ไร้เงา “ลุงป้อม” พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ หัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ ในงานดินเนอร์พรรคร่วมรัฐบาล คงมีเพียง “บิ๊กป๊อด” พล.ต.อ.พัชรวาท วงษ์สุวรรณ ประธานที่ปรึกษาพรรคพลังประชารัฐ และผู้กองธรรมนัส “ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า” เลขาธิการพรรคฯ นั่งร่วมโต๊ะอาหารกับหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย “อนุทิน ชาญวีรกูล” รองนายกฯ และ รมว.มหาดไทย, พีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค หัวหน้าพรรครวมไทยสร้างชาติ รองนายกฯ และ รมว.พลังงาน
ยังมีหัวหน้าพรรคประชาชาติ “พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง” รมว.ยุติธรรม, วราวุธ ศิลปอาชา หัวหน้าพรรคชาติไทยพัฒนา รมว.กระทรวงพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์
ขณะที่พรรคเพื่อไทยในฐานะแกนนำจัดตั้งรัฐบาล นอกจาก “เศรษฐา ทวีสิน” นายกรัฐมนตรี แล้วยังมี นพ.พรหมมินทร์ เลิศสุริยะเดช ประธานคณะกรรมการนโยบายพรรคเพื่อไทย ในฐานะเลขาธิการนายกฯ “ภูมิธรรม เวชยชัย” รองหัวหน้าพรรคเพื่อไทย, รมว.พาณิชย์ และหัวหน้าพรรคเพื่อไทยหมาดๆ “อุ๊งอิ๊ง” แพทองธาร ชินวัตร ผู้เปรียบเสมือนละอ่อนหน้าใหม่ทางการเมือง “ดาวเด่น” ล้อมรอบกลางหมู่เดือน
หากจับสัญญาณทางการเมือง ดูเหมือนไม่มีอะไรมากไปกว่าการร่วมวงรับประทานอาหารธรรมดาของบรรดาพรรคร่วมรัฐบาล
“มาทานข้าวกับหัวหน้าพรรคร่วมรัฐบาล หลังจากทำงานร่วมกันมา 2 เดือน ถือว่าเป็นครั้งแรกที่เราได้มาพบปะพูดคุยกันนอกเหนือจากการประชุม ครม.”
ข้อความที่เผยแพร่บนหน้าเฟซบุ๊ก และ X ของ นายกฯนิด “เศรษฐา”
ไม่ต่างจากข้อความของ “ภูมิธรรม” ที่บอกว่า … ก็ไม่มีอะไร เป็นการรับประทานร่วมกัน ที่ผ่านมาเกือบ 2 เดือน เราได้ทำงานเจอหน้ากันก็มีแต่เรื่องงาน พอเจอหน้ากันก็รีบออกไปข้างนอก เพราะทุกคนงานเยอะ การรับประทานอาหารครั้งนี้ จึงถือโอกาสเข้ามาคุย ซึ่งบรรยากาศดีมาก และทุกคนก็รู้สึกดี
แต่ไม่พบข้อความและความเคลื่อนไหวใดๆ จาก “บิ๊กป๊อด” พล.ต.อ.พัชรวาท, อนุทิน และ พีระพันธุ์ ผ่านสื่อโซเชียล ส่วน “วราวุธ” บอกเพียงว่าวงพูดคุยเป็นการแลกเปลี่ยนความคิดเห็นในการทำงานตลอด 2 เดือนที่ผ่านมา ว่าได้ทำอะไรไปแล้วบ้าง ถือว่าการได้ร่วมรับประทานอาหารค่ำร่วมกันเป็นสิ่งที่ดี เนื่องจากได้ใกล้ชิดกัน เพราะพรรคร่วมรัฐบาลได้ร่วมรับประทานอาหารร่วมกัน
หากจับสัญญาณทางการเมืองของพรรคร่วมฯ ที่ลงเรือลำเดียวกับพรรคเพื่อไทย โดยเฉพาะพรรคพลังประชารัฐ ภายใต้การนำของ “ลุงป้อม” พล.อ.ประวิตร แม้จะมีเพียง 40 เสียง ได้ 1 ตำแหน่งรองนายกฯ และเก้าอี้ 2 กระทรวงใหญ่ “ทรัพยากรธรรมชาติ -เกษตรและสหกรณ์” ถือว่า “พิเศษและไม่ธรรมดา” ในพลังอำนาจต่อรองสถานะ “ลุงป้อม” พล.อ.ประวิตร ที่เป็นหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ และ สส.ระบบบัญชีรายชื่อ เข้าสภาไปโหวตเลือก “เศรษฐา” ให้นั่งนายกฯครั้งแรก
