ไม่ต้องเรียกก็มา PM2.5 ออกมาสตาร์ตทักทายลมหายใจและปอดคนเมืองกรุงเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว อย่างเงียบเชียบ หากแหงนหน้ามองฟ้า ไม่ใช่เจอแค่เมฆครึ้มแต่ยังเต็มไปด้วยม่านหมอกของฝุ่นพิษจิ๋ว
“แด๊ก” ธนกร วังบุญคงชนะ สส.บัญชีรายชื่อและรองหัวหน้าพรรครวมไทยสร้างชาติ (รทสช.) ออกมาเตือนว่า ช่วงปลายปีเข้าสู่ฤดูหนาว ความรุนแรงของ PM2.5 จะเพิ่มสูงขึ้น ส่งผลต่อสุขภาพของคนทั้งประเทศ ไม่เฉพาะแค่ภาคเหนือ รัฐบาลจึงควรประสานความร่วมมือกับประเทศเพื่อนบ้านไว้ก่อนล่วงหน้า เพื่อลดผลกระทบไม่ให้รุนแรง
ไม่เพียงเท่านี้ แต่ “แด็ก” ธนกร ยังจี้ไปที่กระทรวงพญานาค ฐานที่มั่นของ ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า และกระทรวงสีเขียว “ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม” ที่ “บิ๊กป๊อด” พล.ต.อ.พัชรวาท วงษ์สุวรรณ น้องรักของ “ลุงป้อม” พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ กำกับดูแลว่าต้องร่วมกันแก้ไขปัญหาดังกล่าว ทั้งการเผาจากประเทศเพื่อนบ้านและภาคการเกษตรภายในประเทศ
ขณะที่ มท.หนู “อนุทิน ชาญวีรกูล” เจ้ากระทรวงคลองหลอด “มหาดไทย” จะต้องคุม เข้มงวดควบคุมเรื่องการเผาไร่อ้อยและไร่นา เช่นเดียวกับ ผู้ว่า กทม.”ชัชชาติ สิทธิพันธุ์” และจังหวัดต่างๆ จะต้องมีแนวทางการปฏิบัติเพื่อควบคุมฝุ่น PM2.5 จากโรงงานอุตสาหกรรม และจากท่อไอเสียรถยนต์
ในฐานะ รทสช.เป็นพรรคร่วมรัฐบาล แม้จะไม้ได้ดูปัญหาฝุ่นพิษ PM2.5 โดยตรง แต่การออกมาเตือนแต่เนิ่นๆ ของ “แด็ก” ธนกร ก็ถือว่าเป็นเรื่องสำคัญที่ไม่ควรมองข้าม
ยังไม่ถึงปลายปี รัฐบาลซานตาคลอส ภายใต้การนำของ “เสี่ยนิด” เศรษฐา ทวีสิน ก็มีมาตรการ Kick off ลดแหลก แจกไม่อั้น เกือบทุกกระทรวง ไล่เลียงตั้งแต่การประกาศลดราคาน้ำมันเบนซิน แก๊สโซฮอล์ และดีเซล ของกระทรวงพลังงานที่มีผลเมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา (7 พ.ย.2566) ลดแรงเหลือเชื่อ โดยเฉพาะแก๊สโซฮอล์ 95 และน้ำมันซูเปอร์พาวเวอร์ แก๊สโซฮอล์ 95 ปรับลดราคา 1.00 บาท/ลิตร และแก๊สโซฮอล์ 91 ปรับลดราคา 2.50 บาท/ลิตร
