พรรคพลังปวงชนไทย
เพื่อคนไทยทั้งแผ่นดิน

นายกรัฐมนตรีไทย-กัมพูชา พบปะครั้งแรกหลังรับตำแหน่งใหม่

วันนี้ (28 กันยายน 2566) เวลา 10.30 น. (เวลาที่กรุงพนมเปญเท่ากับเวลาที่กรุงเทพฯ) นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี และ รมว.คลัง พร้อมคณะ เดินทางถึงท่าอากาศยานนานาชาติกรุงพนมเปญ ราชอาณาจักรกัมพูชา จากนั้นนายกรัฐมนตรีและคณะ เดินทางไปยังสำนักนายกรัฐมนตรีราชอาณาจักรกัมพูชา เพื่อเข้าร่วมพิธีต้อนรับอย่างเป็นทางการ

จากนั้น เวลา 11.00 น. นายกรัฐมนตรีหารือทวิภาคีกับสมเด็จมหาบวรธิบดี ฮุน มาแนต (H.E. Samdech Moha Borvor Thipadei Hun Manet) นายกรัฐมนตรีราชอาณาจักรกัมพูชา

นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี เดินทางไปเยือนประเทศกัมพูชา

นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี เดินทางไปเยือนประเทศกัมพูชา

ภายหลังการหารือ นายชัย วัชรงค์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยสาระสำคัญว่า ก่อนการหารือนายกรัฐมนตรีทั้งสอง ต่างแสดงความยินดีต่อกันในโอกาสเข้ารับตำแหน่งนายกรัฐมนตรี ในช่วงเดียวกัน และมีเป้าหมายในการขับเคลื่อนพัฒนาประเทศในทิศทางเดียวกัน

โดยต่างย้ำมิตรภาพอันใกล้ชิดระหว่างสองประเทศ และเป็นช่วงเวลาเหมาะสมที่จะเปิดศักราชใหม่ของความสัมพันธ์ ซึ่งนายกรัฐมนตรีทั้งสอง ประกาศยกระดับความสัมพันธ์หุ้นส่วนยุทธศาสตร์ และนายกรัฐมนตรีไทย ขอเชิญนายกรัฐมนตรีกัมพูชาเยือนไทยด้วย

ส่วนประเด็นสำคัญ ที่ผู้นำทั้งสองได้หารือกันคือ ความร่วมมือทางเศรษฐกิจ ความร่วมมือทางด้านเศรษฐกิจ นายกรัฐมนตรีไทยและกัมพูชา เห็นพ้องตรงกัน ที่จะส่งเสริมความร่วมมือมากยิ่งขึ้นทั้งการค้า การท่องเที่ยว การลงทุน การพัฒนาพื้นที่ชายแดน และภาคเศรษฐกิจใหม่

โดยเฉพาะอย่างยิ่ง การร่วมกันอำนวยความสะดวก และเพิ่มปริมาณการค้า ให้บรรลุเป้าหมาย 1.5 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ภายในปี 2568 รวมถึงผลักดันการขนส่งข้ามแดนโดยเร่งรัดเปิดใช้สะพานมิตรภาพที่บ้านหนองเอี่ยน-สตึงบท การสร้างเครือข่ายทางธุรกิจ การยกระดับจุดผ่านแดน และร่วมกันในเศรษฐกิจดิจิทัลและสีเขียว

ในด้านการท่องเที่ยว นายกรัฐมนตรีได้เสนอให้ไทยและกัมพูชา ส่งเสริมการท่องเที่ยว และเพิ่มความร่วมมือด้านการท่องเที่ยวเชิงการแพทย์และสุขภาพ พร้อมทั้งขอให้กัมพูชาอนุญาตให้ใช้บัตรผ่านแดนชั่วคราว เพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยวตามแนวชายแดน

ส่วนการลงทุน ผู้นำทั้งสองเห็นพ้องที่จะสนับสนุนการลงทุนระหว่างกันให้มากขึ้น รวมถึงเชื่อมโยงห่วงโซ่อุปทานให้ใกล้ชิดยิ่งขึ้น รวมทั้งส่งเสริมให้มีการจับคู่ธุรกิจมากขึ้น โดยเฉพาะ SMEs และผู้ประกอบการรุ่นใหม่

ด้านความมั่นคง นายกรัฐมนตรีได้เสนอให้กัมพูชาจัดการประชุมคณะกรรมการเขตแดนร่วม (Joint Boundary Committee: JBC) ครั้งต่อไป เพื่อเดินหน้ายกระดับจุดผ่านแดน เพิ่มปริมาณการค้าชายแดน และยังได้เสนอให้ทั้งสองประเทศ เร่งเก็บกู้ทุ่นระเบิดตามพื้นที่ชายแดน เพื่อความปลอดภัยของประชาชน และปูทางการพัฒนาเศรษฐกิจบริเวณชายแดน

โดยนายกรัฐมนตรีย้ำว่า คณะทำงานของทั้งสองฝ่ายควรร่วมกันติดตามผล และนำการหารือของผู้นำทั้งสองในวันนี้ไปดำเนินการให้เกิดผลเป็นรูปธรรม และนำกลับมารายงานให้ทราบ

ทั้งนี้ นายกรัฐมนตรีสนับสนุน ให้มีการแลกเปลี่ยนการเยือนระหว่างหน่วยงานความมั่นคงในทุกระดับอย่างสม่ำเสมอ รวมทั้ง อาชญากรรมข้ามชาติโดยเฉพาะบริเวณชายแดน พร้อมย้ำถึงการทำงานและความร่วมมือที่ใกล้ชิดเพื่อร่วมกันปราบปรามแก๊งคอลเซ็นเตอร์

ในตอนท้าย นายกรัฐมนตรีย้ำถึงความเป็นพันธมิตรด้านการพัฒนาที่แข็งแกร่งระหว่างกัน ซึ่งรวมถึงด้านการศึกษา การพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ และการพัฒนาที่ยั่งยืน โดยพร้อมที่จะทำงานและร่วมมืออย่างใกล้ชิดกับกัมพูชา เพื่อช่วยกันติดตามข่าวปลอม (fake news) ที่อาจสร้างความเข้าใจผิดในหมู่ประชาชน เพื่อดำเนินการป้องกันอย่างทันท่วงทีเมื่อจำเป็น

จากนั้น นายกรัฐมนตรีและนายกรัฐมนตรีราชอาณาจักรกัมพูชา ร่วมทำพิธีส่งมอบเชิงสัญลักษณ์ ศูนย์แรกรับเหยื่อการค้ามนุษย์และกลุ่มเสี่ยงในปอยเปต จ.บันเตียเมียนเจย ก่อนจะรับประทานอาหารร่วมกัน

อ่านข่าวอื่นๆ

จับกระแสการเมือง : วันที่ 28 ก.ย.66 “เศรษฐา” หลบร้อนการเมืองไปกัมพูชา สนามสีกากี “โจ๊ก อัคนี” ไม่มีแผ่ว

“ชัยวัฒน์” ได้ประกัน ม.157 “คดีบิลลี่” จ่ออุทธรณ์

“ยัดห่วงไทย” พ่าย ฟิลิปปินส์ ลุ้นคว้าชัยนัดสุดท้ายหากหวังเข้ารอบ

 

ทิ้งคำตอบไว้

อีเมล์ของคุณจะไม่ถูกเผยแพร่

This website uses cookies to improve your experience. We'll assume you're ok with this, but you can opt-out if you wish. Accept Read More