วันนี้ (1 พ.ย.2566) ศาลรัฐธรรมนูญปรึกษาคดีกรณีที่คณะกรรมการการเลือกตั้งขอให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยตามรัฐธรรมนูญมาตรา 82 ว่า สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรของนายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ สิ้นสุดลงตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 101 (6) ประกอบมาตรา 98 (3) หรือไม่
เนื่องจากเป็นผู้ถือหุ้นในบริษัทไอทีวี จำกัด (มหาชน) ซึ่งประกอบกิจการหนัง สือพิมพ์ หรือสื่อมวลชนใดๆ อยู่ในวันที่สมัครรับเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรแบบบัญชีรายชื่อ เป็นเหตุให้สมาชิกภาพของสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรของผู้ถูกร้องสิ้นสุดลง ตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 101(6) ประกอบมาตรา 98 (3)
ขอให้ศาลรัฐธรรมนูญมีคำสั่งให้ผู้ถูกร้องหยุดปฏิบัติหน้าที่จนกว่าศาลรัฐธรรมนูญจะมีคำวินิจฉัยตามรัฐธรรมนูญมาตรา 82 วรรคสอง และขอให้ศาลรัฐธรรมนูญมีคำสั่งให้ตำแหน่งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรของผู้ถูกร้องว่างลง นับแต่วันที่ศาลรัฐธรรมนูญอ่านคำวินิจฉัยให้แก่คู่กรณีฟังตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 105 วรรคหนึ่ง (2)
ผลการพิจารณา ผู้ถูกร้องยื่นขยายระยะเวลายื่นคำชี้แจงแก้ข้อกล่าวหา จำนวน 2 ครั้ง ครั้งละ 30 วัน ซึ่งศาลรัฐธรรมนูญอนุญาตตามขอ ผู้ถูกร้องยื่นคำชี้แจงแก้ข้อกล่าวหา ศาลรัฐธรรมนูญดำเนินกระบวนพิจารณามาแล้วจำนวน 11 ครั้ง เรียกให้บุคคล และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องจัดทำความเห็นและจัดส่งเอกสารหลักฐาน จำนวน 12 คน
ศาลรัฐธรรมนูญอภิปรายเพื่อนำไปสู่การวินิจฉัย เพื่อประโยชน์แห่งการพิจารณาให้รอคำชี้แจงและพยานหลักฐานจากบุคคลและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ซึ่งศาลเรียกไปก่อนหน้านี้ และเรียกให้บุคคลและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องส่งคำชี้แจงและพยานหลักฐานเพิ่มเติมด้วยแล้วกำหนดนัดพิจารณาคดีต่อในวันพุธที่ 15 พ.ย. เวลา 09.30 น.
อ่านข่าว
กกต.แจงยิบ! “พิธา” ถือหุ้นเป็นเรื่อง “พรรค-เจ้าตัว” รับรองตัวเอง
ศาล รธน.ขอเอกสาร “พิธา” ถือหุ้นสื่อภายใน 15 วัน