ครบ 2 เดือนหลังเพื่อไทยจัดตั้งรัฐบาล ภายใต้การนำของ “เศรษฐา ทวีสิน” นายกฯ กับพรรคร่วมรัฐบาล “ไทยพีบีเอส ออนไลน์” สแกนผลงานรายพรรคที่ครองเก้าอี้กระทรวงสำคัญๆ
“ฟรีวีซา”เพื่อไทยก่อนเดินหน้านโยบายอื่น
พรรคเพื่อไทย เดินหน้าทำงานทันที ดังที่ นายเศรษฐา ทวีสิน นายกฯ เดินสายลงพื้นที่ทั้งไทยและต่างประเทศ เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ พร้อมผลักดันนโยบายฟรีวีซา ดึงนักท่องเที่ยวต่างชาติเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ โดยเริ่มจากฟรีวีซา ชาวจีน คาซัคสถาน และกำลังจะมี อินเดีย และไต้หวันที่ตามมา พร้อมด้วยนโยบายขยายเวลาปิดสถานบันเทิงถึงเวลา 04.00 น.ใน 4 จังหวัดนำร่อง ได้แก่ กรุงเทพฯ ภูเก็ต ชลบุรี เชียงใหม่
แต่ประเด็นที่ยังคงเป็นคำถามคือ นโยบายเงินดิจิทัล 10,000 บาท ที่หลายฝ่ายตั้งตารอว่าจะสะเด็ดน้ำเมื่อไหร่ รวมถึงการแก้ไขรัฐธรรมนูญ ที่คณะนี้ได้ตั้งคณะกรรมการศึกษาแนวทางทำประชามติ แก้รัฐธรรมนูญา โดยเดินหน้าพูดคุยกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องแล้ว
ส่วนกระทรวงกลาโหม ที่นายสุทิน คลังแสง รมว. กลาโหม ก็เดินหน้าแก้ปัญหาการจัดซื้อเรือดำน้ำ โดยเตรียมที่จะจัดซื้อเรือฟริเกตแทน
ฟากกระทรวงการต่างประเทศ นอกเหนือจากการเดินหน้าเจรจาการค้ากับต่างประเทศเพื่อเดินหน้าด้านเศรษฐกิจ นายปานปรีย์ พหิทธานุกรรมว.คมนาคม ก็ต้อง เร่งช่วยเหลือแรงงานไทยในอิสราเอลให้กลับไทยโดยสวัสดิภาพ ซึ่งถือเป็นหน้าตาของรัฐบาลโดยเฉพาะการแสดงฝีมือในงานด้านความมั่นคง
ไปที่ นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว รมว.สาธารณสุข ก็มีผลงานที่เรียกเสียงฮือฮาคือ การให้ผู้ครอบครองยาบ้าไม่เกิน 5 เม็ดเป็นผู้เสพ และต้องส่งตัวไปบำบัด ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างการจำรับฟังความคิดเห็น
ด้าน กระทรวงพาณิชย์ โดยนายภูมิธรรม เวชยชัย รมว.พาณิชย์ ก็พยายามลดภาระค่าใช้จ่าย โดยประกาศให้น้ำตายทรายเป็นสินค้าควบคุม ระยะเวลา 1 ปี ตรึงราคาขายอยู่ที่ กก.ละไม่เกิน 25 บ.
ฟากฝั่งกระทรวงคมนาคม ยังคงพยายามทำตามนโยบายที่ได้หาเสียงไว้ เช่น ค่าโดยสารลดไฟฟ้า 20 บาทตลอดสาย ที่ทำไปแล้ว 2 สายคือ รถไฟฟ้าสายสีแดงและรถไฟฟ้าสายสีม่วง ขณะที่สายอื่น ๆ ยังเตรียมการเจรจากับเอกชน
ขณะที่ กระทรวงวัฒนธรรม ที่ดูแลโดยนายเสริมศักดิ์ พงษ์พานิช รมว.วัฒนธรรม ก็ยังไม่มีบทบาทเด่นมากนัก แม้ว่า “รัฐบาลเศรษฐา” ทั้งนายเศรษฐา และ หัวหน้าพรรคเพื่อไทย อย่าง น.ส.แพทองธาร ชินวัตร จะพยายามเอ่ยถึง “ซอฟต์พาวเวอร์” ท่ามกลางกระแสหนัง “สัปเหร่อ” หรือ “มินต์ช็อก” แต่ก็ยังไม่เห็นภาพที่ชัดเจนนัก กับนโยบาย “1 ครอบครัว 1 ซอฟต์พาวเวอร์”
ลูกเขย “ชาดา”ปมร้อนเขย่าภูมิใจไทย
ขณะที่พรรคร่วมอย่างพรรคภูมิใจไทย โดยมีนายอนุทิน ชาญวีรกูล รับหน้าที่ มท.1 แต่ผมงานยังไม่เปรี้ยงปร้าง บทบาทล่าสุดคือการสนองนโยบายขยายเวลาปิดผีบ 04.00 น. แม้จะสื่อสารคลาดเคลอื่นไปเล็กน้อยก็ตาม
