พรรคพลังปวงชนไทย
เพื่อคนไทยทั้งแผ่นดิน

พยาบาลเขียนจดหมายลาโลก ตัดพ้อชีวิตข้าราชการตัวน้อย ไร้ที่พึง ถูกคุกคาม

เพจเฟซบุ๊ก “N Haesol Athena Ammie” ซึ่งเจ้าของเฟซบุ๊ก เรียกชื่อตัวเองว่า “แป้ง” เขียนเล่าเรื่องราวในชีวิตจนต้องตัดสินใจเขียนจดหมายลาโลก ตัดพ้อชีวิตข้าราชการตัวน้อยไร้ที่พึ่ง ไม่มีทางออก ถูกคุกคาม ถูกกดดัน จนรู้สึกถึงความไม่ปลอดภัย

เพจเฟซบุ๊ก “N Haesol Athena Ammie” ซึ่งเจ้าของเฟซบุ๊ก เรียกชื่อตัวเองว่า “แป้ง” เขียนเล่าเรื่องราวในชีวิตจนต้องตัดสินใจเขียนจดหมายลาในครั้งนี้ มีเนื้อหาระบุว่า..

ชีวิตฉันเกิดมาเป็นชาวเขา พ่อแม่ฉันมีลูกหลายคน แต่พ่อแม่ฉันเลี้ยงดูพวกเรามาให้พวกเราทุกคนได้เข้ามาเรียนได้มีการศึกษา ฉันเป็นลูกสาวคนเล็ก ตอนเด็กๆฉันมักจะป่วยบ่อยๆไป รพ. มักจะโดนพยาบาลหรือผู้ช่วยพยาบาลดุด่า แม้เราในฐานะคนไข้จะไม่ได้ผิดอะไร แต่ก็ไม่เข้าใจก็โดนด่าอยู่ดี

แม่ฉันเลยบอกกับฉันว่าวันนึงถ้าลูกโตมาลูกต้องเป็นพยาบาลนะ แล้วลูกอย่าไปทำแบบนี้ที่เราโดนกับคนไข้ ฉันในวัยที่รู้ความแล้ว ฉันจำได้ขึ้นใจ

ในวัยประถมฉันตั้งใจศึกษาเล่าเรียนและได้ลำดับต้นๆของห้องมาตลอด จนฉันมาเรียนมัธยมต้นฉันโดนบูลลี่เรื่องรูปลักษณ์และชาติพันธุ์ เพื่อนๆล้อว่าฉันตาตี่ไม่สวยตัวเตี้ย บ้างก็ด่าว่าฉันนั่งหลับเหรอ ฉันโดนบูลลี่มาตลอด ฉันเคยกลับบ้านไปกอดแม่แล้วร้องไห้กับแม่เล่าสิ่งที่เจอที่ รร. ให้แม่ฟัง แม่บอกฉันสวยมากและน่ารักที่สุดในสายตาแม่ ฉันกลับไปเรียนโดนล้อโดนบูลลี่อยู่ตลอด

การเรียนฉันเริ่มดรอปลง จนวันปัจฉิมฉันเข้า รพ. ไม่ได้ปัจฉิมกับเพื่อน พอมาเรียน ม.ปลายเป็น รร. คริสเตียนแห่งหนึ่ง ฉันได้รับการยอมรับจากสังคมเพื่อนและไม่โดนบูลลี่ การเรียนฉันเริ่มดีกลับมา ฉันเข้าเรียนในสายวิทย์-คณิต เพราะฉันใฝ่ฝันจะเป็นพยาบาล ซึ่งตอนฉันใกล้จบทางบ้านมีปัญหาด้านการเงินแถมสุขภาพคุณพ่อคุณแม่ไม่ค่อยดี คุณพ่อคุณแม่ได้ให้ฉันเปลี่ยนความคิดและเรียนต่อเอกครุศาสตร์ เนื่องจากค่าเทอมพยาบาลสูง ต้องใช้เงินจำนวนมากในการเข้าศึกษาต่อ แต่ฉันก็ยังทิ้งความใฝ่ฝันในวัยเด็กไม่ได้นั่นก็คือพยาบาล

