พรรคพลังปวงชนไทย
เพื่อคนไทยทั้งแผ่นดิน

เจาะมุมสบายๆ สไตล์ “ลุงตู่ ”

บุคลิกภาพสะท้อนตัวตน ฉันใด “ลุงตู่” พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา รักษาการนายกรัฐมนตรี แคนดิเดตนายกฯ พรรครวมไทยสร้างชาติ (รทสช.) ที่คนมักคุ้นบอกเสียงเดียวกันว่า คือ “ลุงตู่” มาดเข้มที่ไม่เคยทิ้งบุคลิกเดิม

แม้จะเข้าสู่โหมดการเมือง ชีวิตส่วนตัวเปลี่ยน เวลาน้อยลง แต่ตัวตนไม่เคยเปลี่ยน “ลุงตู่” บอกกับไทยพีบีเอสออนไลน์ ว่า ปกติเป็นคนยิ้มง่าย และชอบยิ้ม บางทีลงไปชั้นล่างตึกทำเนียบ เจอกับคำถามนักข่าว ทำให้หงุดหงิดขึ้นมา และเมื่อมาถึงห้องก็แอบยิ้ม หัวเราะกับตัวเอง

“ยิ้ม” เพราะเมื่อกี้ ไปด่าเขามาใช่หรือไม่? ลุงตู่ บอกว่า ไม่ใช่ ไม่ได้เรียกว่าด่า บางทีก็หงุดหงิดเพราะถูกถามวนไปวนมา ทั้ง ๆ ที่ตอบไปแล้ว แต่ลืมไปว่าคนดูทีวี คือ ประชาชนข้างนอก และมีการปรับตัวไปบ้างแล้ว

“โมโหมาก ๆ บางทีก็ไม่ใช่เรื่อง เป็นคนบ้าหรือไง โมโหทั้งวัน ใครจะบ้าล่ะ”

เมื่อถูกถามว่า รู้ตัวแบบนี้ ถูกที่บ้านบ่น หรือไม่

พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า ถูกบ่นว่าพูดแรงไปหน่อย ทำไมต้องไปดุเขาล่ะ แม้จะชี้แจงว่า ถ้าไปยืนข้าง ๆ เราจะรู้สึกอย่างไร แต่ที่บ้านก็บอกไม่ต้องพูด เขาก็บอกว่า อย่าไปรับเรื่องพวกนี้เข้ามา ความโกรธ โมโห ไปรับขยะเข้ามาในตัวทำไม

ส่วนการดูแลตัวเองช่วงที่ต้องออกหาเสียงหนัก “ลุงตู่” บอกว่า สิ่งสำคัญที่สุด คือ ต้องพยายามหาเวลานอนให้มากขึ้น อย่างต่ำต้องให้ได้ 6 ชั่วโมง

“เมื่อคืนนอน 2-3 ชั่วโมง กลับมาดึก 5-6 ทุ่ม กว่าจะง่วงตี 1 หลับตีหนึ่งครึ่ง พอตีสองครึ่งก็ตื่นแล้ว หิวข้าว เมื่อวานทั้งวันไปเชียงใหม่ เช้า กลางวัน เย็น ไม่ได้กินอะไร กินไม่ลง กินได้คำสองคำ มันแสบท้อง ตื่นขึ้นมาตีสี่ ตีห้า นอนไม่หลับ พยายามนอนลากยาวให้ถึงหกโมงเช้า แต่ทำไม่ได้”

พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า แม้จะนอนไม่พอ ก็ไม่ง่วง เวลาอยู่ที่ทำงาน อาจมึนศีรษะนิดหน่อย และไม่มีปัญหาสุขภาพอื่น ไม่มีโรคประจำตัว ไม่มีโรคความดันและเบาหวาน อาจกินยาอยู่บ้าง ก็ไม่ได้อันตราย คุมอยู่ทั้งหมด

“มีเวลาออกกำลังกาย ก็เดินสายพาน วิ่งสายพาน ผมไปไหนลำบาก แค่ออกกำลังกายวิ่งอยู่ในบ้าน ก็มีหมาเต็มไปหมด ปกติมีขบวน รปภ.นายกฯ ไปไหนคนเดียวได้เมื่อไหร่”

ในอนาคต หากถึงเวลาต้องเกษียณ พล.อ.ประยุทธ์ บอกว่า “ผมก็ไปของผม อย่ามายุ่งกับผมแล้วกัน ผมก็ไปเดินตลาดนัดบ้าง อะไรบ้าง”

เดินสายหาเสียงทั่วประเทศ มีเวลาไปไหว้พระ ไม่วายถูกมองเป็นสายมูเตลู แต่ “ลุงตู่” บอกว่า เมื่อวันที่ 21 เม.ย.2566 ไปไหว้ศาลหลักเมืองครบรอบ 241 ปี ก็ยังถูกว่าไป “มู” ทั้ง ๆ ที่เป็นงานที่จัดโดยกระทรวงกลาโหมในทุกๆ ปี

