พรรคพลังปวงชนไทย
เพื่อคนไทยทั้งแผ่นดิน

เลือกตั้ง2566 : “วิษณุ” เผย 8 พรรคตั้งคณะทำงานฯ-ขอข้อมูล ขรก.ได้ แต่อย่าทำให้ลำบากใจ

วันนี้ (31 พ.ค.2566) นายวิษณุ เครืองาม รองนายกฯ ฝ่ายกฎหมายสอบถามถึงกรณี 8 พรรคพรรคร่วมจัดตั้งรัฐบาล ตั้งคณะทำงานช่วงเปลี่ยนผ่านว่าสามารถทำได้หรือไม่ โดยระบุว่า การตั้งคณะทำงานดังกล่าวนั้นเป็นการเตรียมตัวที่ดี และไม่ได้เป็นการแทรกแซง และการขอความร่วมมือฝ่ายราชการไปชี้แจงก็ถือว่า เป็นการทำด้วยสันถวไมตรีอันดีงาม ก็สามารถทำได้ เพราะในอดีตก็มีการเคยทำแต่ครั้งนั้นแนบเนียบ มิฉะนั้นข้าราชการประจำก็อาจจะลำบากใจ เพราะยังทำงานอยู่กับรัฐบาลอยู่ ที่สำคัญกว่านั้นคือยังไม่รู้ว่าใครจะเป็นรัฐบาล

ถ้ามีวี่แววชัด ๆ ว่าพรรคไหน จะเป็นรัฐบาล เช่น สมัยพรรคไทยรักไทยเป็นรัฐบาลครั้งแรกที่มี 300 กว่าเสียง ก็ชัดเจนที่จะกลับเป็นอย่างอื่นไม่ได้ ไม่ต้องอาศัย ส.ว.มาโหวต ตอนนั้น แม้จะยังไม่โปรดเกล้าฯแต่งตั้งนายกฯ เขาก็ไปขอความร่วมมือข้าราชการ ให้ตัวเลขข้อมูล ทำนิ่ง ๆ ทำเงียบหน่อย ๆ ก็ไม่เป็นไร ขณะที่ข้าราชการนั้นไม่ผิด แต่อาจจะอึดอัดใจ ขึ้นอยู่กับว่าขอข้อมูลอะไร

นายวิษณุ กล่าวเพิ่มเติมว่า ก็เขาเชื่อว่าจะเข้ามาบริหารราชการ เขาก็จำเป็นต้องมีข้อมูลแต่ต้องเข้ามาเงียบ ๆ เนียนๆ ก็ไม่มีปัญหาอะไร บางครั้งก็ต้องการข้อมูล ในการจัดอัตรากำลังคน งบประมาณ ซึ่งอย่าแสดงตนว่าเป็นรัฐบาลเพราะยังไม่ใช่ แต่วันนี้ก็ยังไม่มีปัญหาอะไรเลย

ค่อย ๆ ทำกันก็ทำได้ ไม่มีปัญหาอะไร อย่าว่าแต่พรรคการเมืองเชิญ เลย หนังสือพิมพ์เชิญไปนั่งโต๊ะกินข้าวคุยกัน เรื่องนั้นเรื่องนี้ก็ยังคุยกันได้แต่ถ้าทำอึกทึกครึกโครม หรือ แสดงให้เห็นว่า ฉันจะเป็นรัฐบาลแน่ ๆ แล้วนะ อย่างนี้มันไม่ควร เพราะยังไม่ได้เป็น

นายวิษณุ กล่าวเพิ่มเติมว่า เราอยากเห็นคนเป็นรัฐบาลที่พร้อม อะไรที่เอื้อเฟื้อกันได้ก็ทำ แต่อย่าทำให้ฝ่ายข้าราชการประจำเขาอึดอัดลำบากใจ เขายังมีนายอยู่ เขายังมีผู้บังคับบัญชาอยู่ในปัจจุบันที่มีอำนาจเต็ม เพราะฉะนั้นเดี๋ยวจะเขม่นกันขึ้นมาจะลำบาก

