พรรคพลังปวงชนไทย
เพื่อคนไทยทั้งแผ่นดิน

รอลุ้นประกาศยุบสภา! ก่อนกกต.ชี้ชะตา ”ไตรรงค์” รอดหรือร่วง

ความวัวยังไม่ทันหาย หลัง นายไตรรงค์ สุวรรณคีรี ประธานที่ปรึกษาพรรครวมไทยสร้างชาติ(รทสช.) กล่าวบนเวทีปราศรัยใหญ่ ที่สนามหน้าศาลากลาง จ.นครราชสีมา เมื่อวันที่ 26 ก.พ.2566 ตอนหนึ่งว่า

“พระพุทธเจ้าตรัสเอาไว้ว่า ความกตัญญูกตเวทีเป็นคุณสมบัติของคนดี พวกเราเป็นคนดีใช่ไหมพี่น้อง เราต้องไม่ลืมบุญคุณบรรพบุรุษใช่ไหมพี่น้อง ต้องรักษาประเทศนี้เอาไว้ให้อยู่ให้ดีที่สุด ใช่ไหมครับพี่น้อง ร.9 ตรัสเอาไว้ว่า จงเลือกคนดีปกครองประเทศเท่านั้น ผมเองไม่เล่นแล้วการเมือง แต่ผมมาช่วยบิ๊กตู่ (พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา) เพราะเห็นว่าเขาเป็นคนดี ผมดูแล้วหัวหน้าพรรคทั้ง หลายเนี่ยไม่มีใครดีเหนือกว่าบิ๊กตู่หรอก ถ้าเราอยากได้รัฐบาลที่ดีตามที่ ร.9 ทรงประสงค์นั้นให้เลือกพรรคเพื่อไทย … ”

ความควายก็เข้ามาแทรก เมื่อ นายศรีสุวรรณ จรรยา เลขาธิการสมาคมองค์การพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทย เข้ายื่นคำร้องต่อคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) เพื่อขอให้ไต่สวนและวินิจฉัยว่า คำปราศรัยหาเสียงของนายไตรรงค์ ในวันดังกล่าว ที่นำสถาบันพระมหากษัตริย์มาเกี่ยวข้องกับการหาเสียงเลือกตั้งเข้าข่ายฝ่าฝืนกฎหมายเลือกตั้งหรือไม่

โดยเฉพาะการฝ่าฝืน ข้อ 17 ของระเบียบคณะกรรมการการเลือกตั้งว่าด้วยวิธีการหาเสียงและลักษณะต้องห้าม ในการหาเสียงเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร 2561 หรือไม่ที่กำหนดไว้ชัดเจนว่า ห้ามผู้สมัครพรรคการเมือง หรือผู้ใดนำสถาบันพระมหากษัตริย์มาเกี่ยวข้องกับการหาเสียงเลือกตั้ง

ประกอบกับ ม.73(5) ของ พรป.ว่าด้วยการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร 2561 ห้ามมิให้ผู้สมัครหรือผู้ใดกระทําการอย่างหนึ่งอย่างใดเพื่อจูงใจให้ผู้มีสิทธิเลือกตั้ง ลงคะแนนให้แก่ตนเองหรือผู้สมัครอื่นด้วยวิธีการจูงใจให้เข้าใจผิดในคะแนนนิยมของผู้สมัครหรือพรรคการเมือง

รอลุ้นประกาศยุบสภาก่อนกกต.ชี้ชะตา

เช่นเดียวกับ นายสมชัย ศรีสุธิยากร ประธานยุทธศาสตร์ขับเคลื่อนนโยบายพรรคเสรีรวมไทย ในฐานะอดีตคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) มองว่า ขณะนี้ ระเบียบคณะกรรมการการเลือกตั้งว่าด้วยวิธีการหาเสียงและลักษณะต้องห้ามในการหาเสียง ส.ส. ของ กกต. บังคับใช้อยู่ โดยระเบียบข้อ 17 ระบุไว้ชัดเจนว่าห้ามผู้สมัคร นำสถาบันพระมหากษัตริย์มาเกี่ยวข้องกับการหาเสียง

และในวันพรุ่งนี้ (3 มี.ค) จะนำเรื่องดังกล่าวร้องเรียนต่อ กกต.เนื่องจากขณะนี้อยู่ระหว่างช่วงเวลา 180 วันก่อนสภาฯครบอายุ และกรณีนี้ เอาผิดถึงขั้นยุบพรรค ตามมาตรา 92 พ.ร.บ.พรรคการเมือง เพราะถือว่าเป็นการกระทำที่เป็นปฏิปักษ์ต่อระบอบไตย

ขณะที่นายไตรรงค์ มองว่า ระเบียบของกกต.จะใช้เฉพาะเมื่อมีการประกาศพระราชกฤษฎีกาให้มีการเลือกตั้ง หลังการยุบสภา ดังนั้นการนำกฎข้อบังคับที่ใช้สำหรับในการปราศรัยหาเสียงมาบังคับใช้ก่อนจึงเป็นสิ่งที่ไม่ถูกต้อง ซึ่งกกต. ต้องอธิบายกรอบให้ชัดเจน และให้คำจำกัดความว่าได้แค่ไหน

นอกจากนี้ กกต.ต้องชี้แจงให้ชัดเจนในกฎข้อบังคับว่า การห้ามนำสถาบันพระมหากษัตริย์มาใช้ในการหาเสียง หมายถึงอะไร เพราะสถาบันพระมหากษัตริย์ มีมาตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน จุดตัดอยู่ตรงไหน

ต้องจับตาดูว่าช่วงที่ กกต.อยู่ระหว่างการตรวจสอบเรื่องดังกล่าว พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ในฐานะสมาชิกพรรครวมไทยสร้างชาติ จะประกาศยุบสภาในเร็วๆนี้หรือไม่

หากยุบสภาระหว่างที่ กตต.กำลังตรวจสอบเรื่องของนายไตรรงค์ ความผิดทั้งหมดถือว่าเป็นโมฆะ เป็นการล้างไพ่ใหม่หมด เข้าสู่โหมดการเลือกตั้งปกติ แต่หากยังไม่ประกาศยุบสภา กกต.จะต้องเดินหน้าตรวจสอบ ช้ดุลยพินิจพิจารณาว่าเข้าข่ายการกระทำความผิดหรือไม่

และกรณีที่กกต.วินิจฉัยว่าเป็นการฝ่าฝืนจริงก็อาจเข้าข่ายความผิดตาม ม.159 ของ พรบ.เลือกตั้ง ส.ส.ต้องระวางโทษจําคุกตั้งแต่ 1–10 ปี หรือปรับตั้งแต่ 2 หมื่นบาทถึง 2 แสนบาท หรือทั้งจําทั้งปรับ และให้ศาลสั่งเพิกถอนสิทธิเลือกตั้งของผู้นั้นมีกําหนด 20 ปี

ต้องรอลุ้นว่าสิ่งใดจะเกิดขึ้นก่อนกัน เพราะหมายถึงอนาคตทางการเมืองของพรรครทสช.และนายไตรรงค์เจ้าของฉายา”สามสี ภูเขาทอง”ด้วย

ทิ้งคำตอบไว้

อีเมล์ของคุณจะไม่ถูกเผยแพร่

This website uses cookies to improve your experience. We'll assume you're ok with this, but you can opt-out if you wish. Accept Read More