พรรคพลังปวงชนไทย
เพื่อคนไทยทั้งแผ่นดิน

'ประยุทธ์' ปิดจ๊อบอภิปราย 152 ย้ำเข้าใจหน้าที่ฝ่ายค้าน แต่เอาเรื่องดีๆ ไปบอกประชาชนบ้าง

📌’ประยุทธ์’ ปิดจ๊อบอภิปราย 152 ย้ำเข้าใจหน้าที่ฝ่ายค้าน แต่เอาเรื่องดีๆ ไปบอกประชาชนบ้าง ไม่ตำหนิใครแต่ต้องปรับตัว แง้มมีวันยุบสภาอยู่ในใจแล้ว ไม่ได้ถ่วงเวลารอ ‘รทสช.’ พร้อม

วันที่ 16 ก.พ. ที่อาคารรัฐสภา เวลา 21.34 น. พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม เดินทางกลับภายหลังเข้าร่วมการอภิปรายทั่วไปตามมาตรา 152 โดยได้กล่าวว่า ขอบคุณสื่อมวลชนที่อยู่เป็นกำลังใจให้นายกฯ ทุกอย่างเป็นไปด้วยความเรียบร้อย คงทราบอยู่แล้วแหละว่านายกฯ อยากทำทุกอย่างให้ประเทศไทยเดินหน้าไปต่อให้ได้ ทีนี้ก็แล้วแต่อนาคตแล้วกัน

สิ่งสำคัญที่สุดที่จะบอกกับพวกเรา พวกเราทุกคนทีมงาน ข้าราชการทั้งหมด ก็จะพยายามทำเต็มที่ แต่ปัญหามีความซับซ้อนกันอยู่หลายเรื่อง ต้องใช้เวลาแก้ไขกันมากพอสมควร จนถึงเป้าหมายที่ต้องการกว่า 100% ที่เราต้องทำ

“และสิ่งที่ผู้อภิปรายพูดมา 2 วัน หลายอย่างก็เป็นประโยชน์ หลายอย่างก็ฟังไป ส่วนที่เป็นประโยชน์ก็ไปปรับปรุงแก้ไขในหลายเรื่อง เราก็ต้องฟังเหตุผลทุกคนนั่นแหละ ก็ต้องอดทน ฟังเขาแล้วก็หาเหตุหาผล หาข้อเท็จจริง เพราะนายกฯ ตั้งใจทำเพื่อประชาชนทุกคนอยู่แล้ว และเพื่อประเทศชาติ ก็ต้องฟังเขา นี่เป็นสภาฯ ผมก็ให้เกียรติกับสภา”

ส่วนการประชุมร่วมกันของรัฐสภาพรุ่งนี้ (17 ก.พ.) จะมีการกำชับให้ ส.ส. ไม่ให้สภาล่มหรือไม่ พล.อ.ประยุทธ์ ตอบว่า ก็กำชับมาเสมอ ย้ำมาเสมอซึ่งตนก็บอกว่ากฎหมายสำคัญมีถึง 2-3 กฎหมาย ที่ควรต้องทำให้เสร็จในสมัยเรา วันนี้ตนก็พูดไปแล้ว ว่าทำหน้าที่ในฝ่ายบริหารเต็มที่แล้ว ต่อไปนี้ก็เป็นเรื่องของฝ่ายนิติบัญญัติต้องช่วยกัน กฎหมายบางตัวสำคัญ ถ้าไม่ออกในเวลานี้ก็จะทำให้ทุกอย่างล่าช้า กฎหมายหลายตัวทุกคนทราบดี ก็จะไม่เอ่ยชื่อว่ามีกฎหมายอะไรบ้าง อาทิ เรื่องประมง การศึกษา และกฎหมายกัญชา ซึ่งต้องทำทุกอย่างให้ปลอดภัย

