หน้าแรก Voice TV 'ชัยธวัช' รับไม่ได้ หลัง 'ปูอัด' แถลง ชี้ขอโทษแต่ไร้สำนึก จ่อพิจารณา ลงมติขับอีกรอบ

'ชัยธวัช' รับไม่ได้ หลัง 'ปูอัด' แถลง ชี้ขอโทษแต่ไร้สำนึก จ่อพิจารณา ลงมติขับอีกรอบ

79
0
'ชัยธวัช'-รับไม่ได้-หลัง-'ปูอัด'-แถลง-ชี้ขอโทษแต่ไร้สำนึก-จ่อพิจารณา-ลงมติขับอีกรอบ

ชัยธวัช ตุลาธน หัวหน้าพรรคก้าวไกล โพสต์ความเห็นส่วนตัว หลังฟังการแถลงข่าวของ ไชยามพวาน มั่นเพียรจิตต์ สส. เขตจอมทอง กรณีถูกมติคาดโทษกรณีการคุกคามทางเพศทีมงาน 3 ราย ระบุเป็นการขอโทษที่ไร้สำนึก จ่อพิจารณา ลงมติขับอีกรอบ

3 พ.ย. 2566 ชัยธวัช ตุลาธน หัวหน้าพรรคก้าวไกล โพสต์ความเห็นส่วนตัว หลังฟังการแถลงข่าวของ ไชยามพวาน มั่นเพียรจิตต์ สส. เขตจอมทอง กรณีถูกมติคาดโทษกรณีการคุกคามทางเพศทีมงาน 3 ราย มีใจความดังนี้

ผมได้ฟังการแถลงของคุณไชยามพวาน มั่นเพียรจิตต์ เมื่อบ่ายวันนี้แล้ว และมีความเห็นส่วนตัว ดังนี้

(1) แม้คุณไชยามพวานจะแถลงว่าน้อมรับมติของพรรคและขอโทษ หากเห็นว่าการกระทำของตนเองถือเป็นการคุกคามทางเพศ แต่เมื่อพิจารณาสาระสำคัญในการแถลงแล้ว จะเห็นได้ว่า คุณไชยามพวานไม่ได้สำนึกหรือยอมรับว่าพฤติการณ์ของตนนั้น เข้าข่ายเป็นการคุกคามทางเพศแม้แต่น้อย และไม่ได้ขอโทษต่อผู้เสียหายอย่างจริงใจ

(2) คุณไชยามพวานยังนำข้อความของผู้เสียหายรายที่หนึ่งมาแสดงต่อสาธารณะ โดยเจตนาจะแสดงให้เห็นว่า ตนเองกับผู้เสียหายมีความสัมพันธ์อันดีต่อกัน ดังนั้น การล่วงเกินทางเพศที่มีต่อผู้เสียหายคนดังกล่าวตามที่ถูกกล่าวหา จึงเกิดขึ้นโดยความยินยอม หรืออย่างน้อยผู้เสียหายก็ไม่ได้แสดงการต่อต้านหรือความไม่พอใจใดๆ หลังเกิดเหตุ

(3) ต่อมา คุณไชยามพวานได้แสดงข้อมูลเพื่อแสดงให้เห็นว่า การถ่ายรูปและคลิปของผู้เสียหายรายที่สองนั้น ไม่น่าจะถือเป็นการคุกคามทางเพศ

(4) สุดท้าย คุณไชยามพวานยืนยันว่า ตนเองแตะเนื้อต้องตัวผู้อื่นเป็นประจำ การแตะเนื้อต้องตัวผู้เสียหายรายที่สามนั้นเป็นไปในฐานะเพื่อนร่วมงาน ไม่ได้มีเจตนาหรือเป้าประสงค์ทางเพศ

(5) ในฐานะที่เป็นกรรมการบริหารพรรคคนหนึ่งของพรรคก้าวไกล ผมขอชี้แจงว่า คณะกรรมการบริหารพรรคทราบข้อเท็จจริงและข้อโต้แย้งข้อกล่าวหาทั้งหมดของคุณไชยามพวาน โดยคุณไชยามพวานพยายามแสดงหลักฐานเพื่อสื่อว่าการล่วงเกินทางเพศต่อผู้เสียหายรายที่หนึ่งนั้น เกิดขึ้นโดยอีกฝ่ายไม่เคยแสดงอาการไม่ยินยอมใดๆ เลย อย่างไรก็ตาม คณะกรรมการบริหารพรรคพิจารณาแล้วเห็นว่า การล่วงเกินทางเพศเกิดขึ้นโดยผู้เสียหายอยู่ในสภาพมึนเมา ย่อมไม่อยู่ในสถานะที่สามารถให้การยินยอมหรือไม่ยินยอมได้ นอกจากนี้ คุณไชยามพวานยังมีพฤติกรรมที่ส่อเจตนาไม่บริสุทธิ์ โดยการพาผู้เสียหายไปที่คอนโดมีเนียมของตนเอง

