วันนี้ (26 ต.ค.2566) นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี และรมว.คลัง เป็นประธานการประชุมเกี่ยวกับกฎหมายสมรสเท่าเทียม กฎหมายรับรองเพศสภาพ การยกเลิกการปราบปรามการค้าประเวณี การเสนอตัวเป็นเจ้าภาพ Bangkok World Pride และส่งเสริมงาน Pride Parade การขยายสิทธิบัตรทองเพื่อคนข้ามเพศ โดยมีปลัดกระทรวงที่เกี่ยวข้อง และผู้แทนหน่วยงาน องค์กรที่เกี่ยวข้องเข้าร่วมประชุม
นายชัย วัชรงค์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เผยภายหลังการประชุม ว่า นายกรัฐมนตรี คาดว่าจะนำเรื่องกฎหมายสมรสเท่าเทียมเข้าที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ในที่ 31 ต.ค.นี้ และจะบรรจุเป็นวาระแรกที่จะเข้าในการเปิดสมัยประชุมสภาฯ ต่อไป ซึ่งจะเริ่มต้นขึ้นประมาณต้นเดือน ธ.ค.นี้
โดยนายกรัฐมนตรีให้ความมั่นใจว่า รัฐบาลพร้อมจะผลักดันสนับสนุนกฎหมายสมรสเท่าเทียม รวมถึงกฎหมายอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง พร้อมจะเป็นคนเจรจากับทุกหน่วยงานเพื่อทลายกำแพงดังกล่าวขอให้ทุกคนอดทนไว้ ต้องการให้วางแผนทำโรดแมปผ่านการพูดคุยหารือจากทุกภาคส่วนในวงกว้าง เพื่อที่รัฐบาลจะได้สนับสนุนอย่างเต็มที่ ไม่ต้องการให้เสียเวลา เมื่อรัฐบาลยื่นต่อสภาฯ พิจารณาต้องการให้ผ่านในรอบเดียว
ชี้เกณฑ์ทหาร-เลิกค้าประเวณีหาข้อสรุป
นายกรัฐมนตรี กล่าวถึงปัญหาที่เป็นกังวลคือเรื่องของความมั่นคง อย่างเช่น เรื่องการเกณฑ์ทหาร ซึ่งส่วนใหญ่ไม่ต้องการจะเข้ารับการเป็นทหาร หากมีการเปลี่ยนแปลงคำนำหน้าจะต้องเข้ารับการตรวจเลือกเป็นทหารเกณฑ์ตามกฎหมาย ตอนนี้รัฐบาลกำลังเปลี่ยนการเกณฑ์ทหารให้เป็นความสมัครใจ
ในส่วนเรื่องการยกเลิกการค้าประเวณี นายกรัฐมนตรีแสดงความห่วงใยต่อสังคม และวัฒนธรรมของไทยที่อยู่รวมกันอย่างหลากหลาย แต่พร้อมหารือกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องให้ได้ข้อสรุปที่เกิดประโยชน์
สำหรับเรื่องการเสนอตัวเป็นเจ้าภาพ Bangkok World Pride และส่งเสริมงาน Pride Parade นายกรัฐมนตรี ยืนยันรัฐบาลพร้อมสนับสนุนอย่างเต็มที่ในทุก ๆ ด้าน รวมถึงเรื่องงบประมาณ เพื่อให้ประเทศไทยเป็นเจ้าภาพจัดงาน Bangkok World Pride 2028 ซึ่งจะเป็นการกระตุ้นเศรษฐกิจ แสดงให้เห็นถึงการยอมรับและเปิดกว้างทางความคิดมากยิ่งขึ้น
ทั้งนี้ นายกรัฐมนตรีได้ขอบคุณทุกภาคส่วนที่ได้ให้ข้อเสนอแนะที่เป็นประโยชน์ ขอให้ทุกคนสบายใจ ยืนยันส่วนตัวผลักดัน สนับสนุน ส่งเสริมอย่างเต็มที่