“มูเตลู อะไรนักหนา เขาสวดมนต์ให้ประเทศชาติ เขาเชิญมา ผมก็ไปให้ ผมอธิษฐาน ไม่ใช่ให้ตัวผมอย่างเดียว อธิษฐานให้ชาติ ศาสน์ กษัตริย์ ประชาชน ครอบครัวผมให้มีความสุขปลอดภัย เท่านั้นเอง ผมขอแค่นี้”

ทุกครั้งที่ไปไหว้พระ ไม่เคยบน และไม่ขออะไร ไม่ต้องขอ เพราะคิดว่า ถ้าทำดีแล้ว ท่านก็ให้เองแหละ ถ้าทำไม่ดี ขอยังไง ท่านก็ไม่ให้ เพราะความดีมันอยู่ในอากาศ อยู่ที่คนจะเก็บเกี่ยวยังไงมา ถ้าคุณเปิดใจ ทำในสิ่งที่ดี ๆ ก็มาเองแหละ

ถามมั่นใจว่าได้ทำความดีเอาไว้พอจะดูแล? ลุงตู่ สวนทันควันว่า “อ้าว ไม่ดี จะได้เป็นนายกฯ ได้ยังไงล่ะ ก็ไม่ได้เป็นนายกฯ ดูดวงชะตาชีวิต เส้นชีวิต ผมก็ดูบ้างนะ ผมว่ามันจะเหมือนคนอื่นบ้างหรือเปล่า มันก็คล้ายกันนะ”

“แต่บางคนเขาดูผม บอกชีวิตดี จะได้เป็นผู้หลักผู้ใหญ่ เป็นหลักเป็นฐาน เขาบอกว่าจะเป็นมากกว่านี้อีก ผมบอกแค่นี้ ก็แย่พออยู่แล้ว”

สำหรับการดูดวง ความเชื่อโหราศาสตร์ และความเชื่อหมอดูนั้น

เป็นคนไทยมันต้องมีบ้าง เตือนอะไรก็ต้องฟัง แต่ไม่ใช่กระดิกไม่ได้ แต่ไม่ใช่ว่าจะก้าวเท้าอย่างไรต้องระวังหมด และผมก็ห้อยพระ

“ห้อยพระอะไร พระปราบศัตรูหรือเปล่า ?…ไม่บอก ห้อยพระที่เมตตา พระทั่ว ๆ ไป ผมไม่มีศัตรู มีตรงไหน ใครเป็นศัตรูกับผม ประกาศมาเลยซิ”

“ลุงตู่” บอกว่า สิ่งที่อยากทำที่สุดหากไม่เล่นการเมือง คือ การพาครอบครัวไปพักผ่อนเที่ยวในประเทศ เพราะตลอด 8 ปี ไม่เคยไปไหนด้วยกัน แม้ไม่ค่อยมีเวลาให้ครอบครัว แต่ลูก ๆ และภรรยา ไม่บ่น เพราะเราทำเพื่อประเทศชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์

“สัญญาตั้งแต่เป็น ผบ.ทบ.ไว้แล้วว่า หากเกษียณแล้วจะไปเที่ยวด้วยกัน ถึงเวลาเมื่อไหร่ก็เมื่อนั้น ไม่ได้เบี้ยว แต่สถานการณ์ก็เปลี่ยนตามนั้นแหละ”

ออกหาเสียงทุกวัน แต่ พล.อ.ประยุทธ์ ยังมีเวลาเล่นกับสุนัขตัวโปรด 3 ตัว เจ้าเสือ, หมี และไทเกอร์ หมีเป็น สุนัขพันธุ์บางแก้ว ,ไทเกอร์ พันธุ์เฟรนช์บูลด็อก, ส่วนเสือเป็นบีเกิ้ล ทั้งหมดเลี้ยงมาตั้งแต่ตัวเล็ก ๆ ได้มาจากต่างหวัด

“กลับบ้านตอนเย็น ๆ ก็ไปเล่น ผมชอบสุนัขพันธุ์บางแก้ว มันซื่อสัตย์ แต่บางทีมันดุ เมื่อก่อนใครไปบ้าน มันก็กัดทุกคน โตแล้วก็หายดื้อ เวลาเจอผม มันก็ปีน ..สุนัข มันรักเจ้าของอยู่แล้ว แม้จะห่างกันไป เขาจำกลิ่นได้ ถ้าไม่เล่นด้วย เขาจะเหงา แต่พอเจอหน้าก็ดีใจเหมือนเดิม”

ลุงตู่ บอกว่า ทุกวันนี้พอใจกับชีวิตของตนเอง ส่วนวันหน้าเป็นอย่างไร ก็ว่ากันต่อไป นี่คือชีวิตของคนทุกคน มันพร้อมจะเปลี่ยนก็ได้ อย่าไปคิดอะไรมาก

“อาการมือบวม ซึ่งเกิดจากแผลติดเชื้อ ไปผ่ามาแล้ว และแผลก็หายดีแล้ว แต่ที่ยังต้องใส่ปลอกมือ เพราะป้องกันไม่ให้ติดเชื้อ ยังชก มวยได้อยู่ แต่ไม่รู้จะชกกับใคร”

ทิ้งคำตอบไว้

อีเมล์ของคุณจะไม่ถูกเผยแพร่

This website uses cookies to improve your experience. We'll assume you're ok with this, but you can opt-out if you wish. Accept Read More