แต่ที่ค่อนข้างเป็นที่จับตามองเข้มข้น คือ “มท.3” นายชาดา ไทยเศรษฐ์ ที่ได้รับมอบหมายภารกิจปราบปรามผู้มีอิทธิพล แต่ก็มาโด่งดังเมื่อตำรวจ ปปป. เข้าคุมตัวนายวีระชาติ รัศมี นายกเทศมนตรีตำบลตลุกดู่ จ.อุทัยธานี ลูกเขยของนายชาดา ไทยเศรษฐ์ รมช.มหาดไทย กรณีเรียกรับเงินผู้รับเหมาก่อสร้าง 600,000 บาท ซึ่งนายชาดา ก็สั่งให้ลาออกจากตำแหน่งทันที
ส่วนรมว.ที่มีบทบาทโดดเด่นขึ้นมาบ้างก็คือ “พิพัฒน์ รัชกิจประการ” รมว.แรงงาน ที่ช่วยเหลือแรงงานไทยอย่างต่อเนื่อง และพร้อมเสนอ มาตรการเพิ่มเติมในการช่วยเหลืแรงงานไทย ทั้งให้เงินเยียวยาเพิ่มอีก 50,000 บาท การพักชำระหนี้ 3 ปี
ไม่ต่างจาก ศุภมาส อิศรภักดี รมว.อุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม ที่มีผลงานคือ การปล่อยดาวเทียมออส 2 และ การเตรียมขยับขยายมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลตะวันออก วิทยาเขตอุเทนถวาย ออกจากพื้นที่ ซึ่งมีเสียงคัดค้านจากนักศึกษาและศิษย์เก่า
เปิดศึก”เกาเหลา” กระทรวงเกษตรฯ
พรรคพลังประชารัฐ “ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า” เจ้ากระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ที่ประกาศเปลี่ยน ส.ป.ก.4-01 เป็นโฉนด ที่จะเป็นของขวัญปีใหม่ และเริ่มแจกได้ในกลาง ม.ค.67
แต่ที่ดูเหมือนว่า จะเป็นประเด็นที่ร้อนแรงกว่า คือ “เกาเหลา” ภายในกระทรวงเกษตรฯ โดยเฉพาะนายไชยา พรมหมา รมช.เกษตรฯ ที่ดูแลกรมปศุศัตว์ ที่มีผลงานในการจับหมูเถื่อนแต่ก็มามีข้อพิพาทภายในกระทรวงฯในกรณีการแต่งตั้งโยกย้าย ข้าราชการภายในกระทรวง
ขณะที่ พล.ต.อ.พัชรวาท วงษ์สุวรรณ รองนายกฯ และ รมว.ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ก็เดินหน้าแก้ไขปัญหาฝุ่น แต่อีกมุมก็ยังคงรับบทเตมีย์ใบ้ ไม่ค่อยพูดคุยกับสื่อมากนัก
“รทสช.” ลดราคาน้ำมัน ลดภาระประชาชน
ฟากพรรครวมไทยสร้างชาติ ก็เดินหน้าลดราคาพลังงาน โดยนายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค รองนายกฯ และ รมว.พลังงานได้ เสนอ ครม.ปรับลดราคาขายปลีกน้ำมันเบนซินแก๊สโซฮอล E10-91 ลง 2.50 บาทต่อลิตร เพื่อช่วยลดภาระให้ประชาชนเป็นที่เรียบร้อย และยังคงเดินหน้าปรับโครงสร้างพลังงานล้าหลัง
“มาตุภูมิ” ช่วยตัวประกันไทย
ขณะที่พรรคเล็กอย่าง พรรคมาตุภูมิ ก็เดินหน้าโชว์ผลงานโดยวันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานสภาฯ ด้วยการเดินอีกแนวทางส่งทีมเจรจานำโดยนานอารีเพ็ญ อุตรสินธุ์ ไปพูดคุยกับตัวแทนกลุ่มฮามาส เพื่อช่วยเหลือปล่อยตัวประกันชาวไทย พร้อมกลับมาแถลงต่อสื่อว่า ตัวประกันชาวไทยปลอดภัย และจะปล่อยตัวเมื่อปลอดภัยแล้ว
ขณะที่ นายวราวุุธ ศิลปอาชา รมว.พัฒนาสังคม กดปุ่มเงินอุดหนุนเพื่อการเลี้ยงดูเด็กแรกเกิดถึง 6 ปี ไปแล้วเมื่อ 18 ก.ย.ขณะที่ การเพิ่มเบี้ยยังชีพคนชราอีก 3,000 บาท นั้นจะทำได้หรือไม่ต้องดูงบฯว่าจะได้รับอนุมัติหรือไม่
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง
จับกระแสการเมือง 9 พ.ย.2566 “บิ๊กป๊อด” เสือยิ้มยาก รับไม้ “บิ๊กป้อม”คุมการเมือง
ศาลเลื่อนพิพากษาคดี “ยิ่งลักษณ์” ย้าย “ถวิล เปลี่ยนศรี” เป็น 29 พ.ย.