พรรคพลังปวงชนไทย
เพื่อคนไทยทั้งแผ่นดิน

'ณัฐวุฒิ' เชื่อ รทสช. ตั้งแคนดิเดตนายกคู่ หาทางลงให้ 'ประยุทธ์' หากคะแนนไม่ถึงฝัน

“ณัฐวุฒิ” เชื่อ “รวมไทยสร้างชาติ” เปิดแคนดิเดตนายกฯสองคน ไม่กระทบแลนด์สไลด์เพื่อไทย เปรียบเหมือนมวยออกอาการ “ประยุทธ์” หาทางลง เย้ย แกนนำมีแต่คนหมดฟอร์ม คงไม่สามารถสร้างความเชื่อมั่นเพิ่มได้

ณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ ผู้อำนวยการครอบครัวเพื่อไทย กล่าวภายหลังพรรครวมไทยสร้างชาติเปิดตัวแคนดิเดตนายกรัฐมนตรี 2 รายชื่อ โดยพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา ในฐานะประธานคณะกรรมการกำหนดแนวทางและยุทธศาสตร์พรรค เป็นลำดับที่หนึ่ง และพีระพันธ์ สาลีรัฐวิภาค ในฐานะหัวหน้าพรรคเป็นลำดับที่สอง ซึ่งเชื่อว่าเรื่องนี้ไม่ได้เป็นสิ่งที่คิดกันไว้ แต่เป็นการตัดสินใจในช่วงท้ายๆ เพราะก่อนหน้านี้ไม่มีกระแสข่าวว่าจะมีแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีคนอื่นนอกจากพลเอกประยุทธ์ สถานการณ์อาจมาถึงจุดที่พลเอกประยุทธ์ขาดความมั่นใจจะมีคะแนนเสียงเพียงพอจัดตั้งรัฐบาลได้

โดยเฉพาะท่าทีของรองนายกรัฐมนตรี พลเอกประวิตร วงษ์สุวรรณ ในฐานะหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ แสดงออกชัดเจนว่าหากใครมีคะแนนเสียงมากกว่าจะไม่ยอมให้ใครรวมถึงพลเอกประยุทธ์ เป็นนายกรัฐมนตรี ดังนั้นการเสริมพีระพันธ์เข้ามาอาจทำให้ภาพของพรรครวมไทยสร้างชาติดูเข้มแข็งขึ้น อีกทั้งเหมือนเป็นการส่งสัญญาณเผื่อเหลือเผื่อขาด ว่าหากเลือกพลเอกประยุทธ์เป็นนายกรัฐมนตรี ท่านจะทำงานได้อีกเพียงแค่ 2 ปีเท่านั้น แม้ว่าสมาชิกวุฒิสภาบางส่วนมีความพยายามแก้ไขให้พลเอกประยุทธ์ได้อยู่ต่อก็ตาม แต่ในสนามเลือกตั้งคงอธิบายกับประชาชนยากเลยเอาพีระพันธ์มาอุดช่องว่างส่วนนี้

ณัฐวุฒิ ยังตั้งข้อสังเกตเหมือนเป็นการเตรียมตัวถอย หาทางลงของพลเอกประยุทธ์ด้วย เพราะหากพรรครวมไทยสร้างชาติไม่ได้จัดตั้งรัฐบาล และตัวพลเอกประยุทธ์ไม่ได้เป็นนายกรัฐมนตรี ตนก็ไม่เชื่อว่าพลเอกประยุทธ์จะมาทำงานในฐานะฝ่ายค้านอย่างแน่นอน ซึ่งหากมีแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีพรรคเพียงคนเดียวก็จะทำให้พรรคหมดแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีไปอีก 4 ปี ก่อนเชื่อว่าจะไม่มีผลต่อการตัดสินใจเลือกของประชาชน เหมือนเป็นการแก้เกมภายในกันมากกว่า 

ผู้อำนวยการครอบครัวเพื่อไทย ย้ำว่ากรณีดังกล่าวจะไม่กระทบต่อเป้าหมายแลนด์สไลด์ของพรรคเพื่อไทย ก่อนเปรียบหากเป็นภาษามวยคือ “มวยออกอาการ” ประชาชนคงไม่เลือกเพิ่มขึ้น 

ส่วนการที่บรรดานักการเมืองแห่ย้ายเข้าพรรครวมไทยสร้างชาตินั้น ณัฐวุฒิ มองเราจะชี้วัดด้วยปริมาณคงไม่ได้ แต่ในเชิงคุณภาพเราจะเห็นบรรดาแกนนำของพรรคนั้น “ไม่มีนักการเมืองที่อยู่ในช่วงท๊อปฟอร์ม” ขณะที่ทีมเศรษฐกิจพรรค ก็ไม่ได้สร้างความเชื่อมั่นเพิ่มได้เลย เพราะที่ผ่านมาทีมเศรษฐกิจที่มีชื่อสุพัฒนพงษ์ พันธ์มีเชาว์มาร่วมงานคนยังแทบไม่รู้จัก ดังนั้นตนจึงไม่เชื่อว่าการเปิดตัวนักการเมืองมากมายจะมีพลังเพิ่มขึ้น

ทิ้งคำตอบไว้

อีเมล์ของคุณจะไม่ถูกเผยแพร่

This website uses cookies to improve your experience. We'll assume you're ok with this, but you can opt-out if you wish. Accept Read More