ล่วงเวลาผ่านมาเกือบ 2 เดือน ที่รัฐบาลนายเศรษฐา ทวีสิน ยังไม่มีรองนายกฯ ด้านความมั่นคง โดยที่ นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รองนายกฯ (สร.2) รับผิดชอบ ศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ (ศอ.บต.) ซึ่งขณะนี้ก็ยังไม่มีเลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) แม้ว่าจะมีกระแสข่าวว่า พล.ต.อ.รอย อิงคไพโรจน์ จะข้ามห้วยมาดำรงตำแหน่ง เลขาธิ สมช.ก็ตาม
แต่ล่าสุดมีความเคลื่อนไหวเกิดขึ้นเมื่อ นายสมศักดิ์ ลงนามแต่งตั้ง พล.อ.ประชาพัฒน์ วัจนะรัตน์ เป็นที่ปรึกษาของรองนายกฯ โดยลงนามในคำสั่งรองนายกรัฐมนตรีที่ 8/2566 ลงวันที่ 12 ต.ค.66 มีอำนาจหน้าที่ให้คำปรึกษาและเสนอแนะต่าง ๆ ที่เป็นประโยชน์ในการบริหารราชการ และปฏิบัติหน้าที่ตามที่รองนายกรัฐมนตรีมอบหมาย
ก่อนหน้านี้ “พล.อ.ประชาพัฒน์” เคยร่วมงานกับ นายสมศักดิ์ ในโดยเป็นหนึ่งใน คณะกรรมการคดีพิเศษปี 62 ชุดที่ 2 (โดยตำแหน่ง) คณะกรรมการฯดังกล่าวมีนายวิษณุ เครืองาม รองนายกฯ เป็นประธานกรรมการคดีพิเศษ โดยมี นายสมศักดิ์ รมว.ยุติธรรม ในฐานะรองประธาน กรรมการคดีพิเศษ
นอกจากนี้ ยังเป็น กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิ คณะกรรมการข้อมูลข่าวสารของราชการ (กขร.) ในชุดที่มี นางพวงเพ็ชร ชุนละเอียด รัฐมนตรีประจำสำนักนายกฯ เป็นประธานกรรมการ ด้วย ไทยพีบีเอส ออนไลน์ จึงพาไปรู้จัก “พล.อ.ประชาพัฒน์” เพิ่มเติมว่ามีที่มาอย่างไร
พล.อ.ประชาพัฒน์ วัจนะรัตน์ ชื่อเล่น “บอย” อายุ 61 ปี อดีตเจ้ากรมพระธรรมนูญ
ระดับมัธยม จบการศึกษาที่โรงเรียนสวนกุหลาบวิทยาลัย รุ่น 97 (OSK 97)
ระดับปริญญาตรี จบการศึกษาคณะนิติศาสตร์บัณฑิต มหาวิทยาลัยรามคำแหง รุ่นที่ 10 ปี 2527
ปริญญาโท นิติศาสตร์มหาบัณฑิต มหาวิทยาลัยรามคำแหง รุ่นที่ 5 ปี 2548
ปริญญาโท ศิลปศาสตร์มหาบัณฑิต (รัฐศาสตร์) สาขาบริหารงานยุติธรรม มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์
ปริญญาเอก นิติศาสตร์ดุษฎีบัณฑิตกิตติมศักดิ์ (นิติศาสตร์) มหาวิทยาลัยรามคำแหง ปี 2563
แม้ พล.อ.ประชาพัฒน์ ไม่ได้จบโรงเรียนนายร้อยพระจุลจอมกล้า แต่ก็เข้าทำงานในกองทัพ แต่เป็นงานด้านกฎหมาย ในเหล่าทหารพระธรรมนูญ และเติบโตจนดำรงตำแหน่งเจ้ากรมพระธรรมนูญ กรมพระธรรมนูญ คนที่ 35 ต่อจาก พล.ร.อ.ปรีชาญ จามเจริญ โดยตำรงตำแหน่ง ในช่วงวันที่ 1 ต.ค. 2562 – 30 ก.ย. 2565
นอกจากนี้เมื่อยังครองยศ “พ.อ.” พล.อ.ประชาพัฒน์ ยังเคยเป็นที่ปรึกษา มูลนิธิศิษย์เก่าโรงเรียนเตรียมทหาร ซึ่งในยุคนั้นมีคณะกรรมการกิตติมศักดิ์ ทั้ง พล.อ.อ.สุกำพล สุวรรณทัต ดำรงตำแหน่ง รมว.กลาโหม และ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา เมื่อครั้งดำรงตำแหน่ง ผบ.ทบ.
นอกจากนี้ยังมีประวัติการอบรม ต่าง ๆ ดังนี้
ประวัติการอบรมหลักสูตรกรรมการของสมาคมส่งเสริมสถาบันกรรมการบริษัทไทย (IOD) หลักสูตร Subsidiary Governance Program (SGP 6/2023)
หลักสูตรชั้นต้น รุ่นที่ 15 โรงเรียนเหล่าทหารพระธรรมนูญ กรมพระธรรมนูญ
หลักสูตรเสนาธิการทหารอากาศ รุ่นที่ 42 โรงเรียนเสนาธิการทหารอากาศ
หลักสูตรตุลาการพระธรรมนูญ รุ่นที่ 8 โรงเรียนเหล่าทหารพระธรรมนูญ กรมพระธรรมนูญ
หลักสูตรเสนาธิการทหาร รุ่นที่ 48 วิทยาลัยเสนาธิการทหาร สถาบันวิชาการป้องกันประเทศ
หลักสูตรวิทยาลัยป้องกันราชอาณาจักร (วปอ.) รุ่นที่ 59 วิทยาลัยป้องกันราชอาณาจักร สถาบันวิชาการป้องกันประเทศ
หลักสูตรนิติธรรมเพื่อประชาธิปไตย (นธป.) รุ่นที่ 6 วิทยาลัยศาลรัฐธรรมนูญ ศาลรัฐธรรมนูญ
หลักสูตรผู้บริหารกระบวนการยุติธรรมระดับสูง (บยส.) รุ่นที่ 23 วิทยาลัยการยุติธรรม สถาบันพัฒนาข้าราชการ ฝ่ายตุลาการศาลยุติธรรม
หลักสูตรผู้บริหารระดับสูงด้านวิทยาการพลังงาน (วพน.) รุ่นที่ 15 สถาบันวิทยาการพลังงาน
หลักสูตรการอบรมอธิบดีอัยการ รุ่นที่ 12 สำนักงานอัยการสูงสุด
นอกจากนี้ พล.อ.ประชาพัฒน์ ยังเคยมีรายชื่อผู้สมัครเข้ารับการสรรหาเป็นกรรมการกิจการกระจายเสียงกิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติด้านกฎหมายเมื่อปี 2564 ด้วย
ปัจจุบันดำรงตำแหน่ง กรรมการอิสระ / กรรมการกำกับดูแลกิจการและความยั่งยืน / กรรมการตรวจสอบ (กรรมการที่ไม่เป็นผู้บริหาร) บริษัท โกลบอล เพาเวอร์ ซินเนอร์ยี่ จำกัด (มหาชน)
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง
แนวรบรอบด้าน “ความมั่นคงไทย” โจทย์หินรัฐบาล
ผบ.ทบ.จัดโผผู้พัน สลับย้าย 398 ผู้บังคับกองพัน