ดีลใหญ่! “ฉางอาน ออโต้ เซาท์อีส เอเชีย” ลงนามซื้อขายที่ดินในนิคมอุตสาหกรรมWHA อีสเทิร์น ซีบอร์ด 4 จ.ระยอง (อีอีซี) 250 ไร่ สร้างโรงงานผลิตยานยนต์ไฟฟ้า (EV) รองรับการเติบโตในประเทศไทย และเป็นฐานการส่งออก
จรีพร จารุกรสกุล ประธานคณะกรรมการบริหาร และประธานเจ้าหน้าที่บริหารกลุ่ม บมจ.ดับบลิวเอชเอ คอร์ปอเรชั่น (WHA) ลงนามซื้อ-ขายที่ดินจำนวน 250 ไร่ในนิคมอุตสาหกรรมดับบลิวเอชเอ อีสเทิร์น ซีบอร์ด 4 จ.ระยอง ในพื้นที่เขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (อีอีซี) กับบริษัท ฉางอาน ออโต้ เซาท์อีส เอเชีย จำกัด ซึ่งเป็น 1 ใน 4 บริษัทยานยนต์ไฟฟ้า (EV) ชั้นนำของจีน
ถือเป็นดีลขายที่ดินขนาดใหญ่ของ WHA ในปีนี้ และส่งผลให้เป้าหมายการขายที่ดินในนิคมอุตสาหกรรมเป็นไปที่คาดไว้ 2,750 ไร่ และมองว่า เป็นการสนับสนุนให้ไทย กลายเป็นฐานการผลิต EV ที่ปัจจุบันนิคมอุตสาหกรรมของ WHA มีเอกชนจีนรายใหญ่มาตั้งโรงงานผลิตอีวีแล้ว 3 ราย ทั้ง MG, BYD และ GMW (เกรทวอลล์มอเตอร์)
นอกจาก “ฉางอาน ออโต้ เซาท์อีส เอเชีย” จะเข้าซื้อที่ดิน เฟส 1 ในนิคมอุตสาหกรรมดับบลิวเอชเอ อีสเทิร์น ซีบอร์ด 4 แล้ว ในเฟส 2 ที่ “ดับบลิวเอชเอ” จะมีการพัฒนาขยายที่ดินในนิคมอีสเทิร์น ซีบอร์ด 4 อีก 300 ไร่ ซึ่งทาง “ฉางอาน ออโต้ เซาท์อีส เอเชีย” ยังมีความสนใจที่ดินในเฟส 2 ทั้งหมด เพื่อขยายโรงงานเพิ่มเติม
“ขอบคุณนายกรัฐมนตรี และรัฐบาลที่ให้ความสำคัญกับเรื่อง FDI เรื่องดึงดูดการลงทุน ขอบคุณที่ท่านได้เดินทางไป Approach (เข้าถึง) และก็ไปถามว่าพวกท่าน (นักลงทุนต่างประเทศ) ที่ต้องการให้รัฐบาล Support (สนับสนุน) เพื่อที่ให้ท่านมาลงทุน ในประเทศไทยอันนี้เป็นการตอบโจทย์การดึง FDI อย่างแท้จริง”
จรีพร ยังตอบคำถามเกี่ยวกับสงครามว่า ที่มีผลดีต่อ WHA คือ สงครามการค้า ที่จะทำให้เกิดการเคลื่อนย้ายทุน โดยเฉพาะกลุ่มนักลงทุนจีนที่ขยายฐานออกนอกประเทศ เพื่อป้องกันผลกระทบด้านการค้า ทำให้ไทยกลับมาเป็นที่สนใจอีกครั้ง ส่วนสงครามระหว่างอิสราเอล – ปาเลสไตน์ ส่วนตัวเชื่อว่าจะไม่กระทบไทยมาก เนื่องจากตัวเลขการค้ากับไทยไม่ได้สูง ประกอบกับพื้นที่ดังกล่าวไม่ใช่แหล่งพลังงาน
เมื่อถามถึงคำพูดนายกรัฐมนตรีเกี่ยวกับการย้ายฐานการลงทุน ที่ให้น้ำหนักการเจรจาการค้าเสรี (FTA) มากกว่าการขยับค่าแรงเป็นวันละ 400 บาท จรีพร สนับสนุนความเห็นนี้ โดยมองว่า FTA จะเป็นเหมือนสิทธิพิเศษ เพิ่มความน่าสนใจให้กับไทย
“ในนิคมอุตสาหกรรมของเรา ที่เขาจ่ายเงินเดือนกันสูงกว่าค่าแรงขั้นต่ำอยู่แล้ว เพราะเขาต้องการคนที่มี Skill (ทักษะ) แต่ที่จะกระทบจะเป็นกลุ่มที่ใช้แรงงาน เช่น ประมง หรือกลุ่มเอสเอ็มอี…แต่ FTA สำคัญมากค่ะ เพราะมันคือ Privilege (สิทธิพิเศษ) ที่เราส่งออกไปประเทศต่างๆ ได้ ถ้าเราสามารถทำให้เกิด FTA จะดึงการลงทุนได้มากค่ะ” จรีพรกล่าว
ทั้งนี้ จรีพร ย้ำว่า นิคมอุตสาหกรรมของ WHA ในไทย ยังอยู่ระหว่างการเจรจาซื้อขายที่ดิน ทั้งจากกลุ่มอีวี และอิเล็กทรอนิกส์ ทั้งกลุ่มนักลงทุนจีน ยุโรป และสหรัฐอเมริกา
ด้าน เซิน ซิงหัว กรรมการผู้จัดการ บริษัท ฉางอาน ออโต้ เซ้าท์อีส เอเชีย จำกัด บอกว่า การลงทุนในเฟสแรกนี้ ในเงินลงทุน รวม 8,862 ล้านบาท โดยตั้งฐานการผลิตรถยนต์อีวีพวงมาลัยขวา สำหรับจำหน่ายในประเทศไทย
และส่งออกไปยังภูมิภาคอาเซียน ออสเตรเลีย นิวซีแลนด์ อังกฤษ แอฟริกาใต้ ด้วยกำลังการผลิต 1 แสนคันต่อปี รวมทั้งตั้งโรงงานผลิตแบตเตอรี่รถยนต์ไฟฟ้า คาดว่าจะเริ่มผลิตรถยนต์ได้ในปี 2568 รวมทั้งมีแผนจะตั้งศูนย์วิจัยและพัฒนารถยนต์ในไทยในอีก 5 ปีข้างหน้า