อย่าคิดไกล กรณี “พิธา” ถือหุ้นสื่อ”

นายวิษณุ ยังกล่าวถึงกรณีมีกระแสข่าวว่าอาจมีการเลือกตั้งใหม่ หากนายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล ถูกศาลวินิจฉัยเรื่องขาดคุณสมบัติจากกรณีถือครองถือหุ้นไอทีวี ทำให้ขัดกับคุณสมบัติการเป็น ส.ส.จะกระทบกับการเป็นนายกฯ

รวมถึงการเซ็นรับรองผู้สมัคร ส.ส.ของพรรคก้าวไกลที่ผ่านมาหรือไม่ว่า โดยนายวิษณุระบุว่า ตนตอบไม่ถูก ซึ่งเรื่องนี้อยู่ที่ผู้ร้องว่าร้องในประเด็นใด ถ้าร้องในประเด็นว่า ขาดจากการเป็น ส.ส.นายพิธาก็สามารถเป็นนายกฯได้ เพราะนายกฯ ไม่ต้องเป็น ส.ส.ก็ได้

หากถ้าร้องว่า ขาดจากความเป็นนายกฯ ก็สามารถเป็น ส.ส.ได้ แต่ถ้าผู้ร้องนั้นร้องทั้ง 2 เรื่อง ศาลฯก็จะวินิจฉัยทั้ง 2 เรื่อง หรืออาจจะกระทบไปอีกประเด็น คือการเซ็นรับรองสมาชิกพรรค

ดังนั้นอยู่ที่คำร้องว่าจะร้องอย่างไร จะร้องทั้ง 3 ประเด็นเลยหรือไม่ แต่อย่าเพิ่งคิดไปไกลขนาดนั้น เอาทีละประเด็น คณะกรรมการการเลือกตั้ง ยังไม่ได้ทําอะไรเลย อย่าเพิ่งคิดในแง่ร้าย

อย่างไรก็ตาม การที่ตนพูดแบบนี้ ไม่ใช่มาแนะนำว่าจะต้องร้องอย่างไร เพราะอยู่ที่ผู้ร้องเองว่า ร้องประเด็นใดศาลก็จะวินิจฉัยในประเด็นนั้น ถ้าร้อง 3 ประเด็นศาลก็วินิจฉัยทั้ง 3 ประเด็น

ผู้สื่อข่าวถามว่า หากมีการร้องในประเด็นเรื่องเซ็นรับรองสมาชิกพรรค จะต้องมีการเลือกตั้งใหม่ทั้งหมดหรือไม่ นายวิษณุ กล่าวว่า ถ้าเป็นอย่างนั้นก็ต้องเลือกตั้งซ่อมใหม่ทั้งหมด

อย่างในอดีตที่คุณหญิงพจมาน ณ ป้อมเพชร อดีตภรรยาของนายทักษิณ ชินวัตร ไปกาลงคะแนน และมีคนไปถ่ายไว้ ซึ่งเกิดเหตุเพียงคูหาเดียว แต่ทำให้การเลือกตั้งครั้งนั้นโมฆะทั้งประเทศ ดังนั้นกรณีนี้ก็เช่นเดียวกัน หากมีการเลือกตั้งซ่อมก็ต้องเลือกตั้งใหม่ทั้งประเทศ

อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง 

เลือกตั้ง2566 : “พิธา” แถลง ตั้ง 7 คณะแรกทำงานช่วงเปลี่ยนผ่าน  

เลือกตั้ง:2566 “พิธา” โต้ทันควัน “ประยุทธ์” ปัดล้วงลูกงาน ขรก.  

ตำนาน “แต่งชุดขาวรอเก้อ” สมบุญ ระหงษ์ ไม่ได้เป็นนายกฯ  

 

ทิ้งคำตอบไว้

อีเมล์ของคุณจะไม่ถูกเผยแพร่

This website uses cookies to improve your experience. We'll assume you're ok with this, but you can opt-out if you wish. Accept Read More