พรรคพลังปวงชนไทย
เพื่อคนไทยทั้งแผ่นดิน

พปชร. ปราศรัยเดือด ! หยาม 3 พรรคร่วมรัฐบาล ไม่มีทางได้เป็นรัฐบาล

‘ประวิตร’ นำทีม พปชร. ปราศรัยอ้อนคนเมืองคอนฯ กาเบอร์ 37 ‘สนธิรัตนห์’ หยาม 3 พรรค ‘ปชป.-ภท.-รทสช.’ ตั้งรัฐบาลยาก มีแค่พลังประชารัฐเท่านั้นทำได้

วันที่ 29 เม.ย. ที่สนามหน้าเมือง ถ.ราชดำเนิน อ.เมือง จ.นครศรีธรรมราช พรรคพลังประชารัฐจัดเวทีปราศรัยใหญ่ ช่วยผู้สมัคร ส.ส.นครศรีธรรมราช ของพรรคพลังประชารัฐทั้ง 10 เขต โดยมีประชาชนมาฟังร่วมหมื่นคน ขณะที่แกนนำพรรคเดินทางมาร่วมหลายคน นำโดย พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะหัวหน้าพรรค สันติ พร้อมพัฒน์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง ในฐานะเลขาธิการพรรค

ชัยวุฒิ ธนาคมานุสรณ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม ในฐานะรองหัวหน้าพรรค วิรัช รัตนเศรษฐ รองหัวหน้าพรรค ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า ผู้สมัคร ส.ส.พะเยา ในฐานะประธานยุทธศาสตร์เลือกตั้งภาคเหนือ สนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ ประธานยุทธศาสตร์การเมือง และนฤมล ภิญโญสินวัฒน์ เหรัญญิกพรรค

พล.อ.ประวิตร กล่างปราศรัยว่า ตนมาพบกับประชาชนเพื่อยืนยันว่า ตนและพรรคพลังประชารัฐพร้อมที่จะรับใช้ชาวนครศรีธรรมราชทุกคน ให้ จ.นครศรีธรรมราชรุ่งเรืองต่อไป ถ้าอยากให้เจริญต้องเลือกพลังประชารัฐเราเลือกคนดี คนเก่ง คนทำงาน มาเป็นผู้แทนทั้ง 10 เขต การเลือกพลังประชารัฐต้องเลือกเบอร์ 37 ด้วย

ตนอยากให้คนไทยรักสามัคคีกัน ให้ประเทศเกิดความสงบสุข ก้าวข้ามความขัดแย้ง ก้าวข้ามความยากจนไปด้วยกัน การเลือกตั้งจะมีขึ้น พรรคพลังประชารัฐเสนอนโยบายที่เป็นประโยชน์ต่อประชาชนจำนวนมาก พรรคพลังประชารัฐจะทำทุกวิถีทางเพื่อให้ประชาชนอยู่ดีกินดี มีความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น ก้าวข้ามความขัดแย้ง นำพาคนเก่งมาร่วมมือกันเพื่อสร้างความสงบสุขรุ่งเรืองให้ประเทศ ขอให้เชื่อมั่นพลังประชารัฐ 

ขณะที่ สนธิรัตน์ กล่าวปราศรัยว่า จ.นครศรีธรรมราช เป็นหนึ่งในจังหวัดที่จะชี้ชะตาการเลือกตั้ง ตนได้กลิ่นไอปัญหาการเมืองข้างหน้า พรรคหนึ่งบอกจะแลนด์สไลด์ พรรคหนึ่งบอกจะล้มรัฐบาลเดิมที่มีมา บอกว่าเลือกตั้งครั้งนี้จะต้องเปลี่ยนแปลงประเทศ คนภาคใต้เหนื่อยยากมามากกับการเมือง วันนี้ตนบอกกับการเมืองว่าบ้านเมืองหลังเลือกตั้งจะเป็นเวลาที่ยุ่งยากใจที่สุด จะกลับไปอยู่กับการต่อสู้ วันนี้มีพรรคการเมืองเดียวที่จะเป็นตัวแปรสำคัญต่อการตัดสินใจชองชาวภาคใต้ พรรคการเมืองที่จะเป็นตัวแปรให้ผ่านพ้นการต่อสู้และขัดแย้ง ตนบอกได้เลยว่า เหลืออยู่พรรคเดียวชื่อว่า พลังประชารัฐ เพราะหลังเลือกตั้งจะจัดตั้งรัฐบาลไม่ได้ เสียงจะก้ำกึ่งกันมาก 

