พรรคพลังปวงชนไทย
เพื่อคนไทยทั้งแผ่นดิน

กลัวโดนตัดสินมากกว่ากลัวโควิด-19 ญี่ปุ่นไม่ถอดหน้ากาก แม้ รบ.ยกเลิกแนวทาง

รัฐบาลญี่ปุ่นผ่อนปรนแนวทางการสวมหน้ากาก เพื่อป้องกันการระบาดโควิด-19 เมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา (13 มี.ค.) แต่ยังคงแนะนำให้ประชาชนสวมหน้ากาก เฉพาะบนรถไฟที่มีผู้คนพลุกพล่าน และในโรงพยาบาลหรือบ้านพักคนชรา อย่างไรก็ดี กลับมีประชาชนเพียงบางตาที่ตัดสินใจไม่สวมหน้ากากอนามัยกันต่อ

ก่อนหน้านี้ ญี่ปุ่นไม่เคยบังคับประชาชนให้สวมหน้ากากอนามัย แต่ผู้อยู่อาศัยในญี่ปุ่นได้ปฏิบัติตามแนวทางการสวมใส่หน้ากากอนามัยในที่ร่มและที่กลางแจ้ง ตั้งแต่ช่วงแรกๆ ของการแพร่ระบาดของโควิด-19 ทั้งนี้ การสวมหน้ากากอนามัยในที่สาธารณะ ยังเป็นสิ่งที่พบเห็นได้ทั่วไป แม้กระทั่งช่วงก่อนเกิดโควิด-19 ระบาดในช่วงฤดูหนาวและฤดูที่มีไข้ละอองฟาง

ญี่ปุ่นกลายมาเป็นหนึ่งในประเทศสุดท้ายในเอเชีย ที่ยุติคำแนะนำการสวมหน้ากากทั่วทั้งประเทศ อย่างไรก็ดี ในเช้าวันจันทร์ที่ผ่านมา ผู้โดยสารระบบขนส่งมวลชนส่วนใหญ่ยังคงปกปิดใบหน้าด้วยหน้ากากอนามัย ทั้งบนรถไฟและสถานที่กลางแจ้ง

“ผมคิดว่าผมจะสวมหน้ากากต่อไปในตอนนี้” ทัตสึฮิโกะ โอฮาชิ วัย 46 ปี กล่าวกับสำนักข่าว AFP ระหว่างเดินทางไปทำงาน นอกสถานีรถไฟชินากาวะที่พลุกพล่านของกรุงโตเกียว โดยโอฮาชิยังคงมี “ความกลัวเล็กน้อย” ต่อโควิด-19 และกังวลว่าการได้รับเชื้อโดยไม่รู้ตัวจะ “เสี่ยงที่จะทำให้คนรอบข้างได้รับความไม่สะดวก”

รัฐบาลญี่ปุ่นหลีกเลี่ยงการล็อกดาวน์และข้อจำกัดที่รุนแรงอื่นๆ ในช่วงการระบาดใหญ่ และมีอัตราการสูญเสียจากการระบาดของโควิด-19 ต่ำกว่าประเทศอื่นๆ ทั้งนี้ ญี่ปุ่นมีผู้เสียชีวิต 73,199 รายในประชากรที่มีมากกว่า 125 ล้านคน โดยผู้สังเกตการณ์บางคนยกให้เป็นผลของความสำเร็จ ที่ได้มาจากการสวมหน้ากากอนามัย และมาตรการสมัครใจอื่นๆ ควบคู่ไปกับการปิดพรมแดนอย่างเข้มงวด 