เมื่อถามว่าให้คะแนนการการอภิปรายของฝ่ายค้านเท่าไหร่ พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า ไม่สามารถกำหนดให้ได้ เพราะไม่ได้ตั้งเกณฑ์ตรงนี้ไว้ รวมถึงไม่ได้ให้คะแนนตัวเอง ก็ขึ้นอยู่กับประชาชนที่ฟังอยู่ทางบ้าน หรือสื่อต่างๆ ก็ดูเอาเองก็แล้วกัน ต้องให้ความเป็นธรรมกับทุกคน และเข้าใจว่าทุกคนที่มีปรารถนาดี แต่ก็อาจมีความเข้าใจที่ไม่ตรงกันอยู่หลายเรื่อง ก็ต้องไปทำความเข้าใจระหว่างกันให้ได้ไม่งั้นก็ไม่สามารถเดินหน้าประเทศ พัฒนาไปข้างหน้าไม่ได้

“เราเริ่มกันมาเยอะแล้ว ใช้เวลาพอสมควรแล้วในการเริ่มต้นมา และจะให้สำเร็จ หลายอย่างก็ต้องทำ ต้องแก้ไข เพราะสถานการณ์เปลี่ยนแปลงทุกวันอยู่ตลอด และคน 66 ล้านคนก็ยังรอความหวังจากเรา ถ้าเราไม่ทำอะไรประเทศเราก็เดินทางต่อไม่ได้”

เมื่อถามว่าพร้อมเดินหน้าเข้าสู่การเลือกตั้งเต็มที่ใช่หรือไม่ พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า ก็ต้องทำตามหน้าที่ของเรา เราก็ยังเป็นนายกฯ อยู่ไม่ใช่หรือ ถึงจะเลือกตั้งแล้วเราก็ยังรักษาการอยู่ดี ก็ยังต้องทำงานเหมือนเดิม เปลี่ยนได้หลายอย่างที่ทำได้หรือไม่ได้ก็ต้องไปดูกฎหมายอีกครั้งหนึ่ง เพราะงานต้องทำอยู่แล้ว ประเทศชาติว่างเว้นการบริหารไม่ได้

ส่วนโปรแกรมการลงพื้นที่จะเข้มข้นกว่าเดิมหรือไม่ พล.อ.ประยุทธ์ ระบุว่า ถ้าบอกว่านายกฯ ลงไปหาเสียงทุกครั้งคงไม่ใช่ เพราะนายกฯ ก็ทำงานแบบนี้มาโดยตลอด คือการไปเยี่ยมและติดตาม ขออย่ามองว่าเป็นเรื่องการไปหาเสียงเลย ไปหาเสียงก็คงต้องมีนะ แต่คงไม่ได้เยอะมากมายอะไรหรอก

“ผมก็คิดว่าวันนี้สิ่งที่ทำก็เหมือนกับที่ประชาชนรับรู้รับทราบมาโดยตลอด เพราะไม่เคยปิดบังใคร การหาเสียงก็คือการหาเสียง แต่สิ่งสำคัญที่สุดอยากให้ทุกคนมองให้ด้วยสายตา ที่มองเห็นว่าสิ่งที่เกิดขึ้นวันนี้เป็นยังไง ไปเร็วแค่ไหน แล้วจะไปต่ออย่างไร ซึ่งเป็นเรื่องของประชาชนต้องตัดสินเอง”

พล.อ.ประยุทธ์ ระบุว่า การหาเสียงบางทีพูดไปก็ลำบาก ต้องพยายามทำให้การหาเสียงและนโยบายเป็นไปได้ และใช้งบประมาณที่มีอยู่อย่างจำกัดให้ได้ ต้องทำให้คนได้รับประโยชน์ไม่น้อยไปกว่าเดิม เพราะถ้าเราพูดเรื่องใหม่หมดว่าจะให้นู่นให้นี่ แล้วของเก่าจะเอามาจากที่ไหนให้เขา เพราะทุกคนต้องได้รับการดูแลหมดทุกช่วงวัย ซึ่งการใช้งบประมาณถือว่าอันตรายถ้าใช้ไม่ทั่วถึง เราต้องแยกให้ออกว่า อะไรคืองานโครงสร้างและงานช่วยเหลือประชาชน