สนธิรัตน์ กล่าวว่า ใน 4 พรรคที่ท่านจะตัดสินใจ เดิมพวกท่านรักพรรคเก่าแก่อยู่พรรคหนึ่ง มักจะกาคะแนนให้เขา แต่พรรคนั้นวันนี้โอกาสตั้งรัฐบาลน้อยมาก พรรคที่ 2 เป็นพรรคที่ขณะนี้พยายามกวาดพื้นที่ภาคใต้ให้ได้เสียงมากที่สุดคือพรรคภูมิใจไทย แต่พรรคภูมิใจไทยวันนี้ตนบอกเลยว่าเป็นรัฐบาลยากมากๆ

และพรรคที่ 3 เป็นพรรคที่แยกออกไปจากพลังประชารัฐ ชื่อว่า พรรครวมไทยสร้างชาติ พรรคนี้ยากที่สุดที่จะเป็นรัฐบาล ในทั้งหมด 4 พรรค มีอยู่พรรคๆ เดียวที่เป็นพรรคก้าวข้ามความขัดแย้ง เป็นพรรคที่จะสามารถเป็นตัวแปรรวมทุกฝ่ายคือ พลังประชารัฐตนต้องการมาบอกชาวนครศรีธรรมราชว่า พี่น้องกำลังชี้ชะตาอนาคตประเทศไทย 

หากตัดสินใจผิด เลือกพรรคผิด เลือกผู้แทนที่ไม่ได้เป็น ส.ส.ของรัฐบาล จะไม่มีใครดูแลประชาชน ต้องเลือก ส.ส.ของ พลังประชารัฐ ทั้ง 10 เขต พปชร.จะเป็นตัวแปร ถ้าถามว่าจริงหรือไม่ จริงหรือไม่จริง ขอให้ดูว่าที่นายกฯ พลังประชารัฐที่ชื่อ พล.อ.ประวิตร เป็นคนเดียวที่เหมาะสมที่สุดที่จะเป็นนายกฯ เพราะเป็นคนเดียวที่มีบารมีการเมืองมากที่สุด เชื่อมโยงคนทุกฝ่ายได้ เป็นคนเดียวที่มีประสบการณ์การเมืองยาวนานที่สุด 

ด้าน ร.อ.ธรรมนัส กล่าวปราศรัยว่า ตนเชื่อว่าเวทีแห่งนี้ไม่มีพรรคไหนทำยิ่งใหญ่เหมือนครอบครัวพลังประชารัฐ จ.นครศรีธรรมราช คือเมืองหลวงของปักษ์ใต้ หลายคนพูดถึง จ.นครศรีธรรมราช ตนมีสหายรักเยอะที่นี่ แล้วมีแม่ของลูกอยู่ จ.นครศรีธรรมราชด้วย ที่ผ่านมาพรรคพลังประชารัฐได้รับความไว้วางใจจากชาวนครศรีธรรมราช คนนครศรีธรรมราชทำให้เห็นว่าไม่ใช่เอาเสาไฟลงแล้วจะเลือก

‘ป้อม’ เมินกระแส ‘เพื่อไทย-ก้าวไกล’ มาแรงปักษ์ใต้ หวังกวาด ส.ส. ยกเมืองคอนฯ 

ภายหลังการปราศรัยใหญ่พรรคพลังประชารัฐ จ.นครศรีธรรมราช พล.อ.ประวิตร ให้สัมภาษณ์แก่สื่อมวลชนถึงบรรยากาศในการปราศรัยวันนี้ว่า คนนครศรีธรรมราชก็ดี ก็เรียบร้อยดี เขามาให้การสนับสนุนพรรคพลังประชารัฐ ก็ขอบคุณคนนครศรีธรรมราชทุกคน คนนครศรีธรรมราชรักตน แล้วตนจะไม่รักคนนครศรีธรรมราชได้อย่างไร 

เมื่อถามว่า เท่าที่ประเมินคิดว่า พรรคพลังประชารัฐจะได้ ส.ส. ยกจังหวัดหรือไม่ พล.อ.ประวิตร กล่าวว่า ถ้าได้ก็เอา

เมื่อถามว่า กระแสในภาคใต้พรรคก้าวไกลและพรรคเพื่อไทยมาแรง พรรคพลังประชารัฐจะมีกลยุทธ์อย่างไร พล.อ.ประวิตร กล่าวว่า ก็แล้วแต่

ทั้งนี้เมื่อผู้สื่อข่าว พยายามถามถึงการจับขั้วทางการเมือง พล.อ.ประวิตร ปฏิเสธที่จะตอบคำถาม

ทิ้งคำตอบไว้

อีเมล์ของคุณจะไม่ถูกเผยแพร่

This website uses cookies to improve your experience. We'll assume you're ok with this, but you can opt-out if you wish. Accept Read More