วันนี้ (1 พ.ย.66) นายอารีเพ็ญ อุตรสินธุ์ ที่ปรึกษาประธานสภาผู้แทนราษฎร พร้อมด้วย นายมุข สุไลมาน เลขานุการประธานสภาฯ แถลงข่าว เกี่ยวกับการเจรจาช่วยเหลือตัวประกันคนไทย จากสถานการณ์ความไม่สงบในอิสราเอลว่า เมื่อวันที่ 26 ต.ค.ที่ผ่านมาเดินทางไปกับนายแซยึด มุมิน ซึ่งเป็นผู้ประสานงาน นายเลอพงษ์ ซาร์ยีด ซึ่งเป็นผู้ประสานงานกับทางฮามาส ในอิหร่าน
การเดินทางครั้งนี้ได้รับมอบหมายจากวันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานสภาฯ เนื่องจากอิหร่านได้คุ้นเคยกับไทยมา 300 ปี และผู้นำอิหร่านกับประธานสภา คุ้นเคยกันตั้งแต่ยุคของนายลักซัน ยานี อดีตประธานธิบดีที่เคยช่วยเหลือชาวอิหร่านในปีตั้งแต่ปี 2541 ที่มีประเด็นเรื่องคาร์บอมน์หน้าสถานทูตอิสราเอล แต่ขณะนั้น คนตำรวจไทยไปจับชาวอิหร่านที่เดินทางเข้าไทยจากทางมาเลเซีย และตั้งข้อหาว่า เป็นมือคาร์บอมม์ แต่จากนั้นสมชาย นีลไพจิตร ทนายความให้
คดีดังกล่าวศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์ตัดสินประหารชีวิตและในปี 41 ระหว่างศาลฎีกา และขณะนี่อดีตประธานาธิบดีลักซั นยานี พาพ่อแม่ของชาวอิหร่านมาร้องไห้ และยืนยันว่า ลูกชายไม่ผิด เพราะทำการค้าขายในมาเลเซีย และประธานบอกว่าจะให้ความเป็นธรรม จากนั้นศาลฎีกาตัดสินยกฟ้อง ทำให้นายวันนอร์ ได้รับการยอมรับจากประเทศอิหร่าน
ส่วนประเด็นต่อมาเรื่องคณะทำงานในอิหร่านที่สามารถติดต่อแกนนำของกลุ่มฮามาส จึงพุ่งเป้าช่วยคนไทยและมีคนไทยที่ถูกจับไปเบื้องต้น 22 คน และในฐานะที่อาจารย์วันนอร์ จึงขอให้พูดคุยและนำคนไทยกลับมา
“ผลการเจรจาเมื่อเดินทางไปถึงเมื่อวันที่ 26 ต.ค.และในช่วงบ่ายเวลา 13.10 น.ได้พบกับตัวแทนของกลุ่มฮามาส และเป็นบุคคลที่เป็นเป้าหมายของสหรัฐอเมริกาในลำดับต้น ๆ โดยช่วงเวลาราว 2 ชม.ในการพูดคุย โดยระบุว่า คณะทำงานเดินทางมาในนามของประธานสภาไทย และในนามของพี่น้องมุสลิมและขอร้องว่า ให้ปล่อยคนงานคนไทย เพราะไม่เกี่ยวกับการต่อสู้ของพวกเขาและให้บอกกับพี่น้องคนไทยว่า คนเหล่านี้ได้รับการดูแลเป็นอย่างดี แต่ห่วงว่า ถ้ากำหนดเวลาออกมาจะห่วงมีระเบิดกับตัวประกันจนเกิดอันตรายได้
นายอารีเพ็ญ ยังกล่าวว่า ขณะนี้ทางกลุ่มฮามาส ให้คำมั่นสัญญาและรอเวลาที่เหมาะสมที่จะปล่อยตัวคนไทยออกมา และให้คนไทยได้พูดสื่อสารออกว่า ฮามาสโหดร้ายจริงหรือไม่ โดยตัวประกันอยู่กับเขามา 10 วัน อยากให้สื่อสารในประเด็นนี้ เขารับปากกับเราว่า คนไทยจะอยู่กับเขาอย่างปลอดภัยและกลับมาอยู่กับครอบครัวอย่างมีความสุข
ชี้อิหร่านตัวกลางเชื่อมเจรจา
นายอารีเพ็ญ ยังกล่าวเพิ่มเติมว่า หลังจากพบฝ่ายฮามาส จากนั้นวันที่ 29 ต.ค.ได้พบกับที่ปรึกษาประธานธิบดีอิหร่าน และสมัชชาองค์กรปาเลสไตน์แห่งสำนักประธานธิบดีอิหร่าน รวมทั้งผู้ที่มีบทบาทในการเจรจาโดยทางอิหร่านได้ให้เวลา 3 ชม. ในการพบปะกับคณะและเห็นว่า ไทยเป็นประเทศที่มีความสัมพันธ์อันดีตั้งสมัยพระนครศรีอยุธยา ซึ่งเจ้าพระยาบวรราชนายก (เฉกอะหมัด) เป็นชาวอิหร่านที่ทำงานในสมัยพระนครศรีอยุธยาเมื่อ 400 ปี และชาวอิหร่านที่มาไทยจะไปเคารพ
อนุสรณ์สถานอนุสรณ์สถานเจ้าพระยาบวรราชนายก ซึ่งตั้งอยู่ภายในมหาวิทยาลัยราชภัฏพระนครศรีอยุธยา
จากนั้นมีหนังสือไปยังบุคคลสำคัญของอิหร่าน 4 รายชื่อและพร้อมให้ความร่วมมือกับไทย ทำให้เมื่อวานนี้ (31 ต.ค.) รมว.ต่างประเทศอิหร่านที่เดินทางไปพบกลุ่มฮามาสที่กาตาร์
นายอารีเพ็ญ กล่าวว่า ทางปาเลสไตน์ต่อสู้มานานแล้วแต่อิสราเอลเข้ามาทำสงคราม ทั่วโลกกลับให้ความสนใจ ทั้งที่ถูกเหยียดหยามมานานแล้ว แล้ว ทั้งนี้ ยืนยันว่า คนไทยที่อยู่ในการกักกันจะไม่เสียชีวิต เพราะคนไทยจะเป็นกระบอกเสียงที่ออกมาแล้วจะบอกว่า เขาอยู่ในการดูแลได้รับผลกระทบหรือเดือดร้อนอะไรหรือไม่
อยากให้ปล่อยตัวประกันทางอิหร่าน ถ้าปลอดภัย แม้แต่วันเดียวเขาก็ปล่อยได้ เขายืนยันกับผม จึงกลับมาด้วยความสบายใจว่า คนไทยจะมีชีวิตรอดกลับมาได้ และถ้าปล่อยตัวมาทางอิหร่าน ทางประธานสภาฯจะไปรับคนไทยด้วยตัวเอง อิหร่านมีอิทธิพลมากกับกลุ่มฮามาส เพราะไปถูกจุดเพราะอิซบอเลาหะฮามาส
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง
ทีมงาน “วันนอร์” บินอิหร่าน ถกผู้แทนฮามาสเจรจาปล่อยตัวประกันชาวไทย
“กาตาร์” ยินดีช่วยเต็มที่ให้ปล่อยตัวคนไทย เชื่อเป็นกลุ่มแรก ๆ ที่จะถูกปล่อยตัว
แนวรบรอบด้าน “ความมั่นคงไทย” โจทย์หินรัฐบาล