ยังไม่พอช่วงบ่าย การประปาส่วนภูมิภาค (กปภ.) ขานรับนโยบาย มท.หนู “อนุทิน” รมว.มหาดไทย ให้ประชาชนผู้มีรายได้น้อย ได้สิทธิยืดจ่าย-ค้างจ่าย ค่าน้ำประปาได้นานถึง 3 เดือน จากเงื่อนไขเดิม คือ ค้างค่าน้ำ 2 เดือน กปภ.จะถอดมิเตอร์ออก แต่เงื่อนไขใหม่ กปภ.ให้ยืดเวลาชำระ
สำหรับผู้ที่มีค่าน้ำคงค้างไม่เกิน 150 บาท/เดือน กำหนดเวลาไว้ไม่เกิน 3 เดือน รวมแล้วสามารถค้างค่าน้ำได้ 3 เดือน ไม่เกิน 450 บาท คาดเริ่มต้นได้ภายในเดือน พ.ย.นี้
ส่วนพาณิชย์ก็ไม่น้อยหน้า เมื่อ “ภูมิธรรม เวชยชัย” รองนายกฯ ในฐานะเจ้ากระทรวง ออกมาแถลงชื่นมื่นเมื่อ ครม.มีมติ พยุงราคาข้าวชะลอการขายข้าวเปลือกหอมมะลิ จากราคาตลาดตันละ 11,000 เป็น 12,000 บาท ช่วยค่าเก็บรักษา ตันละ 1,500 บาท และเตรียมช่วยค่าบริหารจัดการข้าวอีกไร่ละ 1,000 บาท ไม่เกิน 20 ไร่ เหลือเพียงแค่รอคณะกรรรมการนโยบายข้าว เคาะก่อนเสนอเข้า ครม. อีกครั้งสัปดาห์หน้า
นอกจากนี้จะมีการปล่อยสินเชื่อให้สถาบันการเกษตร เข้าไปช่วยรับซื้อข้าว เพื่อแทรกแซงราคา โดยให้รับซื้อ ตันละ 12,200 บาท เป้าหมาย 1,000,000 ตัน ทั้งโครงการใช้งบประมาณ 10,600 ล้านบาท
ขณะเดียวกัน ยังมีมาตรการช่วยเหลือค่าบริหารจัดการข้าว ซึ่งจากเดิมเป็นค่าเก็บเกี่ยว ไร่ละ 1,000 บาทไม่เกิน 20 ไร่ โดยใช้งบประมาณ 5.6 หมื่นล้านบาท ซึ่งจะนำเข้าที่ประชุมคณะกรรมการนโยบายข้าวแห่งชาติ (นบข.) ก่อนนำเข้า ครม.อีกเช่นกัน
ไม่หวั่นไหว เดินหน้าแจกเงินดิจิทัล 10,000 บาท แม้จะถูกเกรียนคีย์บอร์ด โพสต์ขู่ฆ่า นายกฯ ใน X “เศรษฐา ทวีสิน” โดยนายกฯ บอกหลังตำรวจจับกุมตัวเกรียนคีย์บอร์ดว่า ได้ทราบแล้วและให้เป็นไปตามกฎหมาย
ส่วนการที่คนโพสต์บอก ผิดหวังการทำงานการบริหารประเทศฯ ด้านการเมือง นายกฯ กล่าวว่า เราอ่ะ เราเป็นรัฐบาล ต้องรับฟังความคิดเห็นของประชาชน ก็คงมีคนไม่พอใจ ไม่สบายใจ เราก็ฟัง แต่ขอให้ติชมอย่างสร้างสรรค์มากกว่า แต่ถ้าคุกคามก็ต้องว่ากันตามกฎหมาย
นายกฯ บอกอีกว่าไม่ได้สั่งการให้จัดทีม รปภ.เพิ่มเติม เพราะเชื่อว่าทีมรักษาความปลอดภัยทำงานได้ดีอยู่แล้ว ถ้ามีอะไรเขาก็คงปรับเอง
อ่านข่าวอื่น :
ท้องถิ่นเฮ! ยื่นขอใช้งบฯ จังหวัด จากงบฯ ปี 67 ได้แล้ว
โลกคนกลางคืนคึก “ห่วงเมาขับ” ตีปีกปิดผับถึงตี 4
อนุมัติงบบัตรทองปี 67 จ่ายรายหัว 3,472.24 บาท