วันนี้ (13 ก.พ.2566) พรรคเพื่อไทย นำโดยนายวิชาญ มีนชัยนันท์ ประธานภาคกทม. พรรคเพื่อไทย, น.ส.ธีรรัตน์ สำเร็จวาณิชย์ โฆษกพรรคเพื่อไทย, นางสุภาภรณ์ คงวุฒิปัญญา ส.ส.เขตภาษีเจริญ พรรคเพื่อไทย ร่วมแถลงข่าว การเสนอรูปแบบการแบ่งเขตเลือกตั้งของพรรคเพื่อไทยในเขตพื้นที่ กทม.ต่อ กกต.
น.ส.ธีรรัตน์ ได้ทักท้วงการจัดทำรูปแบบ 5 รูปแบบที่มีมากไป และยังมีการทำเพิ่มอีก 3 รูปแบบ รวม 8 รูปแบบ ห่วงสร้างความสับสนกับประชาชนในเขตเลือกตั้ง ก่อนจะชี้ว่าเป็นการลากแบ่งเขตที่บิดเบี้ยว เป็นการแบ่งเขตที่ไม่เป็นไปตามธรรมชาติของแต่ละพื้นที่
การแบ่งเขตรูปแบบที่ 6-7-8 ไม่เป็นไปตาม พ.ร.ป.ว่าด้วยการเลือกตั้ง ส.ส. และไม่ได้อำนวยความสะดวกให้ประชาชนไปใช้สิทธิ และสร้างความลำบากให้เจ้าหน้าที่ในการจัดการเลือกตั้ง เพราะเขตปกครองที่ทำงานถูกแบ่งให้ไปใช้สิทธิเลือกตั้งอีกเขตการปกครองหนึ่ง
จึงเชื่อว่า จะก่อให้เกิดปัญหาตามมามากมาย และบัตรเสียเพิ่มมากขึ้น ไม่ส่งผลดีต่อระบอบประชาธิปไตย และยังทำให้ผู้สมัครเกิดความสับสนว่าเขตเดียวกันมีผู้สมัคร 2-3 คน ยังเห็นว่า การแบ่งเขตนี้จะเป็นการเลือกตั้งเกิดความบกพร่องมากที่สุดหรือไม่ ก่อนจะขอให้ทำตามกฎหมาย หลักความเป็นจริง และคำนึงถึงประโยชน์ประชาชน
ส่วนนายวิชาญ กล่าวถึงปัญหาการแบ่งเขตเลือกตั้งรูปแบบที่ 6-7-8 ว่า กทม.มี 33 เขตเลือกตั้ง จำนวนประชากร 5,490,000 กว่าคน โดยให้สมาชิกไปสอบถามความเห็นประชาชนโดยถือหลักกฎหมาย จาก 8 รูปแบบเขตเลือกตั้ง พรคเพื่อไทยเห็นว่า รูปแบบที่ 1 และ 2 มีความชัดเจนสอดคล้องตามกฎหมาย และไม่สร้างความสับสนต่อประชาชน
ส่วนแบบที่ 3-4-5 มี 20 กว่าเขตที่ไม่ต้องแบ่งเขต ส่วนแบบที่ 6-7-8 พิจารณาแล้วเชื่อว่าประชาชนจะสับสน เมื่อพิจารณาตามกฎหมายและประกาศ กกต.ชี้ว่าการแบ่งเขตของ กกต.อาจทำให้ประชาชนสับสนและเกิดบัตรเสียได้ พรรคเพื่อไทยยกตัวตัวอย่างเขตเลือกตั้งฝั่งธนเขตจอมทองที่ 24-27 แบบที่ 7 นั้น 1 เขตเลือกตั้ง มี ส.ส. 4 คน
และเขตเลือกตั้งที่ 11 แบบที่ 8 ส.ส. 1 คน ดูแลพื้นที่ 4 เขต พร้อมยกการแบ่งเขตปี 2562 มีการแบ่งเขตทับกัน ซึ่ง ผู้สมัคร ส.ส.พรรคเดียวกันคนละเบอร์ พรรคเดียวกัน ประชาชนยังเกิดความสับสน อย่างเขตเลือกตั้งที่ 16-17
นายวิชาญระบุว่า กกต.นำวิธีการต่าง ๆ มาแบ่งเขต เป็นความยุ่งยากลำบากทำให้เกิดความสับสน นำมาซึ่งปัญหาการตัดสินใจใช้สิทธิ โดยเฉพาะ กทม.อาจมีพรรคลงสมัครมากว่า 30 พรรค หากแบ่งเขตเป็นแขวง อาจเป็น ส.ส.แขวง ไม่ใช่ ส.ส.เขต เป็นมิติใหม่การแบ่งเขต พร้อมทำนายว่า หาก กกต.เคาะแบ่งเขตแบบ 6-7-8 จะเกิดบัตรเสียจำนวนมาก
นางสุภาภรณ์ ย้ำว่า การออกรูปแบบเลือกตั้งขัดต่อมาตรา 29 ของ พ.ร.ป.ว่าด้วยการเลือกตั้ง ส.ส.เช่นแบบที่ 6 มีการยกเขตปกครองเดิม 5 เขต แบบที่7 มีเขตปกครองเดิม 4 เขต และแบบที่ 8 ไม่ได้ยกเขตปกครองกลับมาเลย จึงถาม กกต.การแบ่งเขตคร่อม ทับซ้อนกันการทำงานระบบราชการยุ่งยาก
พร้อมยกเขตภาษีเจริญถูกแบ่งเป็น 3 เขตเลือกตั้ง ก่อนจะตั้งข้อสังเกตว่าการแบ่งเขตเลือกตั้งนี้ เชื่อว่ากำลังเป็นปัญหา และประชาชนกำลังถูกรัฐประหารจากการแบ่งเขตเลือกตั้ง
ทั้งนี้ พรรคเพื่อไทยเตรียมยื่นคัดค้านรูปแบบการแบ่งเขตเลือกตั้ง กทม.บ่ายนี้ ส่วนการชี้แจงของ กกต.ที่แบ่งเขตเลือกตั้งอ้างเฉพาะตัวจำนวนประชาชน รับฟังไม่ได้ ก่อนจะเรียกร้องกกต.แบ่งเขตอย่างเหมาะสมให้ประชาชนเดินทางสะดวก