ฉันหาทุกวิถีทางจนมีอาจารย์ท่านนึงบอกว่าให้แอดมิชชันคณะพยาบาลของสถาบันพระบรมราชชนก เพราะเขามีทุนให้เรียน ในช่วงนั้นฉันปิดเทอมกลับบ้านไปอยู่บนดอยไม่มีสัญญาณโทรศัพท์ไม่มีอินเตอร์เน็ต ถ้าจะโทรศัพท์ต้องขับไปที่ๆจุดมีสัญญาณโทรศัพท์ แล้วฉันก็ได้ขอให้อาจารย์ท่านนี้แอดมิชชันให้ฉัน โดยฉันส่งรายละเอียดข้อมูลให้อาจารย์ทั้งหมด ทั้งผลคะแนนGAT-PAT คะแนนต่างๆ

ตอนนั้นฉันแอดติดเป็นเวชกิจฉุกเฉิน ส่วนพยาบาลติดตัวสำรองฉันจึงได้มาเรียนเวชกิจฉุกเฉินไป 1 ปี ระหว่างเรียนเวชกิจฉันก็ยังไม่ทิ้งความใฝ่ฝันในวัยเด็กฉันได้ไปสอบGAT PAT ใหม่แล้วยื่นแอดมิชชันใหม่อีกครั้ง ปีนี้สรุปฉันก็ติดแล้วได้เข้ามาเรียนพยาบาล ลำบากมากๆ วันที่ไปตรวจเลือดเพื่อยื่นเข้าเรียนที่ รพ. มหาราชนครเชียงใหม่

ฉันจำได้แม่กับฉันวิ่งตากฝนเพราะแต่ละตึกไกลและตอนนั้นในตกหนัก ด้วยเหตุที่เราไม่รู้ว่าทางแต่ละตึกไปทางไหนแถมถ้าเดินทางทางเดินในอาคารก็ไปถึงช้าเพราะตอนนั้นเวลาจะ 16:00 เราต้องรีบตรวจและรีบนำผลมา วันนั้นที่ช้าเพราะเราไปหลาย รพ. ไป รพ.นครพิงค์แต่เขาบอกรับตรวจ 20 คนต่อวันซึ่งเต็มแล้วให้ไปที่อื่น และพวกเราเลยต้องไปที่ รพ.มหาราช พอไปถึงคนไข้ก็เยอะ เลยทำให้ช้าลงไปและต้องวิ่งแข่งกับเวลา

พอมาเป็นพยาบาลฉันดีใจมากฉันตั้งใจเรียนเพื่อให้จบในระยะเวลาที่กำหนด พอเรียนจบ ฉันตั้งใจสอบให้ผ่าน 8 รายวิชา เพื่อให้ได้ใบประกอบวิชาชีพพยาบาลเพื่อมาทำงานได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ หลังจากเรียนจบฉันก็ตั้งใจหาช่องทางเพื่อสอบข้าราชการให้พ่อแม่ได้ภูมิใจ

จนวันนึงฉันก็สอบติดมาเป็นข้าราชการที่ รพ. แห่งหนึ่งในตัวเมืองเชียงใหม่ แต่แล้วฉันดีใจมากๆ แต่พ่อกับแม่ฉันกลับเป็นห่วงไม่อยากให้ฉันเข้ามาอยู่จุดนี้ เขาบอกที่เดิมที่ฉันอยู่ตอนจบใหม่นั้นลงตัวแล้ว แต่แล้วด้วยที่ฉันคิดว่านี่คือความใฝ่ฝันของฉันข้าราชการพยาบาล จนฉันมาบรรจุราชการทำงานผ่านไปหลายปี ฉันเจออุปสรรคมากมายฉันเรียนรู้ที่จะอยู่และอดทนปล่อยวาง

แต่แล้ววันนึงมีเหตุที่ไม่คาดคิด คือรถมอเตอร์ไซด์ของฉันที่จอดไว้ใน บ้านพัก รพ. ได้หายไป หลังจากตรวจเช็คหาจากบริเวณบ้านพักและเขต รพ. ไม่เจอ จึงได้ไปขอกล้องวงจรของพี่พยาบาลท่านนึงใน รพ. ตรงบริเวณที่ฉันจอดรถ พบว่า เป็นแฟนของเจ้าหน้าที่ตำแหน่งใหญ่ท่านนึงใน รพ. ดิฉันได้ติดต่อเขาและขอรถคืน

เขาบอกว่าเขาสั่งแฟนเขามาเอารถฉันไป เพราะเห็นจอดไว้นาน และเขาบอกว่าทีเเรกจะเอาไปขายทอดตลาด ซึ่งฉันรู้สึกไม่ดีเลย เครียดมาก