(6) แม้ว่าความสัมพันธ์ระหว่างคุณไชยามพวานกับผู้เสียหายก่อนและหลังเกิดเหตุการณ์ล่วงเกินทางเพศจะดูเป็นปกติหรือดีต่อกัน แต่ผู้เสียหายรายที่หนึ่งไม่เคยยินยอมให้คุณไชยามพวานมีเพศสัมพันธ์ด้วยอีกเลย ซึ่งการมีเพศสัมพันธ์ย่อมต้องได้รับความยินยอมจากอีกฝ่าย การมีความสัมพันธ์ที่ดีต่อกัน ไม่ได้หมายความว่าฝ่ายชายสามารถจะมีเพศสัมพันธ์กับฝ่ายหญิงได้ตามใจชอบ นอกจากนี้ ความสัมพันธ์อันดีอาจเกิดจากความต้องการทำงานร่วมกับพรรคและ ส.ส. ของพรรคในอนาคต ซึ่งเมื่อคุณไชยามพวานได้เป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรแล้ว เขาได้ลดการมอบหมายงานให้ผู้เสียหายรายที่หนึ่ง ภายหลังจากที่มีผู้เสียหายรายที่สองเข้ามาเป็นทีมงานของตนเอง

(7) สำหรับ กรณีผู้เสียหายรายที่สองนั้น คณะกรรมการบริหารพรรคไม่ได้พิจารณาความผิดจากข้อเท็จจริงเรื่องการถ่ายรูปและคลิปตามที่คุณไชยามพวานกล่าวถึง เนื่องจากเห็นว่ารับฟังไม่ได้ว่าเป็นการคุกคามทางเพศจริง แต่คณะกรรมการบริหารพรรคพิจารณาจากข้อเท็จจริงที่ว่า นอกจากจะมีพฤติการณ์แตะเนื้อต้องตัวผู้เสียหายแล้ว ขณะคุณไชยามพวานเป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร ยังได้ชักชวนผู้เสียหายรายที่สองไปต่างจังหวัดสองต่อสอง 2 ครั้งโดยไม่เกี่ยวข้องกับงานในความรับผิดชอบของผู้เสียหาย ซึ่งผู้เสียหายปฏิเสธทั้งสองครั้ง

(8)ส่วนกรณีผู้เสียหายรายที่สาม ผู้เสียหายเห็นว่าคุณไชยามพวานมีพฤติกรรมพยายามเข้าหาและพูดคุยในลักษณะที่ทำให้รู้สึกถูกคุกคามทางเพศ จนทำให้ต้องขอลาออกจากทีมงานหลังเข้ามาทำงานได้ไม่ถึงหนึ่งเดือน

(9) คณะกรรมการบริหารพรรคพิจารณาพฤติการณ์และข้อเท็จจริงทั้งสามรายประกอบกัน ซึ่งมีลักษณะต่อเนื่องและมีรูปแบบทำนองเดียวกัน จึงเห็นว่า คุณไชยามพวานมีพฤติกรรมคุกคามทางเพศต่อผู้เสียหายทั้งสามราย และล่วงละเมิดทางเพศต่อผู้เสียหายหนึ่งราย โดยผู้เสียหายทั้งหมดมีสถานะเป็นอาสาสมัครหรือผู้ช่วยดำเนินงานของคุณไชยามพวาน ซึ่งด้วยความที่คุณไชยามพวานมีอำนาจหรือสถานะเหนือกว่าผู้เสียหาย สามารถให้คุณให้โทษต่อผู้เสียหายได้ จึงส่งผลให้ความสัมพันธ์ที่ดีระหว่างคุณไชยามพวานกับผู้เสียหายในระยะเวลาหนึ่ง อาจเกิดจากเนื่องจากปัจจัยด้านสถานะการจ้างงาน ความมั่นคงทางรายได้ หรือความต้องการทำงานร่วมกับพรรคและ ส.ส. ของพรรค

(10) ข้อเท็จจริงที่ว่า ผู้เสียหายทั้ง 3 ราย เป็นอาสาสมัครและ/หรือผู้ช่วยดำเนินงานของคุณไชยามพวาน ยังส่งผลเสียหายร้ายแรงต่อระบบอาสาสมัครของพรรค ทำให้การทำงานเป็นอาสาสมัครหรือทีมงานของพรรคไม่เป็นพื้นที่ปลอดภัย ซึ่งควรต้องปลอดจากการคุกคามหรือล่วงละเมิดทางเพศในทุกรูปแบบ

(11) ผมเห็นว่า การแถลงของคุณไชยามพวานในวันนี้ นอกจากจะไม่สำนึกยอมรับผิดและขอโทษต่อผู้เสียหายอย่างจริงใจแล้ว ยังอาจเป็นการก่อความเสียหายซ้ำเติมต่อผู้ถูกกระทำทั้งสามรายอีกด้วย ดังนั้น หลังจากวันเสาร์นี้ ผมในฐานะหัวหน้าพรรคก้าวไกล จะเรียกประชุมคณะกรรมการบริหารพรรคเพื่อให้พิจารณาว่าคุณไชยามพวานกระทำการให้เป็นไปตามมติของคณะกรรมการบริหารพรรคหรือไม่

(12) หากคณะกรรมการบริหารพรรคเห็นว่า คุณไชยามพวานกระทำการขัดต่อมติของคณะกรรมการบริหารพรรค ก็จะนำไปสู่กระบวนการทางวินัยจากฐานการฝ่าฝืนมติคณะกรรมการบริหารพรรคดังกล่าว อันเป็นความผิดวินัยอย่างร้ายแรง และหากมีความผิดจริง ก็จะนำไปสู่การจัดประชุมร่วมระหว่างคณะกรรมการบริหารกับ สส. ของพรรค เพื่อมีมติให้คุณไชยามพวานพ้นจากการเป็นสมาชิกพรรคก้าวไกล หรือไม่ ต่อไป

ทิ้งคำตอบไว้

กรุณาใส่ความคิดเห็นของคุณ!
กรุณาใส่ชื่อของคุณที่นี่