เรื่องสาธารณสุขเราก็ดูแลมา และดีกว่าหลายประเทศ หลายประเทศก็ชื่นชม ตนไปเขาก็ชื่นชมทั้งเรื่องสาธารณสุข การท่องเที่ยวและเศรษฐกิจ ซึ่งก็ได้ถูกขับเคลื่อนในเวทีโลกมาแล้ว ถ้าเราเตรียมความพร้อมทั้งหมดให้ได้โดยเร็ว เพราะบางทียังติดกติกาอะไรหลายๆ อย่าง ยังห่วงวิตกกังวลก็ทำให้บางอย่างล่าช้า ซึ่งต่างประเทศบางอย่างเขาก็ทำได้ง่ายและเร็วกว่าเราเยอะ ถ้าเรามองแต่ตัวเราเอง จนไม่สามารถตัดสินใจได้ เขาก็ไปหมด เราก็ต้องหาทางให้ได้ ให้อยู่บนพื้นฐานของความเชื่อมั่นกันและกัน และผลประโยชน์ที่เท่าเทียม

ช่วยเอาสิ่งดีๆ ไปพูดให้ประชาชนรับรู้บ้าง

เมื่อถามว่า 28 ก.พ. นี้จะปิดสมัยประชุมสภาฯ มีอะไรฝากถึง ส.ส.ทั้งหลายหรือไม่ พล.อ.ประยุทธ์ บอกว่า ก็ฝากทุกคน เมื่อปิดสภาแล้วก็กลับบ้านไปหาเสียง อะไรก็ว่ากันไป ก็ขอให้ทุกคนปลอดภัยแล้วกันจะเดินทางไปหาเสียงหรืออะไรก็แล้วแต่ เพียงแต่ฝากไปว่าช่วยเอาสิ่งดีๆ ไปพูดให้ประชาชนรับรู้รับทราบด้วย เพราะสิ่งที่เราขาดคือการเข้าถึงการบริการภาครัฐ เราก็ชี้แจงไปทางสื่อบ้าง หรือการแถลงบ้าง แต่ยังไม่ถึงประชาชน ซึ่งสิ่งดีๆ มีแล้ว ดังนั้น เราเป็นผู้แทนกับประชาชนควรนำสิ่งเหล่านี้ไปขยายให้ประชาชนรับทราบบ้าง เพราะบางทีไม่เข้าใจกัน ก็จะรู้สึกว่าไม่ได้อะไรเลยซึ่งความจริงไม่ใช่

“หน้าที่มี 2 อย่าง ทั้งนิติบัญญัติ หน้าที่ของฝ่ายค้านซึ่งต้องเข้าใจว่ามันก็ต้องค้าน แต่อะไรที่เป็นประโยชน์บางเรื่องก็ควรพูดให้เกิดประโยชน์สิเพราะมันทำไปแล้ว กฎหมายหลายตัวให้คนเข้าถึง บอกเขา ถ้าถามอย่างเดียว จนไหม เงินพอไหม ถามอยู่แค่นี้ จริงๆ ต้องบอกว่ารัฐบาลทำอะไรไปบ้าง และเข้าถึงหรือยัง หรือถ้าหากมีอะไรเพิ่มเติมอยากให้รัฐบาลทำ ก็บอกมาแล้วกัน ซึ่งมันต้องเปลี่ยนวิธีการใหม่ในการสัมผัสกับประชาชน ผมไม่ตำหนิใครหรอก แต่เราต้องปรับตัวเองให้มากที่สุด เพื่อให้ทันต่อโลกภายนอก”

เมื่อถามว่าหากมีการเชิญร่วมเวทีดีเบต จะพร้อมหรือไม่ พล.อ.ประยุทธ์ ตอบว่า ก็ไม่รู้ ก็ดูโอกาส ดูความพร้อม ดูความเหมาะสมแล้วกัน เมื่อถามย้ำอีก จึงบอกว่า ก็ยังไม่ตัดสินใจนะ เพราะวันนี้คิดว่าเรื่องของการดีเบตก็คือการดีเบต ตนก็พูดแบบของตนทุกวันอยู่แล้ว และผลงานก็ปรากฏมาเยอะแยะแล้ว ผมไม่จำเป็น