แต่หลังจากนั้น ยังไม่เคยปรากฎกายในสภาอีกเลย ยกเว้นในงาน สัมนา สส.พรรคฯ เมื่อช่วงต้นเดือน ตค. ที่ผ่านมา “ลุงป้อม” พล.อ.ประวิตร ได้เข้าร่วมงานดังกล่าวและบอกว่า “ไม่ได้หายไปไหน แต่เจ็บขา ป่วยต้องเข้ารักษาตัวในโรงพยาบาล”
แม้ก่อนหน้านั้น เคยเปรยๆ กับคนใกล้ชิด อาจจะวางมือทางการเมืองแต่ครั้งล่าสุด “ลุงป้อม” พล.อ.ประวิตร เหมือนจะใจสู้ แถมบอกว่า ยังเป็น สส. และจะอยู่กับพรรคพลังประชารัฐตลอดไป
มื้อดินเนอร์เมื่อค่ำวาน (7 พ.ย.) ลุงป้อม “พล.อ.ประวิตร” ไม่ได้มา ไม่ต่างกับเมื่อวันสัมนาของพรรค พปชร. ที่ “บิ๊กป๊อด” พล.ต.อ.พัชรวาท และ ร.อ.ธรรมนัส ก็ไม่ได้เข้าร่วมเหมือนกัน และหากถามถึงความสัมพันธ์ระหว่าง “บิ๊กป๊อด” “ลุงป้อม” และ ผู้กองธรรมนัส กับพรรคเพื่อไทย โดยเฉพาะกับหัวหน้าพรรคตัวจริงบนชั้น 14 รพ.ตำรวจ ว่าขณะนี้เป็นอย่างไร ยังยากที่จะคาดเดา
กลับมาที่ “ภูมิใจไทย” พรรคร่วมรัฐบาลที่มีเสียงเป็นอันดับ 2 ของ “มท.หนู-อนุทิน” ภาพจำไม่ได้มีแค่เดินไปส่ง “ลุงตู่” พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา อดีตนายกฯ ขึ้นรถในงานแสดงโขนพระราชทาน ตอนกุมภรรณทดน้ำเท่านั้น แต่ยังมีการพบปะในอีกหลายๆ งาน และหลายๆ อิริยาบถ ที่แสดงให้เห็นความสัมพันธ์และความผูกพันกับ “ลุงตู่” พล.อ.ประยุทธ์ ในฐานะคนเคยทำงานยาวนานถึง 9 ปี
ก่อนจะถึงดินเนอร์มื้อนี้ “อนุทิน” พบ “คุณหญิงพจมาน ดามาพงศ์” ในงานเดินวิ่งการกุศลที่สนามหลวงเมื่อวันที่ 29 ต.ค. 2566 เป็นการปรากฏตัวครั้งแรกของ “คุณหญิงอ้อ” หลังลูกสาว “อุ๊งอิ๊ง” แพทองธาร ได้รับเลือกเป็นหัวหน้าพรรคเพื่อไทย
รายงานข่าวระบุว่า มท.หนู “อนุทิน” แสดงความยินดีที่ “อุ๊งอิ๊ง” เป็นหัวหน้าพรรคเพื่อไทย ทำให้ นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว อดีตหัวหน้าพรรคเพื่อไทย ในฐานะ รมว.สาธารณสุข พูดแซวนายอนุทินว่า “ฝากเนื้อฝากตัวด้วย” ก่อน “อนุทิน” จะชี้กลับไปที่ “แพทองธาร” แล้วพูดว่า “ก็ต้องฝากตัวกับคุณอิ๊งค์ด้วย” ขณะที่แพทองธาร กล่าวว่า “โอ้โฮ เกินไป”
“เกินไป” จะมีนัยทางการเมืองหรือไม่ ก็ไม่มีใครตอบได้อีกเช่นกัน แต่หากถอดรหัสจากภาพถ่ายแกนนำพรรคร่วมรัฐบาลทั้ง 5 จะเห็นว่า “บิ๊กป๊อด” พล.ต.อ.พัชรวาท เป็นผู้ที่มีสีหน้าเรียบเฉย ไม่แสดงอารมณ์ใดๆ ขณะที่ “ลุงป้อม” พล.อ.ประวิตร ก็ยังไม่ยอมประกาศรามือทางการเมือง
ขณะที่ “อุ๊งอิ๊ง” แพทองธาร หัวหน้าพรรคเพื่อไทย ก็เริ่มขยับตัวเข้ามาสู่ในแวดวงการเมืองมากขึ้นกว่าเดิม แม้จะถูกวิพากษ์วิจารณ์ว่า เป็นการแต่งตัวรอเพื่อเตรียมตัวก้าวขึ้นตำแหน่งนายกฯ คนต่อไป หาก “เศรษฐา” ต้องสะดุดและมีอันให้หลุดจากวงโคจรไป
และการปรากฏตัวทุกเวที จึงถือเป็นการเรียนรู้งานในสนามจริง แต่ก็ได้รับการปฏิเสธจากนายกฯ ว่าไม่ได้มีนัยอะไร ในขณะที่ “ทักษิณ ชินวัตร” เจ้าของพรรคตัวจริงก็ยังนอนอยู่ที่ชั้น 14 โรงพยาบาลตำรวจ
เรือเพื่อไทยมีอะไรมากกว่าที่เห็น และมื้อดินเนอร์รอบนี้อาจแค่จุดเริ่มต้น