อย่างไรก็ดี รัฐบาลญี่ปุ่นกระตือรือร้นที่จะค่อยๆ ทำให้ประเทศกลับเข้าสู่ภาวะปกติ อีกทั้งการเปิดพรมแดนอีกครั้ง และหาทางกระตุ้นเศรษฐกิจ โดยปัจจุบัน ญี่ปุ่นมีรายงานผู้ติดเชื้อโควิด-19 ราว 7,000 รายทั่วประเทศ และภาคธุรกิจส่วนใหญ่กล่าวว่าจะปล่อยให้ลูกค้าเป็นผู้ตัดสินใจว่า พวกเขาจะสวมหน้ากากหรือไม่ แม้ว่าพนักงานจะยังคงสวมหน้ากากอยู่ก็ตาม

ฮาจิเมะ ยามากูชิ ศาสตราจารย์ด้านจิตวิทยาแห่งมหาวิทยาลัยเจเอฟโอเบอร์ลินในกรุงโตเกียว กล่าวว่า ไม่น่าเป็นไปได้ที่ชาวญี่ปุ่นจำนวนมากจะเลิกสวมหน้ากากอย่างรวดเร็ว “ชาวญี่ปุ่นกังวลอย่างมากเกี่ยวกับสิ่งที่คนอื่นคิด และกลัวว่าจะถูกตัดสิน หากพวกเขาเป็นคนแรกที่ถอดหน้ากากออก” ยามากูชิกล่าวกับสำนักข่าว AFP 

“พวกเขาจะเฝ้าดูสิ่งที่คนอื่นทำ และค่อยๆ ถอดหน้ากากทีละนิด” ยามากูชิกล่าวเสริม พร้อมตั้งข้อสังเกตว่าฤดูเกสรดอกไม้ที่เลวร้ายเป็นพิเศษในปีนี้ ทำให้มีแนวโน้มว่าการสวมหน้ากากจะยังคงมีอยู่ไปจนถึงเดือน พ.ค.เป็นอย่างน้อย

ครึ่งหนึ่งของประชาชนที่ตอบแบบสำรวจเมื่อเดือน ก.พ. โดยสถานีโทรทัศน์แห่งชาติ NHK กล่าวว่า พวกเขาจะยังคงสวมหน้ากากต่อไป แม้ว่าคำแนะนำของรัฐบาลจะผ่อนคลายลง ในขณะที่ประชาชนผู้เข้าร่วมการสำรวจ 38% กล่าวว่า พวกเขาคาดว่าจะถอดหน้ากากออกบ่อยขึ้น

“ผู้คนจำนวนมากเริ่มรู้สึกสบายใจมากขึ้นหลังสวมหน้ากาก โดยตระหนักดีว่าการสื่อสารโดยไม่เปิดเผยใบหน้านั้น สร้างความมั่นใจได้มากเพียงใด” ยามากูชิกล่าวเสริม

ถึงกระนั้น มีผู้โดยสารจำนวนหนึ่งที่ยอมรับกฎใหม่ ซึ่งรวมถึง ฮิโรมิ มิตซูอิ วัย 49 ปี “ถ้าไม่ใช่ข้อผูกมัด ก็ไม่มีปัญหาในการถอดหน้ากาก มันเป็นเสรีภาพของแต่ละคน” มิตซูอิกล่าว “ใครที่อยากจะสวมมันก็ทำได้ ส่วนคนอื่นๆ ไม่จำเป็นต้องใส่ก็ได้ ถ้าเราเคารพซึ่งกันและกันก็ไม่มีปัญหา”

ฟูมิโอะ คิชิดะ นายกรัฐมนตรีญี่ปุ่น เดินทางมาถึงทำเนียบรัฐบาลในเช้าวันจันทร์เป็นครั้งแรกโดยไม่สวมหน้ากากอนามัย ทั้งนี้ รัฐบาลของคิชิดะวางแผนที่จะลดระดับการจำแนกประเภทของโควิด-19 ลงเหลือระดับเดียวกับไข้หวัดใหญ่ ตั้งแต่ต้นเดือน พ.ค.เป็นต้นไป

ทิ้งคำตอบไว้

อีเมล์ของคุณจะไม่ถูกเผยแพร่

This website uses cookies to improve your experience. We'll assume you're ok with this, but you can opt-out if you wish. Accept Read More