เมื่อถามว่า ตอนนี้ดูเหมือนนายกฯ จะใจเย็นมากขึ้น พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า “ก็ทำใจให้ได้แล้วแหละ” และเมื่อถามว่า เป็นการเตรียมตัวให้เป็นสไตล์นักการเมืองใช่หรือไม่ พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า จะสไตล์อะไร ก็สไตล์ฉันนั่นแหละ พร้อมย้ำว่า อยากให้นักการเมืองทำการเมืองอย่างสร้างสรรค์ ซึ่งเป็นสิ่งสำคัญของประเทศไทย

เมื่อถามว่า วางวันยุบสภาฯ ไว้หรือยัง ใช่เดือน มี.ค.หรือไม่ พล.อ.ประยุทธ์ ระบุว่า ก็คงกำหนดไว้ในใจบ้างแล้วแหละ เมื่อถามยามว่ามีวันแล้วใช่หรือไม่ ได้ระบุว่า ก็ต้องคิดไว้ล่วงหน้าอะนะ

เมื่อถามต่อไปว่า จะเป็นสัปดาห์แรกของเดือน มี.ค. ใช่หรือไม่ นายกฯ ย้ำว่า ก็ยังอยู่ในใจ ก็ต้องตัดสินใจอีกครั้งหนึ่ง เพราะทุกอย่างก็ต้องมีการวางแผนของเราไว้ล่วงหน้าบ้าง

ส่วนเหตุผลของการตัดสินใจยุบสภาคืออะไร พล.อ.ประยุทธ์ ตอบว่า ก็เมื่อทุกคนทุกพรรค เขามีความพร้อม ก็ว่าไป ในส่วนของพรรครวมไทยสร้างชาติก็พร้อมอยู่แล้ว ตอนนี้ยังไม่เปิดตัวเท่านั้นเอง ก็พร้อมมาอยู่แล้ว แต่ยังไม่ได้ออกมาพูดอะไรมากนัก พร้อมย้ำว่า ไม่ใช่ตนถ่วงเวลาเพื่อให้พรรคที่ตนสังกัดพร้อม ซึ่งเขาก็ต้องพร้อมของเขา เพราะต้องรู้อยู่แล้วว่าจะอะไรเมื่อไหร่

หลังนายกรัฐมนตรีกำลังจะขึ้นรถ ถามว่าหากให้พูด 1 ประโยค ถ้าจะมีการนำไปสู่การเลือกตั้งล่วงหน้า จะอยากพูดอะไร พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า “ก็ให้เป็นการเลือกตั้งที่บริสุทธิ์และสร้างสรรค์นะจ๊ะ จะให้ทุกคนมองว่าประเทศชาติและประชาชนสำคัญที่สุดสำหรับทุกคน พี่จะช่วยกันทำให้บ้านเมืองนี้เดินไปข้างหน้าได้ อนาคตลูกหลานของท่านนะจ๊ะ”

ถามต่อไปว่า นายกฯ เองก็พร้อมรับทุกอย่างใช่หรือไม่ พล.อ.ประยุทธ์ ตอบว่า ก็พร้อมอยู่แล้วล่ะจ้ะ จากนั้น นายกฯ ได้ลดหน้าต่างลงก่อนรถจะเคลื่อนออกไป พร้อมพูดว่า “กู๊ดไนท์ เทคแคร์ มีความสุข นอนให้หลับสบายนะจ๊ะ” เมื่อสื่อมวลชนบอกให้ทำท่าวายทูเคหน่อย นายกฯ ยอมทำท่าดังกล่าว ขณะรถเคลื่อนออกไป

ทิ้งคำตอบไว้

อีเมล์ของคุณจะไม่ถูกเผยแพร่


This website uses cookies to improve your experience. We'll assume you're ok with this, but you can opt-out if you wish. Accept Read More