ฉันบอกพี่เขาว่าพี่ไม่มีสิทธิ์เอารถน้องไปไม่ว่าอะไร เพราะรถก็จอดถูกที่ถูกตำแหน่ง พี่เขาบอกว่าเขาเป็นตำแหน่งหัวหน้าพัสดุของ รพ. และแฟนเขาเป็นตำแหน่งสรรพสามิต เขาเลยมาเอารถของฉันไป ฉันบอกไม่ว่าด้วยอะไรเขาก็ไม่มีสิทธิ์เอารถไปไหน แต่แล้วเรื่องไม่ได้ง่ายอย่างที่คิดฉันได้รถคืน แต่ทุกอย่างมันแย่ เพราะฉันได้แจ้งความไปที่ สภ. และเวลาฉันไปขอความช่วยเหลือต่างๆจากทางอำนวยการ เช่นไปขอดูกล้องวงจรปิด แต่ทางอำนวยการให้ข้อมูลกลับไปมา และฉันขอให้ดำเนินการกับทางคู่กรณี

ตอนนี้ฉันเดือดร้อนหลายๆอย่าง ฉันขอความช่วยเหลือจากทางผู้ใหญ่ใน รพ. แต่ไม่ได้รับความช่วยเหลือ และฉันรู้สึกกังวลใจ หลังจากเหตุการณ์นี้ฉันโดนคู่กรณีคุกคามชีวิต ฉันได้แจ้งไปทางผู้ใหญ่ใน รพ. แต่แล้วได้รับการดูแล 1 เดือนครึ่ง

นอกจากนี้ฉันได้มีปัญหากับทางหน่วยงานซึ่งตลอดมาก็มีปัญหาหลายๆอย่างในหน่วยงาน ซึ่งมันสะสมจนวันนึงมีน้องในหน่วยงานมาเปิดประเด็น และฉันได้เกิดเรื่องในหน่วยงาน ฉันเขียนย้ายแผนกแต่ไม่ได้รับการย้าย ฉันเครียดสะสมหนักมากขึ้นเรื่อยๆทุกวัน หลายๆเรื่อง นอนไม่หลับ ทั้งหวดระแวง กลัวโดนทำร้ายจากคู่กรณี อีกทั้งมีปัญหาในหน่วยงาน

ฉันได้ส่งจดหมายทางเมลไปถึงอธิบดี เนื่องจากทั้ง ผอ. และผู้ใหญ่ใน รพ. ฉันได้ดำเนินการไปแล้วแต่เรื่องเงียบ ทุกๆวันฉันหวาดระแวงและเครียดนอนไม่หลับ จนมีวันนึงฉันนั้นโดนเรียกไปพบผู้ใหญ่ใน รพ. และถูกกดดันหลายอย่าง ฉันรู้สึกถึงความไม่ปลอดภัยและความกดดันที่ไม่มีทางออก ทั้งในหน่วยงานและเรื่องต่างๆ

ในวันนี้ฉันขอจบชีวิตลงเพื่อยุติความอยุติธรรมและทางออกต่างๆ ฉันไม่อยากรับผลกระทบต่างๆที่จะเกิดขึ้นหลังจากนี้ ทั้งความก้าวหน้าในหน้าที่การงานและงานที่ฉันทำ เพราะตอนนี้เหมือนฉันไม่ได้ต่อสู้กับคู่กรณีคนเดียว #RIPชีวิตราชการตัวน้อย

กว่าจะมาเป็นพยาบาล #ลูกขอโทษด้วยนะแม่ ลูกทนแรงกดดันไม่ไหว ลูกไม่มีทางออก มีปัญหาในหน่วยงานแต่ผู้ใหญ่ให้อยู่ที่เดิมเพราะมีคนอยากไปแผนกที่ลูกเขียนย้ายโดยไม่มองปัญหาน้อยใหญ่ที่เกิดขึ้น ลูกหวังว่าต่อไปจะไม่เกิดเหตุการณ์แบบนี้กับที่อื่นอีก

#ราชการชั้นผู้น้อยที่ไม่มีที่พึ่งอีกแล้ว

#ลูกรักแม่ ขอโทษด้วยนะแม่แล้วลูกจะตอบแทนคุณในชาติหน้า

#คนที่รอเหยียบหยามซ้ำเติมเชิญเลยเต็มที่ค่ะแป้งถอยแล้ว

#ทุกคนชนะแล้ว

#พวกคุณจะไม่มีวันได้แกล้งฉันอีก

ขณะที่ ในจดหมายลาที่เขียนและโพสต์ประกอบข้อความ มีรายละเอียดดังนี้..

