารณาว่า จะลดจำนวนเท่าไหร่ โดยมีเป้าหมายว่าจะลดถ้วนหน้า โดยไม่จำกัดกลุ่มเป้าหมาย โดยมีเป้าหมายที่ 2.50 บาท ส่วนจะลดได้ 2.50 บาทหรือไม่ให้เวลาคณะทำงาน 2 สัปดาห์ไปพิจารณาแล้วนำกลับมาเสนอรมว.พลังงาน

โฆษกพรรครวมไทยสร้างชาติ กล่าวว่า สิ่งที่นายพีระพันธุ์ชี้แจงคือการรถน้ำมันเบนซินแก๊สโซฮอล์ 91 แบบทั่วหน้าไม่จำกัดกลุ่มเป้าหมาย โดยจะทำให้ทันก่อนปีใหม่ เพื่อเป็นของขวัญปีใหม่ให้กับประชาชนทั่วประเทศ ดังนั้นภายใน 2 สัปดาห์นี้จะได้ข้อสรุปแน่นอนว่าจะลดเท่าไหร่ และลดได้เมื่อใด ส่วนการลดราคาให้น้ำมันกลุ่มอาชีพเฉพาะกลุ่ม เช่นเดียวกับกลุ่มน้ำมันเขียวที่ช่วยชาวประมงจะเป็นนโยบายต่อไปที่ทางรมว.พลังงานจะทำให้ในโอกาสต่อไป เพราะถือเป็นนโยบายของพรรครวมไทยสร้างชาติด้วย

ทิ้งคำตอบไว้

กรุณาใส่ความคิดเห็นของคุณ!
กรุณาใส่ชื่อของคุณที่นี่