ก่อนอื่นนั้นตัองขอโทษคุณพ่อ คุณแม่ด้วย ที่ลูกไม่อาจตอบแทน พระคุณคุณพ่อคุณแม่ ลูกอกตัญญูที่ต้องทำแบบนี้ ลูกไม่มีทางออกจริงๆ ลูกพยายามอดทน แและเข้มแข็งที่สุดแล้ว ตั้งแต่เกิดเหตุกรณ์ต่างๆมากมายในชีวิตลูก ลูกพยายามทำทุกอย่างให้มันดี ปัญหาครั้งนี้มันหนักหนาจริงๆ ปัญหาจากทุกๆด้าน

ตั้งแต่ 13/11/65 วันที่เริ่มรู้ว่า รถหาย ชีวิตลูก ก็แย่ลงทุกวัน มีปัญหากับคู่กรณีที่เอารถไปไม่พอ ยังต้องมามี ปัญหากับผู้หลัก ผู้ใหญ่ในหน่วยงาน และเพื่อนร่วมงาน

ขอเขียนย้าย แผนกก็ไม่ไศรับกาช่วยเหลือ ผู้ใหญ่ มองว่า ถ้าให้ แป้ง ย้าย ต่อไปจะเกิดกณีแบบนี้ตาม คือ เขียนย้ายเนื่อวจากถูกกดดันจากเพื่อนร่วมงาน เขาให้ ลูก อยู่ที่เดิม และให้ปรับตัว

แต่ปัญหาที่มามีมากมาย แป้งไม่ได้เป็นคนก่อ จะให้แป้งปรับตัวและอยู่ในสิ่งแวดล้อมแบบนี้ แป้งพยายามแล้ว แต่ใครจะรู้ว่ามันกดดันมากแค่ไหน

ทุกวันนอนไม่หลับ ต้องใช้ยาเพื่อให้ตัวเองหลับไปในทุกวัน แป้งไม่ไหวแล้วจริงๆ ( หลายคนแนะนำให้ ย้าย รพ. แต่พวกเขารู้ใหม คนที่ไม่ได้มีเส้นแบบแป้ง จะทำได้อย่างไร คำพูดเหล่านี้ดังอยู่ในหัวทุกวัน)

ลูกไม่มีทางออกแล้วจริงๆ เดิมที่แล้ว ลูกยังอยากรอทำชำนาญการให้เสร็จ ให้พ่อแม่ได้ภูมิใจ (ลูกรู้ป๋ากับม๊าไม่ต้องการตำแหน่งพวกนี้) แต่ชีวิตนี้ลูกเคยสัญญากับตัวเองว่า จะเป็นพยบาลที่ดี จะทำให้พ่อแม่ภูมิใจ แต่แล้ว ลูกทนแรงกดดันเหล่านี้ ไปไหว แล้วจริงๆ ลูกไม่มีทางออกแล้วจริงๆ ลูกไม่อยากโดนใครเหยียดหยาม ลูกไม่อยากโดนกระทำไม่ว่าด้วยเรื่องอะไรอีก

เรื่องราวต่างๆที่ลูกเจอมาตลอลระยะเวลาหลายปี ลูกได้บอกกับ ทางผู้ใหญ่ ใน รพ. แล้ว แต่ไม่มีทางออก ถ้าหากชาติหน้ามีจริง ลูกจะขอ มาตอบแทน คุณพ่อ คุณแม่

จริงๆ ถ้าลูกอยู่ต่อ ปีนี้ความฝันสูงสุดของลูก ที่จะมอบให้ ก็สำเร็จ นั่นก็คือ พยาบาลวิชาชีพชำนาญการ แต่แล้วปัญหาก็มีมากมาย ปัญหาทั้งหมดที่เกิดขึ้นลูกไม่ได้เริ่ม คืนนี้ลูกมาขึ้นเวรดึกคืนสุดท้ายแล้ว เวลานี้ 03.03 น. 20 ก.พ. 2566 ลูกขอโทษ แม่ไม่ต้องร้องไห้นะ ลูกอยากในแม่รู้ว่า ลูกรักแม่ค่ะ

ทิ้งคำตอบไว้

อีเมล์ของคุณจะไม่ถูกเผยแพร่

This website uses cookies to improve your experience. We'll assume you're ok with this, but you can opt-out if you wish. Accept Read More